- 16 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เคยสงสัยบ้างไหมว่าการกินยาอาจเกิดการแสลงกับอาหารชนิดใดบ้าง หรือหากจะกินยาพร้อมดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่าจะสามารถทำได้หรือไม่ และอาหารที่เรากินเข้าไปจะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาบ้างหรือเปล่า ซึ่งนอกจากจะต้องทานยาให้ครบจำนวนตามที่แพทย์สั่งแล้ว ก่อนทานยาทุกครั้งก็ควรจะทานอาหารรองท้องไว้ด้วย ซึ่งเชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับยา และรับประทานเข้าไปแบบไม่ถูกต้อง วันนี้เราก็เลยนำเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับอาหาร 5 อย่างที่คุณควรหลีกเลี่ยงเมื่อทานยาดังนี้
1. กล้วย
ภาพประกอบจาก www.flickr.com
ผลไม้กลิ่นหอม รสชาติหวานอย่างกล้วย ที่ปกติแล้วนับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ทว่าในช่วงเวลาที่เราเกิดความเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคความดันโลหิต และกำลังรักษาด้วยยาลดความดันโลหิตในกลุ่ม ACE inhibitors โพแทสเซียมปริมาณสูงในกล้วย อาจเพิ่มผลกระทบต่อยาและทำให้เพิ่มค่าโพแทสเซียมในเลือด ส่งผลโดยตรงต่อการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้กล้วยยังมีสารไทรามีนสูงมาก อาจทำให้ผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ซึมเศร้ากลุ่ม MAOIs รุนแรงขึ้นอีกด้วย
2. น้ำเกรปฟรุต
ภาพประกอบจาก www.pexels.com
สถาบันวิจัยสุขภาพลอว์สัน จากมหาวิทยาลัยเวสต์เทิร์น ออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวารสารสมาคมการแพทย์แคนาดา เปิดเผยว่า ชนิดของยาที่มีผลข้างเคียงในระดับรุนแรงต่อน้ำเกรพฟรุต เพิ่มขึ้นจาก 17 ชนิด ในปี 2008 เป็น 43 ชนิด ในปี 2012
โดยประเภทของยาที่มีผลข้างเคียงในระดับอันตราย เช่น ยาลดความดันเลือดสูง ยามะเร็ง และยาลดระดับคอเลสเตอรอล หรือยาที่ใช้เพื่อกดระบบภูมิต้านทาน หลังจากเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ ส่วนความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับประเภทของยา ซึ่งอาจทำให้มีอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไตเสียหายเฉียบพลัน หรือเสียชีวิต
3. อาหารที่มีกากใยสูง
ภาพประกอบจาก www.flickr.com
กากใยอาหารนั้นเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของร่างกายเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ และยังดีมากๆ ต่อการลดน้ำหนักเพราะทำให้อยู่ท้อง แต่ช่วงที่ทานยาเกี่ยวกับฮอร์โมนไทรอยด์ ยา digoxin หรือยากันชัก กากใยอาหารถือเป็นพิษต่อโรคอย่างมากเพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมยาน้อยกว่าที่ควร ซึ่งจะทำให้หายช้ากว่าปกติ หรืออาจไม่ดีขึ้นเลย
อาหารที่มีกากใยสูง มักจะจัดอยู่ในประเภทพืชผักและผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น
1. ในผัก ได้แก่ ผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง ถั่วงอก ผักกระเฉด ผักกวางตุ้ง
2. ในผลไม้ ได้แก่ กล้วยน้ำว้า มะละกอสุก ส้ม ฝรั่ง แก้วมังกร แอปเปิ้ล ลูกพรุน กีวี่ แคนตาลูป
3. ในธัญพืช ได้แก่ ข้าวกล้อง พืชตระกูลถั่ว ข้างเหนียวดำ ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือ ข้าว มันปู รำข้าว
4. นม
ภาพประกอบจาก pixabay.com
ใครๆ ก็รู้ว่านมนั้นดีต่อสุขภาพมากอย่างไร แถมยังดีต่อทุกเพศทุกวัยอีกต่างหาก ทว่านมนั้นจะทำให้ร่างกายดูดซึมยาฆ่าเชื้อในกลุ่ม tetracyclines และ fluoroquinolones เช่น norfloxacin และ ciprofloxacin ได้น้อยลงมาก ในช่วงที่กำลังรักษาโรคด้วยยาเหล่านี้ จึงควรทานยาก่อนดื่มนมสัก 1 ชั่วโมงหรือหลังดื่มนม 2 ชั่วโมงดีกว่า
5. แครนเบอร์รี
ภาพประกอบจาก www.flickr.com
แครนเบอร์รีเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีสูง ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของมันเลยว่าดีขนาดไหน แต่คงไม่ดีแน่ถ้าทานผลหรือดื่มน้ำแครนเบอร์รีในช่วงที่ทานยากันเลือดเป็นลิ่ม เช่น วาร์ฟาริน เพราะอาจเพิ่มฤทธิ์ของยาจนกลายเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
หากคุณอยากจะให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อไม่ให้อาหารเหล่านั้นเข้าไปขัดขวางการดูดซึม และลดประสิทธิภาพในการรักษาของยา และไม่เกิดผลร้ายต่อตัวเองอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วย และสิ่งสำคัญเวลารับยาจากเภสัช ต้องรู้จักสอบถามข้อควรระวังในการใช้ยาทุกครั้ง และสามารถแชร์ต่อเพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : health.haijai , gangbeauty , hq.prd.go.th , mthai



