ยืนหยัดสู้ "บิ๊กอ๊อด" เเถลง เปิดใจ กรณี"สยามสปอร์ต"ฟ้อง"ส.บอลฯ"1.4พันลบ.!! รับมีเเรงกดดันในทุกวิถีทาง ให้พ้นนายกฯ

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

วันที่ 19 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น. ณ ห้อง ออดิโธเรียม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดแถลงข่าวกรณีบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ฟ้องร้องสมาคมฯ

 

โดย พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “จากกรณีที่  บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ( มหาชน ) ได้ยื่นฟ้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และสภากรรมการของสมาคมฯ เป็นคดีแพ่งต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หมายเลขคดีดำที่ ทป79/2560 เมื่อวันที่  27 มิถุนายน 2560 ในข้อหาหรือฐานความผิด ฐานผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหาย จำนวน 1,400 ล้านบาทเศษ”

 

“สืบเนื่องจากการที่สมาคมฯ พิจารณาเห็นว่าสัญญาที่สมาคมฯ มีต่อ หรือ มีกับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคมฯ เพราะตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นกำหนดระยะเวลา 5 ปี โดยสัญญานั้นกำหนดค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคมฯ ร้อยละ 5 จากรายได้สิทธิประโยชน์ทั้งหมด และทางบริษัท สยามสปอร์ต มิได้จ่ายเงินค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ต่อสมาคมฯ คือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา”


“ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ( มหาชน) ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์แล้ว จำนวน 240 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมส่งมอบเงินนั้นให้สมาคม  ทำให้สมาคมขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างมาก และสภากรรมการสมาคมฯ พิจารณาแล้ว จึงมีมติบอกเลิกสัญญากับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 7 มีนาคม 2559”


"อีกกรณีคือเมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องต่อศาลนั้น กลับนำสัญญาแต่งตั้งผู้บริหารสิทธิประโยชน์ ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนร้อยละ 50 มาฟ้องสมาคมฯ และเรียกค่าเสียหาย 1,400 ล้านบาท จะเห็นว่าสัญญามีสองสัญญา สัญญาหนึ่ง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จะต้องจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ แต่อีกสัญญาจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ตั้งแต่ปี 2556 ไม่มีหลักฐานทางบัญชีปรากฏ หรือไม่มีหลักฐานใดๆปรากฏว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ได้มอบเงินค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามสัญญาให้กับสมาคมฯ จึงเป็นเหตุที่สมาคมฯ บอกเลิกสัญญาดังกล่าว"

"แต่เมื่อบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ฟ้องเรียกค่าเสียหายกับสมาคมฯ ในการบอกเลิกสัญญา สมาคมฯ ก็ต่อสู้ในประเด็นที่ว่า บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท ไม่ได้จ่ายเงินค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ ตามเงื่อนไขของสมาคมฯ แต่อย่างใด เป็นระยะเวลา 5 ปี”

“โดยจากการเบิกความของพยานทั้งสองฝ่ายในคดี สมาคมฯได้รับรู้ รับทราบข้อมูลอีกมากมาย จากการเบิกปากพยาน และจากการที่พยานได้นำเอกสารมาแสดงต่อศาลว่ายังมีความผิดที่ซ่อนอยู่ และเป็นเรื่องที่สมาคมฯ ไม่เคยทราบมาก่อนล่วงหน้า”

 

ยืนหยัดสู้ \"บิ๊กอ๊อด\" เเถลง เปิดใจ กรณี\"สยามสปอร์ต\"ฟ้อง\"ส.บอลฯ\"1.4พันลบ.!! รับมีเเรงกดดันในทุกวิถีทาง ให้พ้นนายกฯ

 

“จากการฟ้องร้องในคดีนั้น จึงก่อให้เกิดสิ่งที่สมาคมฯ จะต้องรักษาประโยชน์ของวงการฟุตบอล หรือประชาชนคนไทยอีกจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่การที่สมาคมฯ จะต้องฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหาย จากผู้บริหารสมาคมฯ ในอดีต และจาก บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท เช่นกัน"

 

 


"ในเบื้องต้นที่สมาคมฯ ดำเนินการไปแล้วก็คือการร้องทุกข์กล่าวโทษ คุณ วรวีร์ มะกูดี ที่ สน. ปทุมวัน ซึ่งได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2560 คดีหมายเลขที่ 1 ก. เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับคุณ วรวีร์ มะกูดี แต่จะเป็นคดีฉ้อโกงหรือยักยอก อยู่ในระหว่างที่ฝ่ายกฎหมายกำลังหารือว่าประเด็นใดจะไปเชื่อมโยงกับการฟ้องคดีแพ่งที่ ผู้บริหารในอดีต รับหรือไม่รับค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ มาถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย"

ยืนหยัดสู้ \"บิ๊กอ๊อด\" เเถลง เปิดใจ กรณี\"สยามสปอร์ต\"ฟ้อง\"ส.บอลฯ\"1.4พันลบ.!! รับมีเเรงกดดันในทุกวิถีทาง ให้พ้นนายกฯ

 

"ถ้าพิสูจน์ได้ว่าผู้บริหารในอดีต มีการไปรับค่าตอบแทนจากบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท แล้วไซร้ แต่มิได้นำเงินมาเข้าบัญชี หรือนำมามอบให้แก่สมาคมฯ ก็จะเป็นอีกคดีหนึ่ง ซึ่งสมาคมฯ จะดำเนินทุกคดี เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ผมต้องการเรียนให้สโมสรสมาชิก สื่อมวลชน และแฟนบอลชาวไทยได้ทราบ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ยังมีอีกหลายคดี ที่จะต้องดำเนินการต่อไป”

 

“วันนี้ ผมเรียนท่าน สโมสรสมาชิกฟุตบอลว่า มีความพยายามกดดัน หรือพยายามทุกวิถีทาง ที่จะให้ผมพ้นจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในรูปแบบต่างๆ เพราะถ้าผมยังอยู่ตรงนี้ คดีความต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอีกมากมาย ซึ่งมันเป็นหน้าที่ ที่ผมได้ให้คำมั่นสัญญากับพวกท่านที่เลือกผมเข้ามา แล้วผมก็ทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่รักษาผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ"

"นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์น้อยใหญ่เกิดขึ้นกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทั้งการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีขึ้นในเร็ววันนี้ หรือผลการแข่งขันฟุตบอลในรายการต่าง ๆ ไม่ว่าจะออกมาอย่างไร มันจะเป็นผลเป็นเหตุกดดันให้ผมพ้นจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ผมขอใช้เวทีนี้ประกาศ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ผมจะไม่ยอมลุกไปจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จนหมดวาระ หรือ จนผมสามารถสะสางคดีความต่าง ๆ ให้หมดสิ้น”

 

“เพราะผมไม่มั่นใจว่า คนที่จะมาทำหน้าที่แทนผม จะยืนหยัดสู้หรือพิสูจน์ความจริงหรือไม่ในเร็ววันข้างหน้า หากผมต้องผันตัวไปทำหน้าที่สำคัญตรงอื่น ผมจะบอกว่าจะไม่ทิ้งตำแหน่งนายกสมาคมฯ ตราบใดที่สโมสรสมาชิกยังให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าข่าวดีหรือข่าวร้ายกับสมาคมฯ กับวงการฟุตบอล จะไม่เป็นเหตุให้ผมถอดใจจากลุกตำแหน่งนี้เด็ดขาด"