เป็นเรื่อง! "สถานทูตจีน" จี้หนัก "ทางการไทย" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

เป็นเรื่อง! "สถานทูตจีน" จี้หนัก "ทางการไทย" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

สืบเนื่องจากกรณีที่โลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปวีดีโอที่อ้างว่า เป็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมืองกำลังพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่ง แต่จังหวะที่กำลังโต้เถียงกันนั้น เจ้าหน้าที่ได้เหวี่ยงแขนใส่นักท่องเที่ยว แต่โชคดีที่ไม่โดน สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมาก 

ต่อมา นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า คลิปวีดีโอดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 22.27 น.โดย ทดม.ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สายการบินไลอ้อนแอร์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณห้องพักรอผู้โดยสารส่งกลับเนื่องจาก มี Mr.Mei Ji ผู้โดยสารชาวจีน เดินทางด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL 117 จากเมืองจากาตาร์ประเทศอินโดนิเซีย มายัง ทดม. ซึ่งถูกปฏิเสธการเข้าเมือง เพราะไม่แสดงเอกสารยืนยันการเข้าพักในประเทศไทยและแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 

 

เป็นเรื่อง! \"สถานทูตจีน\" จี้หนัก \"ทางการไทย\" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

 

เป็นเรื่อง! \"สถานทูตจีน\" จี้หนัก \"ทางการไทย\" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

 

รวมทั้งไม่ยินยอมในการเข้าห้องพักรอผู้โดยสาร เมื่อเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุมาถึง และปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนการปฏิบัติ แต่กลับถูกผู้โดยสารขัดขวาง ก่อความวุ่นวาย และพยายามหลบหนีไปทาง Bus Gate อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุ จึงได้เข้าระงับเหตุการณ์ แต่ได้มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออก และ ทอท.จะดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

 

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทดม. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และยินดีบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งจะทำหนังสือผ่านสถานทูตจีนเพื่อขอโทษผู้เสียหายต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ให้สายการบินไลอ้อนแอร์ดำเนินการส่งตัว Mr.Mei Ji กลับด้วยเที่ยวบิน SL 038 เส้นทาง ทดม. กวางโจว เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 เวลา 00.45 น.

 

เป็นเรื่อง! \"สถานทูตจีน\" จี้หนัก \"ทางการไทย\" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

 

เป็นเรื่อง! \"สถานทูตจีน\" จี้หนัก \"ทางการไทย\" เหตุชาวจีนถูกรปภ.สนามบินต่อย (รายละเอียด)

 

"ทอท.ยินดีให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยปัจจุบัน ทอท.ได้ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดช่องทางพิเศษเป็นการเฉพาะให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนใน 5 ท่าอากาศยานหลักตามด่านตรวจคนเข้าเมืองผู้โดยสารขาเข้า ประกอบไปด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่อง ท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดช่องทางพิเศษ21 ช่อง,ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดช่องทางพิเศษ 8 ช่อง ท่าอากาศยานภูเก็ตเปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่องและท่าอากาศยานหาดใหญ่เปิดช่องทางพิเศษ 10 ช่อง อีกด้วย"

ล่าสุดในวันนี้ (30/09/2561) สำนักข่าว ไชน่า นิวส์ เซอร์วิส รายงานว่า สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำร้ายร่างกายที่สนามบินดอนเมือง

โดยรายงานระบุว่าเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวแซ่เหม่ย ได้ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมือง ซึ่งในภาพแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายนี้ได้พยายามจะชกนายเหม่ย และมีรายงานว่าสาเหตุของการทะเลาะวิวาทมาจากการที่นายเหม่ยปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน 2,300 บาท บริการวีซ่าแบบด่วน เพราะนายเหม่ยมองว่าไม่สมเหตุสมผล โดยด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทย 32 แห่ง นักท่องเที่ยวจะสามารถยื่นขอวีซ่าได้ที่สนามบิน แต่จะต้องจ่าย 2,000 บาทค่าทำวีซ่า และเพิ่มอีก 200 บาทหากต้องการแบบเร่งด่วน

นายเหม่ย เปิดเผยว่า ตนถูกบังคับให้จ่ายเงินเพิ่ม เนื่องจากไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจองที่พักเอาได้ และโทรศัพท์ของตนไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจึงไม่สามารถดูข้อมูลไก้ จึงได้เตรียมที่จะออกแถวไปทำวีซ่าตามปกติ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ให้กลับไปช่องวีซ่าแบบด่วน แม้ว่าจะมีเอกสารตามที่ต้องการแล้ว นายเหม่ยได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ไทย และได้พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อขอความช่วยเหลือ ตนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำร้ายร่างกายขณะนำตัวไปดำเนินการส่งกลับประเทศ และถูกทำร้ายอีกครั้งโดยอีกคนหนึ่งดังที่ปรากฏในคลิป ก่อนจะซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับจีนในวันที่ 28 ก.ย.

 

ขอบคุณข้อมูลจาก springnews