- 15 ก.ย. 2561
พ่อแอ๋ม นักศึกษาไทยที่ถูกรูมเมทแทงจนเสียชีวิตเปิดใจครั้งแรกเล่าความรู้สึกความสูญเสียลูกสาว พร้อมเปิดใจถึงรูมเมทผู้ลงมือ
จากกรณีพบร่างไร้วิญญาณ 2 นักศึกษาไทยถูกแทงในหอพักที่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันที่ 4 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นตำรวจชี้สาเหตุการเสียชีวิตว่าอาจเป็นการฆ่ากันเองแล้วปลิดชีพตามเนื่องจากไม่พบเบาะแสว่ามีคนร้ายหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ และเบื้องต้นทราบตัวผู้เสียชีวิตทั้ง2 คือ น.ส. กรกมล หลีวรัตน์ หรือน้องแอ๋ม และ น.ส. ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ หรือ น้องอร ซึ่งทั้ง2เป็นรูมเมทกัน
โดยอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) โดยส่วนใหญ่ผู้พักอาศัยจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย รายงานข่าวยังระบุอีกว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีนักศึกษาไทยโทรหาเพื่อนที่ไทยและเล่าว่า รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการสรุปว่าเป็นนักศึกษารายเดียวกับหญิงสองรายที่เสียชีวิต โดยทั้งหมดต้องรอสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
จากผลการชันสูตรพลิกศพของสำนักงานชันสูตรคิง เคาน์ตี เมดิคัล เอ็กแซมไมเนอร์ น.ส.กรกมลถูกแทงหลายแผลจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สรุปสาเหตุการตายว่าเป็นฆาตกรรม ส่วนน.ส.ฐิฎิอรเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่แทงหน้าอกตนเองเพียงครั้งเดียว เจ้าหน้าที่สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ทั้งสองเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ
เเละรายงานระบุว่า ทั้งสองถือสัญชาติไทย พบกันที่มหาวิทยาลัยบอสตัน และเป็นรูมเมตกันตั้งแต่น.ส.กรกมลเริ่มเรียนปริญญาโทใบที่สองที่มหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน หรือ UW เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ กระทั่งวันอังคารที่ 4 ก.ย. ตำรวจจึงได้รับแจ้งจากอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 4337 ริมถนนหลักสายที่ 15 จากผู้จัดการอพาร์ตแมนต์ว่าพบผู้หญิงบาดเจ็บสาหัสในห้องพัก เมื่อตำรวจไปถึง พบหญิงสาวสองคนเสียชีวิตแล้วอยู่ในห้องพัก
สำหรับในช่วงแรกของการสอบสวน แม้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตาย เนื่องจากขั้นตอนการชันสูตรยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนคดีฆาตกรรมแจ้งว่า ไม่มีผู้ต้องสงสัยเด่นชัด จึงอนุมานได้ว่าไม่มีคนร้ายรายอื่นอีก อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อสงสัย เเละการตั้งคำถามว่า การที่ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่เด่นชัด ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความหมายที่ชัดเจนคืออะไรเเน่
ทั้งนี้ ครอบครัวของน.ส.กรกมล หรือ น้องแอ๋ม อยู่ในประเทศไทย แต่มีลูกพี่ลูกน้องของผู้ตายอาศัยอยู่ที่ฮุสตัน ซึ่งได้มีการเเจ้งไปทางสถาณกงสุลฯ เเล้วว่า จะขอนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศล ที่ประเทศไทย เพื่อให้ครอบครัวเเละญาติๆร่วมไว้อาลัย น้องเเอ๋ม เป็นครั้งสุดท้าย โดยทางครอบครัวจะเดินทางไปซีแอตเทิลวันศุกร์ที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อรับศพกลับมาทำพิธีที่ประเทศไทย
ด้านพี่ชายของน้องแอ๋ม นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ ได้เปิดใจเล่า มีสัญญาณหรือลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุคือ ในวันที่ 21 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ครอบครัวได้ไปส่ง น้องแอ๋ม ที่สนามบินซึ่งตนเพิ่งสังเกตว่าครอบครัวใส่เสื้อสีดำกันทุกคน และในวันนั้นตนก็ได้ยื่นเอกสารทั้งหมด ด้วยตนเองจากปกติแล้ว น้องแอ๋ม จะทำเองทุกอย่าง และก่อนที่จะแยกกัน ตนก็ได้กอด น้องแอ๋ม ด้วย และปกติแล้วตนจะไม่ค่อยกอดน้องสาวเพราะตนขี้อาย
และหลังจากทราบผลชัดเจนแล้วว่า น.ส.กรกมล ถูก น.ส.ฐิฎิอร ฆาตกรรมนั้น ทางครอบครัวยอมรับสาเหตุ เนื่องจากเชื่อในฝีมือการทำงานของตำรวจและผลการสรุปจาก คิง เคาน์ตี เมดิคัล เอ็กแซมไมเนอร์ นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพราะครอบครัวสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.กรกมล ดูเหมือนไม่มีบุคคลที่ 3 มาเกี่ยวข้อง แต่ตนก็ไม่คิดว่า น.ส.ฐิติอร จะเป็นคนลงมือก่อเหตุ เนื่องจากเห็นว่า ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก
นอกจากนี้ น.ส.กรกมลยังเคยพาน.ส.ฐิติอรมาทานข้าว พร้อมทั้งแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก และเห็นว่าทั้งคู่เคยเรียนและใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้มีท่าทีทะเลาะหรือขัดแย้งกันเลย ดังนั้น ทางครอบครัวจึงได้ไว้วางใจ เพราะทั้งคู่ดูแลกันเหมือนพี่สาวน้องสาว
ต่อมาในวันที่ 13 ก.ย. 61 บนเฟซบุ๊คของ Weerasak Leenavarat พี่ชายน้องเเอ๋ม ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ...โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนาพาน้องเรากลับบ้าน ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ชมรมคนไทยในซีแอตเทิลมากครับ ที่คอยช่วยเหลือพวกเรา คนไทยไม่ทิ้งกัน
ต่อมาได้โพสต์รูปภาพห้องพักของน้องแอ๋ม สถานที่เกิดเหตุเศร้าพร้อมเขียนข้อความระบุว่า ท้ายที่สุด สิ่งเดียวที่เป็นของเราอย่างแท้จริง ก็คือเรื่องราวของเรา เราไม่มีวันรู้หรอกว่า "น้องต้องเข้มแข็งและอดทน" แค่ไหน จนกระทั่ง.......
: การได้แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้สึก ก็สามารถเป็นบทเรียนที่ดีให้คนอื่นได้ #เด็กน้อยของพี่...
นอกจากนี้ยังพบจดหมายที่น้องแอ๋มเขียนถึงครอบครัวเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2561 ว่าอยู่ที่นี่เหงามากๆ คิดถึงทุกคนที่บ้าน สัญญาว่าจะตั้งใจเรียนจบแล้วจะรีบกลับไปหา
ล่าสุดพ่อของน้องแอ๋มเปิดใจครั้งแรกกับสื่อว่ารู้สึกใจสลาย น้องแอ๋มเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพ่อ พ่อรักและตามใจน้องแอ๋มมากไม่เคยขัดใจหรือทำให้เสียใจ อยากทำอะไรอยากเรียนอะไรก็ตามใจตลอด ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยพ่อก็จะไปรับไปส่งไม่เคยปล่อยให้ไปไหนคนเดียว
ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกของตน เพราะล่าสุดที่แอ๋มกลับมาเมืองไทย วันที่ 19 มิ.ย. 61 ก็ยังสดใสร่าเริง ไม่เคยพูดถึงเรื่องเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน ตนยังพาลูกไปไหว้พระทำบุญ กระทั่งวันที่ 21 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา ตนก็ยังไปส่งที่สนามบิน ซึ่งก่อนกลับลูกก็ไม่ได้บ่น หรือเครียดเลย ลูกตั้งใจที่จะกลับไปเรียนให้จบอย่างเดียว
ส่วนเพื่อนของแอ๋ม เคยมาที่บ้าน 1 ครั้ง ตนก็รักเหมือนลูกอีกคน ไม่คิดว่าจะทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะหากมีปัญหาอะไรก็ควรจะคุยกันดี ๆ ตอนนี้ทางครอบครัวไม่ติดใจอะไรแล้ว อยากให้ร่างของลูกสาวกลับมาถึงไทยให้เร็วที่สุด เพราะเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งวัดและศาลา “ถ้าตนตายแทนลูกได้ ก็จะตายแทน” นายชัยวัฒน์ กล่าว
คลิป..
ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลีนวรัตน์ กับการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวที่เป็นที่รักยิ่ง นางฟ้าของครอบครัวและขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องแอ๋มเพื่อก้าวผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกนี้
ขอขอบคุณ Weerasak Leenavarat