- 27 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
"มะนาว" เป็นลูกเล็กๆ ที่เราใช้กันในครัว แต่รู้ไหมว่ามะนาวไม่ได้มีประโยชน์แค่ใช้ปรุงรสอาหารเท่านั้น แต่มะนาวยังมีสรรพคุณอีกเพียบ!! รู้กันไหมว่า มะนาว นี่แหละที่จะช่วยในเรื่องของความงามได้เป็นอย่างดีตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลยทีเดียว เราลองมาดู 11 เคล็ดลับความงาม ที่จะทำให้คุณสวยขึ้นได้ มาดูกันเลย!!
1. เป็นมอยเจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ผสมน้ำมะนาว 2-3 หยด กับน้ำมะพร้าวเท่าๆ กัน มะพร้าวจะช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน ส่วนมะนาวจะช่วยทำให้ผิวขาวสดใสขึ้น
2. ขจัดสิวเสี้ยน สิวหัวดำ มะนาวมีสารที่เป็นแอนตี้แบคทีเรีย ที่สามารถช่วยรักษาเรื่องสิวๆ ได้ ไม่ว่าจะสิวเสี้ยน สิวหัวดำ รอยดำจากสิว เพียงแค่ผ่ามะนาวเป็นครึ่งซีก คั้นเอาน้ำมะนาวทาตรงจุดที่มีปัญหาจากสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ทำอย่างนี้เป็นประจำ เจ้าสิวตัวร้ายจะค่อยๆ หลุดออกจนคุณไม่ทันได้สังเกตเลย
3. แก้ปัญหาข้อศอกและหัวเข่าดำ สลัดความกังวลเรื่องเรื่องข้อศอกและหัวเข่าดำ หยิบกางเกงขาสั้นมาใส่โชว์เรียวขาสวยๆ โดยไม่ต้องอายอีกต่อไป เพราะเจ้ามะนาวชิ้นเล็กๆ นี่ล่ะ เพียงแค่หั่นมะนาวครึ่งซีก เอามาขัดที่หัวเข่าและข้อศอกเป็นประจำ รับรองคุณจะเห็นถึงความมหัศจรรย์ของมะนาวอย่างแน่นอน
4. ทำให้ผิวขาวใสขึ้น มะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซิตริกที่สูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกๆ ประเภท สามารถช่วยทำให้ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้นได้ วิตามินซี เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นเยี่ยม ช่วยในการฟื้นฟูและผลิตคอลลาเจนให้กับผิว นั่นหมายความว่า มันสามารถช่วยทำให้จุดด่างดำจางลง และแก้ปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกันได้ด้วย แต่หลังจากที่ใช้น้ำมะนาวบนผิวทุกครั้ง อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกแดด เพราะกรดซิตรัสจากผลไม้จะทำให้ผิวเซนซิทีฟต่อรังสียูวีมากขึ้น
5. รักษาร้อนในในปาก อาการร้อนในเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะ นอนดึก เครียด ขาดวิตามินบี12 หรือกัดปากตัวเอง แต่เกิดขึ้นมาแล้วทำเอาหลายคนหงุดหงิดเพราะจะกินอะไรก็ลำบาก จะนอนก็ทรมานจนนอนไม่หลับ วิธีรักษาเพียงแค่ใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากมะนาว แตะลงตรงจุดที่เป็นร้อนในจะช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น
6. ช่วยลดความมันบนใบหน้า และกระชับรูขุมขน สำหรับสาวที่มีผิวมัน มีปัญหาหน้ามันเยิ้มระหว่างวันทำให้ไม่มั่นใจเอาซะเลย ลองใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้งและดินสองพอง พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ทำแบบนี้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง รูขุมขนจะเล็กลงและปัญหาหน้ามันก็จะหมดไปด้วย
7. ทำให้ฟันขาวขึ้น ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำมะนาว และทาที่ฟัน จากนั้นใช้แปรงสีฟันแปรงเหมือนแปรงฟัน และบ้วนปาก วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายกว่าการไปเข้าร้านหมอฟัน แถมเสียเงินน้อยกว่าด้วย
8. เอามาขัดปาก ก็ได้นะ นำน้ำมะนาวเพียงเล็กน้อยทาไปบนปากก่อนนอน และล้างออกในตอนเช้า จะช่วยทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วและผิวที่แห้งเป็นขุยหลุดลอกออก
9. ช่วยทำให้เล็บแข็งแรงขึ้น ไม่เปราะง่าย ถ้าคุณเป็นคนที่รักการต่อเล็บเป็นชีวิตจิตใจ คุณไม่ควรละเลยการบำรุงเล็บเสียบ้าง เพียงผสมโอลีฟออยล์กับน้ำมะนาว และจุ่มเล็บลงไป เป็นวิธีบำรุงเล็บที่ดีที่จะช่วยให้เล็บของคุณแข็งแรง ไม่หักง่าย และช่วยแก้ปัญหาเล็บเหลืองได้ด้วย
10. ปรับระบบขับถ่าย ดีท๊อกซ์ลำไส้ ช่วยลดน้ำหนัก เพียงแค่บีบน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับโซดา 1 ขวด ซึ่งมีฤทธ์เป็นกรด แล้วดื่มทุกเช้า จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษถูกดันออกมากับอุจจาระ หลังจากที่ดื่มแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที วิธีนี้เรียกว่า…“การดีท็อกซ์ลำไส้” นั่นเองค่ะ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานอย่างเป็นปกติ ร่างกายจะสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งน้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมให้กักเก็บเอาไว้ในเซลล์ไขมันได้ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น ทำให้น้ำหนักของคุณสาว ๆ ลดลงได้อย่างที่ต้องการ
11. ย้อมผมได้ น้ำยาย้อมผม DIY หาได้จากในครัว แค่ก่อนออกจากบ้าน ใช้น้ำมะนาวหมักผมทิ้งเอาไว้เหมือนย้อมผมปกติ เมื่อออกแดดจะทำให้ผมดูสว่างขึ้น และสำหรับคนที่หนังศรีษะแห้งเป็นรังแค น้ำมะนาวสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ด้วย
ประโยชน์ของมะนาว
1. ให้สารวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม กรดมาลิค และกรดซิตริคแก่ร่างกาย
2. ช่วยรักษาผิวแตก เพียงแค่นำน้ำมะนาวมาทาในบริเวณที่ผิวแตกก็เป็นอันเสร็จ
3. รักษาปัญหาส้นเท้าแตก โดยนำน้ำมะนาวมาทาในบริเวณส้นเท้าวันละ 3 ครั้ง จะช่วยให้รอยแตกในบริเวณส้นเท้าค่อยๆ ดีขึ้น
4. หยดน้ำมะนาวลงไปในไข่เจียว จะช่วยให้ไข่ฟูขึ้นและมีความนิ่มร่วมอยู่ด้วย
5. บีบมะนาวลงบนฝ่ามือ จากนั้นลูบไล้ให้ทั่วมือทั้งสองข้าง ช่วยลดกลิ่นคาวปลาหลังจากทำอาหารได้
6. แก้ปัญหาเล็บดำจากการหั่นหรือเด็ดผักเป็นประจำ ด้วยการนำน้ำมะนาวมาถูในบริเวณเล็บจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ใส่น้ำมะนาวประมาณ 2-3 ช้อนชาลงไปในข้าว จากนั้นนำไปซาวข้าว จะช่วยให้ข้าวเป็นสีขาวและอร่อยมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthy-diary