ผู้เชี่ยวชาญมาเอง! "หมอพรทิพย์" เผยแล้ว? ผลการเสียงชีวิต "น้องกิ๊ฟ" งานนี้เริ่มกระจ่าง สภาพศพมีความผิดปกติ! (รายละเอียด)

จากกรณี ตำรวจสภ.มะขาม จ.จันทบุรี ควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราฯ ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ หรือ โอ้ต แสนกล้า อายุ 24 ปี, นายปัฐวีร์ หรือ ทีม บุญธรรม,นายปัญญา หรือ วิว จันสมดี อายุ 18 ปี และ นายสุรสิทธิ์ หรือ บอล ใจคำมี อายุ 24 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณ ออบิทผับ ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันก่อเหตุ น.ส.กิ๊ฟ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เจ้าของธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์ ที่อยู่ในอาการหมดสติ ไปรุมโทรมข่มขืนในล้งรับซื้อผลไม้แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี และทำให้ น.ส.กิ๊ฟ เกิดช็อกเสียชีวิต และมีคนมาพบศพในรุ่งเช้า

 

โดยล่าสุดในวันนี้นั้น (04/26/2561) ที่รัฐสภา นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ หรือ ทนายสงกานต์ ในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม พร้อมด้วยญาติของน.ส.อุมาพร หอยสังข์ หรือ น้องกิ๊ฟ อายุ 21 ปี หญิงสาวที่ถูก 4 ทรชนรุมโทรมในล้งผลไม้ ที่จ.จันทบุรี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้เข้าพบ  พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อยื่นเรื่องในข้อสงสัยต่าง ๆพร้อมขอให้มีการชันสูตรพลิกศพใหม่อีกครั้ง 

โดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์  กล่าวภายหลังจากพูดคุยกับนายสงกรานต์และญาติของผู้เสียชีวิต ว่า จากข้อมูลเบื้องต้นการเสียชีวิตของ “น้องกิ๊ฟ”เป็นการเสียชีวิตที่น่าจะได้ข้อมูลไม่ยากเนื่องจาก ศพเสียชีวิตในสถานที่เฉพาะสภาพศพอยู่ในสภาพที่ดี มีความผิดปกติบนศพให้เห็นตั้งแต่ตอนพบศพ ณ จุดเกิดเหตุ อีกทั้งศพถูกส่งผ่าพิสูจน์ โดยแพทย์นิติเวชดังนั้นจึงได้แต่แนะนำให้รอผลการผลการพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร  

โดยในระหว่างนี้ตนขอแนะนำให้เก็บศพไว้ในห้องเย็นพร้อมติดต่อพูดคุยกับแพทย์ที่ทำการผ่าศพ เนื่องจากญาติมีสิทธิ์ตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักสากลที่จะรับทราบข้อมูลโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมากรณีดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องปฏิรูปเพราะกรณีการตายเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจจะต้องให้เเพทย์นิติเวชมาบูรณาการทำงานร่วมกับตำรวจไปพร้อมกันๆ ณ จุดเกิดเหตุ 

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า การปฏิรูปนิติวิทยาศาสตร์นั้นมีการเสนอออกกฎหมายใหม่ โดยเฉพาะการรวบรวมพยาน หลักฐาน ในที่เกิดเหตุต้องใช้ผู้มีความรู้ ด้านนิติเวชเท่านั้น รวมถึงจะต้องเก็บหลักฐานส่งตรวจเองทุกขั้นตอนก่อนนำไปประมวลผล ซึ่งต่างจากปัจจุบัน คือ รวบรวมหลักฐานแล้วส่งให้พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนก็เลือกบางส่วนส่งให้นิติเวชตรวจเพราะไม่มีความเข้าใจในกระบวนการตรวจสอบของนิติเวช