ไม่เชื่อต้องเชื่อ!! "โหรฟองสนาน" ขยายความผลดาวพฤหัสจร เกิด 3 เหตุสำคัญปลุกคนไทยรวมเป็นหนึ่ง การลุกฮือฟื้นโทษประหาร..ถล่มด่าแอมเนสตี้ก็ใช่!??

 

 

 

 

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ หลังจาก กรมราชทัณฑ์ บังคับโทษตามคำพิพากษาของศาล ด้วยการ ฉีดยาพิษ ประหารชีวิต นายธีรศักดิ์ หลงจิ อายุ 26 ปี นักโทษฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นการประหารชีวิตนักโทษคนแรกในรอบ 9 ปี โดยนายธีรศักดิ์ ได้ทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงผู้ตาย รวม 24 แผล เป็นเหตุให้เหยื่อถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืนเป็นผลให้คดีถึงที่สุด ซึ่งการประหารชีวิตนักโทษคนแรกในรอบ 9 ปี นั้น ก็ทำให้เกิดกระแสพูดถึงเรื่องดังกล่าวอย่างมากมาย

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ นักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กว่า 10 คน ได้รวมตัวกันที่ด้านหน้าเรือนจำกลางบางขวาง ทำกิจกรรมคัดค้านการลงโทษประหารชีวิต โดยสวมเสื้อสีดำ สวมหน้ากากกระดาษสีขาว ชูป้ายมีข้อความคัดค้านการลงโทษประหารเป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยบอกว่าโทษประหารชีวิตไม่ใช่คำตอบของการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และเรื่องนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :  "แอมเนสตี้" สวมหน้ากากชูป้ายต้านโทษประหาร อ้างสารพัดเหตุค้าน...ครอบครัว "เหยื่อ" อาชญากร ยากทำใจเห็นด้วย??) (ชมคลิปวิดีโอแอมนาสตี้รวมตัวด้านล่าง) ซึ่งข้อคิดเห็นดังกล่าวทำให้มีข้อถกเถียงในประเด็นโทษประหารชีวิตอย่างมากมาย รวมไปถึงกลุ่มอ้างสิทธิมนุษยชนด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด อ.ฟองสนาน จามรจันทร์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสและนักโหราศาสตร์ ได้มีการวิเคราะห์ถึงเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้คนไทยกลับมารวมเป็นหนึ่งได้ หลังจากที่ คุณ Adhivish Thum Huayhongthong เพื่อนทางเฟซบุ๊กถามมาว่า การที่คนไทยรวมตัวการสู้กับองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เกือบทั้งประเทศในประเด็นประหารชีวิตนักโทษในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นไปคำทำนายเดิม ที่ว่า เมืองจะมีเหตุการณ์แปลกๆ ให้คนไทยสามัคคีกันใช่หรือไม่ โดย อ.ฟองสนาน ระบุว่า....

 

 

คำตอบคือ ใช่เลย เพราะปรากฏการณ์ (จากลีลาการเดินของดาว) นี้แหละที่ผู้เขียนแอบหวังไว้นานแล้วว่าจะมาช่วยล้างอาถรรพ์ความแตกแยก(ทางความคิด) เหมือนแผ่นดินแยกเป็นสองจนเกิดสงครามสีเสื้อในช่วงที่ผ่านมาได้ ดังนั้น เพื่อความเข้าใจ ผู้เขียนขอลำดับเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง ดังนี้

1.ปูมโหรที่เกิดขึ้นไม่นาน ความแตกแยกอย่างมากของคนในเมือง คล้ายๆ แผ่นดินถูกผ่าอกแยกเป็นสอง ส่วนรอบนี้ แม้จะเริ่มมานานแล้ว แต่เริ่มก่อตัวสู่กระแสสูงมาตั้งแต่ประมาณกันยายน 2555 นำมาสู่ฟางเส้นสุดท้ายที่คนจำนวนเป็นล้านออกมากสู้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่พยายามนิรโทษกรรมยกเข่ง ซึ่งทางโหรเกิดจากพระเสาร์จรเดินเข้าราศีตุลเล็งลัคนาดวงเมืองทำให้ชะตาแตกชั้นที่ 1 เริ่มประมาณกันยายน 2555 ตามด้วยดวงเมืองแตกชั้นที่สองซ้ำเข้ามาอีกเมื่อพระราหูจรเดินเข้าราศีตุลเล็งลัคนาดวงเมืองอีกดวงประมาณธันวาคม 2555 (อ่านได้จากหนังสือเทวสุรสงครามสยามประเทศ-สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ)

 

 

2.เมื่อดวงชะตาดวงเมืองเริ่มหยุดแตกชั้นที่หนึ่งอันเนื่องจากพระราหูจรหยุดเล็งลัคนาเมืองเมื่อปลายมิถุนายน 2557 ทางเหตุการณ์จริงคือการมาของคณะคสช.เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 และหยุดแตกชั้นที่สองเมื่อปลายพฤศจิกายน 2557 เมื่อพระเสาร์จรย้ายราศี ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ และเริ่มกุมสภาพได้นั้นร่องรอยความแตกแยกยังสุมอยู่อย่างมาก

 

 

3.ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ระยะที่ดาวร้ายจรมาระรานดวงชะตาเมืองอย่างหนัก คนไทยแตกแยกกันเองเป็นสองฝั่ง (พระเสาร์-ราหูเล็งลัคนา-ดวงทั้งแตกและร้าว) นั้น พฤหัสบดีจรหัวหน้าเทวดาประจำเมือง พยายามสุดตัวที่จะนำทัพดาวดีเข้ารับมือ แม้บางครั้งหากเป็นคนจะป่วย-อ่อนแอ-อาภัพ ในทางโหรคือพฤหัสบดีจรไปอยู่ในตำแหน่งไม่เข้มแข็ง หรือเข้ามุมอับทำดีไม่ได้ดี คนไม่เห็นความดี แต่เมืองก็ผ่านพ้นได้ เพื่อรอจังหวะอิทธิพลดาวร้ายคลายและฝ่ายดีจะอำนวยโชคชัยให้

 

 

4.ดังนั้นภายใต้ความแตกแยกที่ยังคุกรุ่นอยู่นี้จุดที่ผู้เขียนเล็งไว้ว่า พระพฤหัสบดีจร ซึ่งทางโหราศาสตร์ยกย่องว่า มีคุณูปการมาก คอยบันดาลให้มนุษย์มีแต่ความสุขสถาพร ให้มีความเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกันในมวลหมู่มนุษยชาติ จะเข้มแข็งเต็มที่มาช่วยล้างอาถรรพ์แตกแยกในเมืองรอบนี้ หรืออย่างน้อยพอให้ลดลงคือ ระหว่าง 6กันยายน 2560-5 ตุลาคม 2561 ที่พฤหัสบดีจรเดินเข้าราศีตุลเล็งลัคนาดวงเมือง ถึงขนาดเสี่ยงทำนายไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหรปี 2561 (สำนักพิมพ์มติชน)ว่า เกณฑ์ความแตกแยกของฝ่ายต่างๆ ในเมืองอันเกิดจากชะตาจรที่แตกตั้งแต่ประมาณปลายปี 2555จะลดลง

 

ไม่เฉพาะความแตกแยกจะลดลงเท่านั้น แต่เป็นเพราะพฤหัสบดีจรเล็งกับมฤตยูจรที่ราศีเมษ ด้วยผู้เขียนจึงเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดในเมืองที่จะทำให้คนไทยส่วนใหญ่สามัคคีกันทำอะไรเพื่อเมือง ดังที่คุณ Adhivish Thum Huayhongthong จำได้เป็นระยะๆ เช่น

 

4.1 หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ  เมื่อ 26 ตุลาคม 2560 ที่ลือลั่นไปทั่วโลก คนไทยในโซเชียลมีเดียสามัคคีช่วยกันต่อสู้กับฝรั่งที่วิจารณ์พระราชพิธีเรื่องความสิ้นเปลืองชนิดยิบตา เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนาธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ

 

4.2 ต่อมา วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ก้าวแรกที่อาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม เริ่มวิ่งจากอำเภอเบตงจังหวัดยะลา ตามโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" ปลุกกระแสตื่นตัว รัก-สามัคคี ชนิดไม่คิดไม่ฝันและคาดไม่ถึงจากใต้สุด-เหนือสุดของประเทศจนก้าวสุดท้ายที่วิ่งไปถึง อ.แม่สาย จ. เชียงราย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560

 

4.3 ปรากฏการณ์ล่าสุดที่สร้างความตื่นตะลึงคือ  หลังจากสะสมพลังความพอใจขององค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ-แต่คนไทยไทยส่วนใหญ่อึดอัดใจ เพราะประเทศไม่ประหารนักโทษมาแล้ว 9 ปี แม้จะมีโทษ ประหารชีวิตอยู่ (อาการของมฤตยู-สะสมพลังจนได้ที่)

 

จู่ๆ ค่ำวันที่ 18 มิถุนายน 2561 กรมราชทัณฑ์ก็ช็อกสังคมด้วย ข่าวแจกแผ่นเดียว ว่าได้ประหารนักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ หลงจิ ที่เรือนจำกลางบางขวาง เพราะฆ่าชิงทรัพย์ดนุเดช สุขมาก อายุ 17 ปี ที่จังหวัดตรังตั้งแต่ 17 กรกฎาคม 2555 ด้วยการแทงถึง 24 แผล (อาการของมฤตยู-สะสมพลังจนได้ที่แล้วระเบิดเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ร่วมกับพระเสาร์จรที่ธนูเดินถอยหลังทับพระเสาร์ดวงเดิม-เกิดทบทวนกรรมเก่าที่เคยทำไว้จนกลับไปประหารชีวิต)

หลังจากทราบข่าวตัวแทนองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ และผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโทษการประหารชีวิตออกมาคัดค้านและเรียกร้องให้หยุดประหารชีวิต ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่พอหายงงก็เฮ (มฤตยูทับลัคนาเมือง-พร้อมจะมีเหตุการณ์ไม่นึกคิดให้มหาชนได้ตลอด) เพราะทนอึดอัดกับอาชญากรรมร้ายแรงมานานพาสามัคคีกันชนิดที่ผู้เขียนไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นลุกขึ้นสู้เรียกร้องโทษประหารชนิดและซดกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ชนิดไม่ลดราวาศอก

หลายคนคงอยากถามผู้เขียนว่า แล้วหลังจากวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่พฤหัสบดีจรเดินจากราศีตุลไปแล้วอะไรจะเกิดกับประเทศไทย คำตอบคือเมืองก็จะไปข้างหน้าไปเรื่อยๆ มีทุกข์มีสุขไปเรื่อย ส่วนประเด็นความขัดแย้งใหม่ๆ ก็จะผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นธรรมดา ที่จะหวังว่าจะไม่มีความขัดแย้งเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ผิดธรรมชาติของโลกธรรม-โลกธาตุ แต่ถ้าคิดให้สบายใจแบบผู้เขียนคือขนาดดาวร้ายระรานอย่างหนักดวงเมืองเหมือนถูกผ่าแยกเป็นสองเหมือนช่วงที่ผ่านมา พระสยามเทวาธิราชและคนไทยยังพาเมืองผ่านพ้นมาได้ถึงวันนี้ แถมหลังวิกฤตทุกครั้งเมืองจะมีโอกาสดีตามมา เป็นพระดวงเมืองถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนี้ที่ผู้เขียนเรียกเองว่า ดวงชะตากรรไกรหนีบแบบ(กำลัง) คลายออก.

 

 

ขอบคุณ Fongsanan Chamornchan