- 08 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สังคมให้ความสนใจและให้กำลังใจเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีมีเด็กนักฟุตบอล 12 คน และผู้ฝึกสอน 1 คน หายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนได้จอดจักรยานและรองเท้าไว้ที่หน้าทางเข้าถ้ำ โดยคาดว่าระหว่างที่เข้าไปเกิดฝนตกน้ำ น้ำท่วมสูงภายในถ้ำ และคาดว่าเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนจะติดอยู่ในโพร่งถ้ำที่สูงกว่าระดับน้ำท่วมด้านใน ซึ่งได้มีการจัดเจ้าหน้าที่หน่วยซีล จาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายจังหวัด และเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศ เพื่อช่วยค้นหาเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนจนได้พบตัวแล้ว
ล่าสุด "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กของตน ที่มียอดติดตามเกือบ 8 ล้านคน โดยเปิดใจถึงการทำงานช่วยชีวิต 13 หมูป่าในถ้ำหลวง พร้อมกับระบายความในใจ เหนื่อยใจมากกว่าเหนื่อยกาย โดยเปิดเผยว่า "ทุกหน่วยงานพยายามหาทางช่วยทั้ง 13 คน ออกมาให้เร็วที่สุดและปลอดภัย ทุกวันใครมีไอเดียจะเสนอและทำ ตนอยู่ที่ถ้ำหลวงมาได้ 5-6 วันแล้ว ในวันแรกตนดีใจที่ได้เจอน้องๆ แต่ลืมคิดปัญหาการออกมา ตนได้พยายามทำทุกวิถีทาง
ด้านทหาร หน่วยซีล และมูลนิธิต่างๆ ทำงานกันอย่างเต็มที่ ตนได้ปีนเขาระยะทางเป็นกิโล และให้ลูกน้องลงไปในถ้ำ ลงไปได้ไม่ถึง 100 เมตร พบว่าเป็นทางตัน ทีมงานของตนได้ลองทำแบบนี้ 10 กว่าปล่อง แต่ไม่ย่อท้อ หากชาวบ้านบอกทางนั้นทางนี้ ตนเองก็ไปตลอดและทำทุกทาง
เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่รู้สึกเหนื่อยใจคนที่คอยกระแนะกระแหน คอยเหลือบกัดกิน รำคาญใจ เห็นคนทำความดีไม่ได้ต้องร้อนรน ต้องออกมาโพสต์ว่านั่นนี่ ชอบแอบกัด ไม่รู้ทำเพื่ออะไร เห็นใครทำความดีไม่ได้ต้องเดือดร้อน ห้ามทำความดี ในส่วนที่ออกมาไลฟ์สดเพราะคิดถึงแฟนเพจ และอีกอย่างคือทุกท่านที่ขอความช่วยเหลือมา ตนขอดูสถานการณ์ที่ถ้ำหลวงอีกหน่อย อรอะไรบางอย่าง อุปกรณ์ที่ช่วยพาน้องออกมาได้ ตนก็สบายใจและจะกลับกรุงเทพฯ หน้าที่ของตนคือ หาทางออกให้น้องออกมา ตนทำหน้าที่เจาะทาง และอำนวยความสะดวกให้น้องออกมา
ทิ้งนี้ บิณฑ์ ยังฝากอีกด้วยว่า อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ และทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต อย่าไปพูดอะไรมาก ทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิดแบบนี้ ทั้ง 13 คนก็ไม่มีใครผิด อยากให้ทุกคนให้กำลังใจกันไป ใครที่ไม่ได้ทำอะไรก็ให้กำลังใจ
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์