- 08 พ.ย. 2561
ประชาชนเตรียมควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม! ปรับขึ้นค่าไฟ 4.30 สตางค์ต่อหน่วย
ประชาชนเตรียมตัวจ่ายค่าไฟแพงขึ้น เริ่มตั้งแต่ต้นปีหน้า โดยล่าสุดในที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.วันนี้ มีมติให้ปรับขึ้นค่าไฟ งวดเดือนมกราคมถึงเมษายน ปี 62 จำนวน 4.30 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งต้องทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟเพิ่มเป็น 3.6396 บาทต่อหน่วย โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยราคาเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ทั้งก๊าซ น้ำมัน และถ่านหิน มีการเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. มีมติ ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที งวดเดือนมกราคม ถึง เมษายน 2562 เพิ่มขึ้น 4.30 สตางค์ต่อหน่วย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน หรืออยู่ที่ -11.06 สตางค์ต่อหน่วย จากค่าเอฟที งวดปัจจุบัน เดือนกันยายน-ธันวาคม 2561 อยู่ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ตั้งแต่เดือน มกราคมถึงเมษายน 2562 ประชาชนต้องจ่าย "ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้า" แพงขึ้น จากเดิม 3.5966 บาทต่อหน่วย เป็น 3.6396 ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยสาเหตุที่ต้องปรับค่า เอฟที เพราะเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงหลักที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เช่น ราคาก๊าซธรรมชาติ ที่มีสัดส่วน 60% ของเชื้อเพลิงทั้งหมด เพิ่มขึ้น 12.67 ล้านบาทต่อล้านบีทียู ราคาน้ำมันเตา น้ำมันดีเซล ราคาถ่านหินนำเข้า และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้จากการคาดการณ์ว่า ราคาเชื้อเพลิงยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ กกพ. ต้องมีการบริหารจัดการในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยให้ผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการ นำเงินสะสมค่าเอฟที ค่าปรับจากผู้ประกอบการ และเม็ดเงินลงทุนจากไฟฟ้าที่ไม่ได้ลงทุนตามแผน รวมเป็นเงิน 10,367 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และประชาชน
รวมไปถึงการควบคุมการใช้เชื้อเพลิงที่นำมาผลิตไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และอาจพิจารณานำเชื้อเพลิงที่มีราคาถูกอย่าง พลังงานน้ำ , รวมไปถึง การนำเข้าเชื้อเพลิงที่ถูกลงมาใช้ ส่วนงวดต่อไปเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2562 ต้องรอติดตาม ว่า ทางกพพ. จะสามารถนำเงินส่วนใดมาช่วยลดภาระค่าเอฟที เพื่อลดภาระให้กับประชาชนได้อีก