ทนายเดชาชี้โทษทางกฎหมายเหตุน้ำท่วมเพราะหากุญแจไม่เจอ!

จากสถานการณ์ฝนกระหน่ำทั่วกรุงในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง บนถนนรถติดอย่างหนักเพราะน้ำที่ท่วมส่งผลเป็นอุปสรรคในการสัญจรไปมา และเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2561 เองในช่วงเย็นถึงหัวค่ำก็เกิดฝนตกอย่างหนักจนส่งผลให้ถนนหลายเส้นเกิดน้ำท่วมขังทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก และหนึ่งในนั้นคือย่านบางเขน นั่นเอง

 

 

เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาบริเวณท่อดันท่อลอด พื้นที่คูน้ำ ริมถนนวิภาวดีขาออก สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางซื่อ สถานีรถไฟฟ้าทุ่งสองห้อง และสถานีรถไฟฟ้าวัดเสมียนนารี โดยพล.ต.อ.อัศวิน อธิบายถึงสาเหตุการท่วมขังอย่างหนักในพื้นที่ย่านบางเขนว่าเกิดจากการที่ให้ผู้รับเหมาฝังท่อสี่เหลี่ยม และดันท่อลอดใต้ถนนวิภาวดีซึ่งทางผู้รับเหมายังไม่ได้ส่งมอบงานให้กับ กทม. ทำให้หากุญแจเปิดเครื่องสูบน้ำไม่ได้ 

 

 

ทั้งนี้พล.ต.อ.อัศวินจึงได้กำชับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าให้ทำกุญแจสำรองไว้ เพราะปัญหาลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้น นอกจากนี้บริเวณชินเขต ได้มีการยกพื้นผิวการจราจรให้สูงขึ้นอีก 1.5 เมตร เพื่อแก้ปัญหาจุดน้ำท่วมขังซ้ำซาก คาดแล้วเสร็จไม่เกินเดือน พ.ย.นี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ต่อมาทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ถึงบทลงโทษทางกฎหมายว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนเพราะทำประชาชนเสียหายระบุว่า "การเก็บกุญแจไม่เป็นที่เป็นทาง ทั้งที่เป็นกุญแจสำคัญ เป็นเหตุให้น้ำท่วม ประชาชนเสียหาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ทำกุญแจหาย จะต้องร่วมกันรับผิดในค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมาย#ทนายคลายทุกข์"

 

 

ทั้งนี้ด้านสถานการณ์ฝนในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วงเพราะตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าตั้งแต่วันที่ 2-8 ตุลาคม 2561 นี้ หลายพื้นที่ยังเจอฝนหนัก ระบุ

ในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ 

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา กับมีลมแรง ประกอบกับในช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. 61 ร่องมรสุมจะเลื่อนมาพาดผ่านภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคเหนือในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 ทางตอนบนของภาค: อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 ทางตอนบนของภาค: อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

ภาคกลางในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)ในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)ในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 3-8 ต.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส