- 25 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
คำแนะนำเบื้องต้น และข้อควรระวังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม สำหรับการกู้รถเมื่อรถยนต์ของท่านจมน้ำ ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ทำให้น้ำท่วมหลายในพื้นที่ โดยที่ไม่ทันตั้งตัวหรือในกรณีที่เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ แล้วน้ำไหลเข้ารถยนต์ ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ถอดขั้วบวกแบตเตอรี่ของรถท่าน ออกทันที(ข้างที่มีสีแดง) หากถอดออกได้ทั้ง 2 ขั้วก็ยิ่งดี จัดการถอดออกโดยทันที ทั้งขั้วบวกและขั้วลบ
2. จดจำระดับน้ำที่เข้ามาในรถว่าสูงระดับไหน? เพื่อแจ้งให้ช่างที่ทำการซ่อมทราบ
3. หากรถท่านมีประกันภัย ให้แจ้งประกันภัยทันที เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาประกันภัย เมื่อบริษัทประกันภัยมาถึงจุดเกิดเหตุ ห้ามใส่ขั้วแบตเตอรี่เพื่อขอทดลองว่ารถเสียหรือไม่ โดยเด็ดขาด
4. เมื่อรับเอกสารการเคลมเรียบร้อยแล้ว ให้รีบนำรถของท่านเข้าศูนย์บริการซ่อมในทันที (ใช้วิธีลาก สไลด์ หรือยกมา เท่านั้น) ศูนย์บริการจะทราบเองว่า รถยนต์ที่มีน้ำเข้าเครื่องยนต์ จะต้องทำอย่างไรในเบื้องต้น ข้อควรระวัง อย่าสตาร์ทหรือลองสตาร์ท เด็ดขาด เครื่องยนต์ของรถท่านจะเกิดความเสียหายได้(คราวนี้จ่ายเป็นแสนเลย) ต่อไปให้เป็นหน้าที่ของช่างซ่อม หากรถท่านใดไม่มีประกันภัยควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ
5. สิ่งที่ช่างในศูนย์บริการจะต้องทำ คือทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่า ตามปลั้กไฟทุกจุดของรถ และให้มั่นใจว่าแห้งดีแล้ว ควรฉีดน้ำยาไล่ความชื้นเข้าร่วมด้วยกันก็จะเป็นการดี
6. ถอดกล่อง ECU สมองเครื่อง สมองเกียร์ ตลอดจนกล่องอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดของรถ มาทำความสะอาดจนมั่นใจว่าแห้งสนิทเป็นอย่างดี เคลือบด้วยน้ำยากันสนิม เพื่อความคงทนของอุปกรณ์
7. ถ่ายของเหลวของรถทิ้งทั้งหมด แม้แต่น้ำมันเชื้อเพลิง ในถังน้ำมัน แล้วเติมของใหม่เข้าไปแทนที่ (ช่างจะทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง)
8. เพียงเท่านี้รถยนต์ของท่านก็จะปลอดภัยแล้ว จ่ายเพียงนิดเดียวหากท่านฝ่าฝืนอาจต้องจ่ายเป็นแสนๆ
ขอบคุณข้อมูล : เฟสบุ๊คเบนซ์วงศ์สว่าง
ภาพจาก : ninethanwa