- 06 พ.ย. 2561
"อยากทดลองอำนาจเหรียญพญาครุฑ" เเม่เผยนิสัยลูกชาย เชื่อ ตอนนี้ลูกกำลังโหยหาตน!
จากกรณี นายธนทัต ติยพงษ์พัฒนา อายุ 22 ปี ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ ได้หายตัวออกจากบ้านที่ จ.นครราชาสีมา ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 61 โดยมีเบาะแสว่าได้บอกกับครอบครัวจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังคงเร่งค้นหา โดยแม่ของผู้สูญหายเดินทางมารอลูกบริเวณด้านหน้าอุทยานฯ ทุกวัน พร้อมทั้งโต้กระแสข่าว จดหมายลาตายเพราะต้องการเงิน 5 ล้านบาท ไปสู่ขอนักร้องวง BNK48
โดย นางปรารถนา วิสุทธิกุล อายุ 55 ปี แม่ของนายธนทัต ได้เดินทางเข้าพบนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการค้นหาตัวนายธนทัต โดยมีสีหน้าที่กังวลตลอดเวลา ซึ่งที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ได้ตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการรับแจ้งคนหาย และมีการเตรียมเปลสนามพร้อมเครื่องมือแพทย์เพื่อบริการให้นักท่องเที่ยว และเตรียมพร้อมปฐมพยาบาลให้กับผู้สูญหาย
นางปรารถนา เปิดเผยว่า เบื้องต้นการค้นหานายธนทัตเริ่มมีการขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และมีการวางจุดเดินใหม่เพื่อกำหนดขอบเขตให้แคบลง ซึ่งตนมั่นใจว่าลูกของตนยังหลงอยู่ในป่าและยังไม่ออกจากพื้นที่ เพราะตนรู้จักนิสัยของลูก แม้ว่าจะพกเงินมาถึง 1 หมื่นบาท ก็จะไม่ไปเที่ยวไหนเพราะลูกของตนเป็นคนไม่จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย อีกทั้งลูกก็ยังไม่โทรกลับมาหาตนเลย เพราะแม้ว่าลูกจะไม่มีโทรศัพท์แต่ลูกก็จำเบอร์ตนได้ และจะไม่ค่อยโทรหาญาติหรือคนอื่น
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ได้พาทีมข่าวเดินสำรวจป่าบริเวณหลังศาลเจ้าพ่อเขาเขียว ซึ่งมีสภาพป่ารกทึบ เป็นทางลาดชันและมีกิ่งไม้เล็กๆขวางอยู่ตลอดเส้นทาง โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เป็นจุดที่อยู่ใกล้กับผาเดียวดายที่เป็นเบาะแสสุดท้ายก่อนนายธนทัตจะหายตัวไป ซึ่งจุดที่สามารถเป็นไปได้ว่าผู้สูญหายอาจจะแอบพักแรมอยู่ระหว่างทาง อีกทั้งบริเวณเขาเขียวยังเป็นทางเดินเข้าป่าลึก โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปในป่าเขาเขียวลึกถึง 10 กิโลเมตร แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของนายธนทัต
ต่อมา นางปรารถนา ได้กล่าวเพิ่มเติมผ่าน อมรินทร์ทีวีว่า ตนรู้สึกคิดถึงลูกมาก ยิ่งเมื่อมาสัมผัสอากาศหนาวของเขาใหญ่ ก็ยิ่งทำให้เป็นห่วง แต่คิดว่าเร็ววันนี้จะต้องเจอ เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานเร่งติดตามตัวลูกตนอย่างสุดกำลัง ซึ่งตนก็รู้ว่าลูกของตนสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าหน้าที่ แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าลูกของตนเป็นโรคไบโพลาร์ จนทำให้มีพฤติกรรมอย่างสุดโต่งกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านอาหารโต้รุ่ง ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีระยะทางห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประมาณ 36 กิโลเมตร น.ส.จ๋า (นามสมมติ) เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร เปิดเผยว่า ในช่วงกลางดึกของวันที่ 26 ต.ค. 61 ตนเห็นนายธนทัตนั่งทานอาหารอยู่ในร้านจนถึงช่วงเวลา 04.00 น. นายธนทัตก็นั่งอยู่ในร้านโดยไม่ไปไหน ตนจึงได้เข้าไปพูดคุยว่าจะกลับไปนอนที่ไหน แต่นายธนทัตบอกกับตนว่าไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปนอนที่ไหน เพราะรอเวลา 10.00 น. เพื่อจะไปประชุมที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับเขาใหญ่ เพราะพ่อให้มาประชุมแทน โดยช่วงเช้าจะมีเพื่อนนำรถตู้ของโรงแรมมารับ แต่ตนก็สังเกตเห็นว่านายธนทัตเดินไปจากร้านอาหารช่วงเวลา 11.00 น. โดยไม่มีเพื่อนมารับแต่อย่างใด น.ส.จ๋า กล่าวต่อว่า ตนมองว่านายธนทัตแต่งตัวใส่สูท ดูเรียยร้อยเหมือนคนมีเงิน โดยระหว่างอยู่ในร้าน นายธนทัตมักจะพูดถึงเรื่องงานที่ต้องไปประชุมเกี่ยวกับโรงงานขนม นอกจากนี้ ยังได้ร้องเพลงที่ตู้คาราโอเกะ และร้องปากเปล่าให้เด็กเสิร์ฟในร้านฟัง ซึ่งตนมองว่านายธนทัตดูเหมือนคนปกติ ไม่เหมือนคนเป็นโรคไบโพลาร์แต่อย่างใด ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจที่ได้เห็นใบประกาศว่านายธนทัตเป็นผู้สูญหาย ล่าสุด นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารที่ 1 ปราจีนบุรี เผยว่า ได้ประสานสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ขอใช้โดรนซึ่งมีรังสีตรวจจับความร้อนร่างกาย ซึ่งสามารถแยกได้ว่าสิ่งที่ตรวจพบเป็นรังสีความร้อนจากร่างกายสัตว์หรือมนุษย์ คาดว่าจะมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในช่วงค่ำ และช่วงเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน ก็จะเริ่มทำการบินสำรวจค้นหา โดยจะทำการค้นหาตามเส้นทางแหล่งน้ำ เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์หากหลงป่าก็จะต้องหาแหล่งน้ำ
ล่าสุด นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยว่า แผนการค้นหาวันนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิ่ม จากเดิม 5 ชุดเป็น 7 ชุด และจะให้ขยายพื้นที่ป่าให้กว้างออก ต่อจากเมื่อวานที่ชุดสำรวจเดินเท้า เดินไปถึงด่านหนองอึ่งตลอดเลียบแนวถนนสาย 3077 (เขาใหญ่- ปราจีนบุรี) ลงมาฝั่งด่านเนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี และเดินต่อจากจุดลานกางเต้นท์ลำตะคองออกไป ควบคู่กับการใช้โดรนขึ้นบินตรวจจับรังสีความร้อนจากมุมสูง
แต่การค้นหาวันนี้ จะเป็นการจัดชุดเฉพาะกิจค้นหาวันสุดท้าย หากไม่เจอจะยุติแค่วันนี้ แต่ถ้าเจอร่องรอย ก็จะค้นหาปกติตลอดต่อไป
ส่วนที่มีคนพบเหรียญ 1 บาทด้านหลังเป็นรูปพญาครุฑปี 2517 บรรจุในซองถุงพลาสติกตกอยู่บริเวณด้านหน้าทางออกด่านเนินหอมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี นั้น มารดาของนายธนทัตยืนยันว่า เหรียญดังกล่าวไม่ใช่ของลูกชาย เพราะที่ลูกชายเอาไป เก่ากว่าและไม่ใส่ในถุงพลาสติก แต่ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์
เเละเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหานายธนทัตต่อ โดยจัดเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนชุดเฉพาะกิจเป็น 4 ทีม เดินเป็นลักษณะขึ้นลงเป็นฟันปลา ประมาณ 10 รอบ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินลาดตระเวนไม่น้อยกว่า 2-3 วัน ต่อ 1 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ได้นำโดรน จำนวน 2 ลำ บินขึ้นตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ยังไม่พบร่องรอย ประกอบกับในพื้นที่เป็นเขต no fly drone ทำให้เป็นอุปสรรคในการควบคุมโดรน ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะยังคงค้นหาต่อไป ด้านนาง ปรารถนา ผู้เป็นมารดากล่าวผ่านอมรินทร์ทีวีถึงเหรียญพญาครุฑที่ลูกชอายพกติดตัวว่า "ตนไม่มั่นใจว่าเป็นเหรียญเดียวกันหรือไม่ แต่เป็นเหรียญแบบเดียวกันกับปี พ.ศ.2517 ทั้งนี้ ถ้าหากลูกข้ามเขาใหญ่ไป จ.ปราจีนบุรี จริง ตนก็จะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อให้ตำรวจช่วยตรวจสอบและค้นหาตัวลูกชายด้วย"
ซึ่งตามความเชื่อ เหรียญดังกล่าวเป็นรูปพญาครุฑ ทำให้ลูกตนเชื่อว่าการเข้าป่าจะปลอดภัย และมีพญาครุฑคุ้มครอง โดยลูกของตนได้เหรียญดังกล่าวจากน้าสาว เนื่องจากน้าสาวรู้ว่าลูกของตนมีความชอบในเรื่องดังกล่าว จึงเกิดความเอ็นดูและมอบเหรียญดังกล่าวให้ หลังไปช่วยน้าสาวขายของ ซึ่งน้าสาวก็ไม่ได้รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญ โดยลูกตนได้รับเหรียญ ตนก็บอกให้ลูกเก็บใส่ซองยาไว้ แล้วลูกก็เริ่มพูดถึงการเดินป่า และอยากไปเที่ยวเขาใหญ่อยู่เรื่อย ๆ หลังจากนั้นเพียง 1-2 สัปดาห์ ก็ได้หายตัวไป อีกทั้งยังเล่าต่อว่า ตนรู้ว่าลูกเป็นคนที่มีความคิดสุดโต่ง และอยากลองสิ่งใหม่อยู่เสมอ จึงทำให้ตนมั่นใจว่าลูกไปอุทยานเขาใหญ่ เพื่อทดลองอำนาจของเหรียญพญาครุฑอย่างแน่นอน เพราะจากพฤติกรรมก่อนหน้านี้ ลูกมีความชื่นชอบนักธุรกิจรายหนึ่ง จนต้องขับรถไปถึงโรงงานของนักธุรกิจ จึงทำให้ตนมั่นใจว่าลูกจะไปตามสถานที่ที่เขาพูดถึง แต่โดยปกติแล้วลูกของตนจะไปแค่ 3 วัน แล้วจะกลับมาบ้าน ซึ่งต่างกับครั้งนี้ที่หายตัวไปนาน นอกจากนี้ ตนมีสัญชาตญาณว่าลูกของตนกำลังโหยหาแม่ และกำลังคิดถึงตน รอให้ตามหา ตนอยากกอดลูกมาก เพราะโดยปกติจะกอดกันเป็นประจำ และมีความผูกพันธ์กันมาก ถ้าหากได้เจอตัวลูก จะทำน้ำพริกกะปิ ของโปรดลูกให้ทาน เพราะเชื่อว่าตอนนี้ลูกคงหิวมาก และลูกกำลังสำนึก เพราะทุกครั้งที่ลูกออกไปเจออุปสรรคในชีวิต ลูกมักจะกลับมาบอกตนว่า “รู้อย่างนี้ เชื่อใจสิ่งที่แม่เตือนดีกว่า”
นางปรารถนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในสายใยของแม่และลูก ทำให้ตนเชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ เพราะเขายังไม่หายไปจากใจเรา เขายังอยู่ เพียงแต่เขากำลังอ่อนแรง เขาก็คงหวังให้เราตามหา และเขาก็คงอยากกอดตนมาก หลังจากนั้น มีบุคคลที่ยืนยันว่า เคยพบเจอ นายธนทัตก่อนสูญหายไป ออกมาเผยว่า ในวันที่ 27 ส.ค. 61 ตนและเพื่อนอีกคนพบกับนายธนทัต ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยตนได้นั่งรถสองแถวประจำทางมาพร้อมกับนายธนทัต ซึ่งตนจำได้อย่างชัดเจนว่าเขามาคนเดียว มีรอยสักที่ใบหน้า แต่ระหว่างทางนั้นนายธนทัตได้ช่วยยกของให้ลุงและป้าที่นั่งมาบนรถประจำทาง ดูเป็นคนดีและมีน้ำใจ จึงทำให้ตนจำนายธนทัตได้อย่างแม่นยำ จากนั้นยังกล่าวต่อว่า ตนได้ลงรถประจำทางตนได้ให้พี่สาวขับรถเก๋งมารับ ในระหว่างทางขึ้นเขาใหญ่ตนสังเกตเห็นนายธนทัตกำลังเดินอยู่ริมทาง มุ่งหน้าขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งห่างจากด่านเก็บเงินมาประมาณ 2 กม. ซึ่งตนเห็นนายธนทัตเดินปาดเหงื่อ เหมือนคนกำลังเหนื่อย ตนจึงขอให้พี่สาวจอดรับ ซึ่งเมื่อถามว่าจะไปไหน เขาก็ทำท่าทีเหมือนกำลังคิด และตอบว่าจะไปเที่ยวบนเขา ซึ่งตนได้ชวนขึ้นรถไปด้วย หลังจากนั้นนายธนทัตได้ยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะขึ้นมาบนรถ ในระหว่างทางตนได้พูดคุยกับนายธนทัต ซึ่งเขาบอกว่าจะไปกางเต็นท์นอนบนเขา ซึ่งตนและพี่สาวได้ส่งให้นายธนทัตลงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อให้เขาไปขอแผนที่ในการเที่ยว หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้พบนายธนทัตอีกเลย ตนสังเกตว่าเขาถือถุงสีขาวมา 1 ใบ แต่ตนไม่ได้สังเกตเลยว่านายธนทัตได้ถืออะไรมาในถุง แต่เท่าที่จำได้คือระหว่างที่นั่งบนรถ 2 แถวนั้นนายธนทัตมาตัวเปล่า ไม่ได้ถืออะไรมาด้วย สาเหตุที่กล้ารับนายธนทัตขึ้นมาบนรถ เพราะรู้สึกสงสาร และเนื่องจากได้เห็นพฤติกรรมของเขาบนรถสองแถวก่อนหน้านี้ก็มั่นใจว่าเขาเป็นคนดี ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเขาหายตัวไปก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะไปเขาป่า เพราะตนคิดว่านายธนทัตเป็นคนอินดี้ และมาเที่ยวคนเดียว ตนอยากให้เจอมาก เพราะเขาหายตัวไปหลายวันแล้วกลัวว่าจะเป็นอันตราย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังคงช่วยเหลือเต็มกำลัง เเละเชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้พบข่าวดี
ขอขอบคุณ อมรินทร์ทีวี