- 10 ต.ค. 2561
คุณคิดเห็นอย่างไร? เปิดใจพ่อหนุ่มคลั่ง พร้อมเผยภาพสุดท้ายในห้องขัง สภาพลูกแทบรับไม่ได้ ถามกลับตร.ลูกผมหยุดแล้ว ตีซ้ำทำไม(คลิป)
จากกรณีหนุ่มเมายาคลั่งไล่ตีตำรวจที่จังหวัดชัยภูมิจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเจ้าตัวหลังถูกชาวบ้านจับกุมตัวและถูกใช้ไม้ตีหลายครั้งล่าสุดสิ้นใจแล้วหลังถูกส่งตัวด่วนไปยังรพ.
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระทึกหนุ่มขี้ยาอาละวาดใช้ไม้ไล่ตีชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านแหลมทอง หมู่ 1 ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาจับกุมตัว ทว่าชายคุ้มคลั่งก็ได้ใช้ไม้ไล่ตีเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 ร.ต.ท.วิทยา อาจหาญ ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ภักดีชุมพล (ร้อยเวร 20) ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองหมู่บ้านว่ามีชายเมายาชื่อนายวายุ กัญญประสิทธิ์ อายุ 27 ปี อาศัยบ้านเลขที่125หมู่ที่ 1 ตำบลแหลมทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ถือไม้หน้าสามขนาดยาวกว่า 1 เมตรไล่ตีชาวบ้านจึงเดินทางไประงับเหตุแต่ทว่าร.ต.ท.วิทยากลับถูกนายวายุใช้ไม้ไล่ตีจนต้องวิ่งหนี
นายวายุกระโดดถีบร.ต.ท.วิทยาจนล้มลงแล้วใช้ไม้ฟาดเข้าที่หัวจนแน่นิ่งไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชาวบ้านได้รวมพลังเข้าไปช่วยกันจับหนุ่มคลั่งรายนี้ ก่อนที่จะจะควบคุมตัวมามาสงบสติที่สภ.ภักดีชุมพล เพื่อตรวจปัสสาวะก็พบมีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมกับนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาทาง ..ตำรวจชัยภูมิ ยินดีรับใช้ประชาชน... ได้ออกมาชี้เเจง พร้อมเผยถึงการดำเนินคดี เเละอาการของ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ภักดีชุมพล อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ถูกคนร้ายตีบาดเจ็บสาหัส ขณะปฎิบัติหน้าที่
1.ข้อเท็จจริง
1.1 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.ภักดีชุมพล ได้เข้าระงับเหตุ คนร้ายคลุ้มคลั่งอาละวาด บริเวณถนน สายวังใหญ่ - หนองบัวแดง บ้านแหลม ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ
1.2 คนร้ายชื่อ นายวายุ กัญญประสิทธิ์ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 125 ม.1 ต.แหลมทอง ได้ใช้อาวุธไม้ วิ่งเข้าทําร้ายเจ้าหน้าที่ตํารวจ ชื่อ ร.ต.ต.วิทยา อาจหาญ อายุ 49 ปี รอง.สวป.สภ.ภักดีชุมพล โดย ร.ต.ต.วิทยา เสียจังหวะล้มลง จึงถูกคนร้ายใช้ไม้ตีบริเวณใบหน้าและศรีษะ ทําให้บาดเจ็บสาหัส
1.3 เจ้าหน้าที่ตํารวจและผู้เกี่ยวข้องได้เข้าจับกุม นายวายุฯ เบื้องต้นถูกคุมขังไว้ที่ สภ.ภักดีชุมพล และดําเนินการตามกฎหมาย
2.การดําเนินการ
2.1 เจ้าหน้าที่ได้นําตัว ร.ต.ต.วิทยาฯส่งโรงพยาบาลภักดีชุมพล และได้ส่งต่อ โรงพยาบาลชัยภูมิ และจะนําส่งโรงพยาบาลตํารวจใน วันที่ 8 ตุลาคม 2561 ต่อไป
ล่าสุดมีรายงานว่านายวายุผู้ก่อเหตุหลังถูกส่งตัวเข้าห้องขัง จู่ๆเมื่อเวลาประมาณ06.00น. วันที่ 8 ตุลาคม 2561 เกิดนอนชักดิ้นชักงออยู่ภายในห้องขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่นายวายุก็ได้เสียชีวิตลงในเวลา07.00น.ของวันเดียวกัน
เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากพ.ต.อ.พีระพงษ์ ดมพรวัฒนะ ผู้กำกับการ สภ.ภักดีชุมพลเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเกิดจากการขาดยาและเสี้ยนยาจนตายหรือบาดเจ็บจากการถูกรุมประชาทัณในวันเกิดเหตุ เพราะเรื่องนี้มีระเบียบที่มาที่ไปเนื่องจากผู้ก่อเหตุเสียชีวิตในระหว่างถูกควบคุมตัว
นอกจากนี้พล.ต.ต.สมพจน์ ระบุว่าอาการล่าสุดของ ร.ต.ต.วิทยา ยังน่าห่วง ซึ่งทางแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ ได้เตรียมความพร้อมดูอาการที่ขอให้ร่างกายของตำรวจนายนี้มีความพร้อมที่จะต้องถูกส่งตัวเคลื่อนย้ายไปช่วยทำการผ่าตัดเลือดที่คลั่งในสมองจนทำให้สมองบวมจำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าภายในวันนี้จะสามารถติดต่อเฮลิคอปเตอร์ มารับตัวส่งต่อไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่กรุงเทพฯ
ล่าสุด นายประดิษฐ์ พ่อผู้ตาย ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องจนถึงปัจจุบันว่า “วันนี้จึงมารับศพของลูกชายที่นิติเวช รพ.ตำรวจ กทม. ยอมรับว่าลูกชายคลุ้มคลั่งและทำร้ายตำรวจจริง แต่ตนคาใจเรื่องที่ตำรวจใช้ไม้ตีลูกของตน หลังจากที่ลูกสลบไปแล้ว ซึ่งในเหตุการณ์จริง ตนเห็นว่าตำรวจตีนายวายุกว่า 10 ครั้ง ทั้งที่นายวายุเองก็หมดแรง ไม่สู้ตำรวจแล้ว”
“ก่อนเกิดเหตุพบว่าลูกมีอาการตาลอย แต่ยังจำตนได้ ในวันเกิดเหตุจึงได้แจ้งตำรวจให้มาพาตัวลูกไปบำบัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาที่บ้านในตอนเช้า ได้พบลูกชายและพูดคุยกันปกติ กระทั่งตำรวจกลับไปที่ป้อมตำรวจซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 800 เมตร แต่ลูกชายกลับขี่รถจักรยานยนต์ของตัวเองไปสับกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจ จึงทำให้ตำรวจระดมกำลังกันมา และเกิดเหตุการณ์อย่างในคลิปขึ้น ตนไม่ทันห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากกำลังหาเชือกมามัดตัวลูกชาย ทั้งยังไม่นึกว่าตำรวจจะตีลูกชายตนแรงขนาดนี้ ส่วนไม้ที่ลูกชายใช้ฟาดเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไม้จากข้างทาง”
ด้านนายภัทรวุฒิ อาเขยของผู้ตาย เล่าเหตุการณ์หลังจากที่นายวายุถูกควบคุมตัวว่า “หลังจากที่เกิดเหตุขึ้น ก็ได้เข้าไปเยี่ยมหลานที่โรงพักตั้งแต่เวลา 14.00 น. ขณะนั้นพบว่าหลานมีเลือกออกที่ศีรษะ ถูกมัดมือและเท้าไว้ ยังมีสติ แต่คุยไม่รู้เรื่อง และได้ไปเยี่ยมหลานอีกครั้ง เวลา 19.30 น. ก็ยังเห็นวาตำรวจไม่พาหลานตนไปส่งโรงพยาลเสียที ตนจึงได้เอายาพาราฯ ให้หลานทาน ขณะนั้นยังไม่ทราบว่าจะได้พบนายวายุเป็นครั้งสุดท้าย กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 07.30 ของวันรุ่งขึ้น (7 ต.ค. 61) จึงได้รู้ว่าหลานเสียชีวิตอยู่ภายในรถตำรวจที่หน้าโรงพยาบาล สภาพศพของหลานในขณะนั้น ตัวซีด เลือกแห้งกรัง ตนคาดว่าอาจจะตายมาหลายชั่วโมงแล้ว”
ขอบคุณ ตำรวจชัยภูมิ ยินดีรับใช้ประชาชน // ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34