สวนกระแสสังคม! "อังคณา" ซัดหนัก? "โทษประหารชีวิต" ไม่ช่วยลด "อาชญากรรม" ลั่น!! กลุ่มค้านกฏหมายประหาร มีเป้าหมายชัด ต้องเยียวยาผู้ถูกกระทำ?!

สวนกระแสสังคม! "อังคณา" ซัดหนัก? "โทษประหารชีวิต" ไม่ช่วยลด "อาชญากรรม" ลั่น!! กลุ่มค้านกฏหมายประหาร มีเป้าหมายชัด ต้องเยียวยาผู้ถูกกระทำ?!

จากกรณี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชาย "ธีรศักดิ์ หลงจิ"  อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 เหตุเกิดที่จังหวัดตรัง โดยนักโทษเด็ดขาดดังกล่าวได้ทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย รวม 24 แผล เป็นเหตุให้เหยื่อถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิตศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิพากษายืนเป็นผลให้คดีถึงที่สุด

สำหรับการบังคับโทษประหารชีวิตดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ประกอบมาตรา 19 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประหารชีวิตนักโทษ พ.ศ.2546 ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการด้วยวิธีการฉีดยาหรือสารพิษให้ตาย นับเป็นผู้ต้องขังรายที่ 7 นับแต่มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 16) พ.ศ.2546 ซึ่งเปลี่ยนวิธีการบังคับโทษประหารชีวิตจากการยิงเสียให้ตายเป็นการฉีดสารพิษ

และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 จนถึงปัจจุบัน มีการบังคับโทษประหารชีวิตมาแล้ว จำนวน 325 ราย โดยแบ่งเป็น การใช้อาวุธปืนยิงจำนวน 319 ราย (ยิงรายสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2546) การฉีดยาสารพิษ จำนวน 6 ราย (ฉีดสารพิษครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2546 และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2552) ดังนั้นนักโทษรายนี้จึงถือเป็นนักโทษเด็ดขาดรายแรกในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อวานที่ผ่านมา (19/06/2561) กลุ่มแอมเนสตี้ได้เชิญชวนทุกคนที่มีจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน มาร่วมไว้อาลัยแด่การตัดสินโทษประหารชีวิต โดยพร้อมกันในวันอังคารที่ 19 มิ.ย. นี้ เวลา 14.00-14.30 น. ณ หน้าเรือนจำกลางบางขวาง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคัดค้านโทษประหารชีวิตทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาประเภทใด ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะมีบุคลิกลักษณะใด หรือไม่ว่าทางการจะใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด รวมทั้งงานวิจัยมากมายจากนานาประเทศได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโทษประหารชีวิตไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของอาชญากรรม

 

สวนกระแสสังคม! \"อังคณา\" ซัดหนัก? \"โทษประหารชีวิต\" ไม่ช่วยลด \"อาชญากรรม\" ลั่น!! กลุ่มค้านกฏหมายประหาร มีเป้าหมายชัด ต้องเยียวยาผู้ถูกกระทำ?!

สวนกระแสสังคม! \"อังคณา\" ซัดหนัก? \"โทษประหารชีวิต\" ไม่ช่วยลด \"อาชญากรรม\" ลั่น!! กลุ่มค้านกฏหมายประหาร มีเป้าหมายชัด ต้องเยียวยาผู้ถูกกระทำ?!

สืบเนื่องจากกรณี บุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ระบุว่า โทษประหารไม่ได้ทำให้อาชญากรรมลดลง ตั้งประเด็นว่าการประหารเป็นการแก้แค้นหรือไม่? เมื่อทราบข่าวก็ตกใจ อยากให้กำลังใจทุกฝ่าย ซึ่งการอยู่ร่วมกันในสังคมต้องเคารพสิทธิในการมีชีวิตอยู่ อยากให้ฟื้นฟูเยียวยาจิตใจผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก

นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงกลุ่มคนที่ค้านกฏหมายประหารด้วยยว่า ที่ได้ออกมาประณามเรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขามีเป้าหมายหลักที่จะรณรงค์ยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลกอยู่แล้ว ซึ่งในเอเชียมีหลายประเทศที่ยังมีโทษประหารชีวิตรวมถึงประเทศไทย และมีหลายประเทศที่กำลังจะพยายามยกเลิกโทษดังกล่าว การออกมาประณามนี้ก็ถือเป็นงานของเขาและเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ขอบคุณเนื้อหาจาก เรื่องเล่าเช้านี้