ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ "น้องเบส" อดีตนักเตะทีมชาติไทย ชาวบ้าน ลั่น จุดเกิดเหตุจะเสียชีวิตถึง 3 ครั้งต่อเดือน

เกิดเหตุการณ์สุดเศร้า กับ วงการฟุตซอลไทย  เมื่อ  "น้องเบส" จักกรี ชนชนะชัย ดาวเตะอนาคตไกล วัย 18 ปี  ของ ทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชน ระหว่างเดินทางกลับที่พัก หลังเสร็จสิ้น การฝึกซ้อม กับ ทีมชาติไทย เเละเมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 ที่ผ่านมา  น้องเบส ช่วย โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ลงแข่งขันฟุตบอล 7 คน ชิงแชมป์ 7 สี  สามารถโชว์ฟอร์มทำประตูพาทีมราชวินิตบางแก้วไล่ตีเสมอ อัสสัมชัญธนบุรี 3-3 และเป็น Man of The Match ก่อนในช่วงเย็นจะเดินทางมาร่วมฝึกซ้อม

 

กับ ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 20 ปี  ที่ชั้น 3 อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท.หัวหมาก ก่อนประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชน ระหว่างเดินทางกลับที่พัก โดยแพทย์ระบุการเสียชีวิต เบื้องต้นคือ บาดเจ็บรุนแรงที่ศรีษะ ลำตัว จากของแข็งไม่มีคมบดทับ ซึ่งหลังจาก นายถวิล ชนชนะชัย บิดา  นางพิสมัย ชนชนะชัย มารดา พร้อมญาติเดินทางมารับร่าง แล้วจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดสระทอง ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น  โดยมีพระสงฆ์ 1 รูป เดินทางมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเกิด

 

 

 

ไม่นานมานี้ นางพิสมัย แม่ของน้องเบส  เปิดเผยผ่านอมรินทร์ทีวีว่า ลูกมาเรียนที่โรงเรียนราชวินตบางแก้ว ตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยน้องสอบติดนักกีฬาโรงเรียน ทำให้น้องต้องย้ายมาอยู่ที่ กทม. กว่า 3 ปีแล้ว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วง 19.00 น. วานนี้ มีคนโพสต์ในไลน์ว่าลูกชายตนเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นก็ตกใจ ตนจึงให้พี่สาวของลูกชาย โทรศัพท์สอบถามเพื่อนของลูกชาย จึงทราบว่าลูกชายเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตแล้ว ตอนแรกไม่คิดว่าลูกจะถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นครอบครัวไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ก่อนเกิดเหตุ ทุกอย่างเป็นปกติทั้งหมด ไม่มีลางใด ๆ ตนเองยังทำใจไม่ได้ ลูกเป็นเด็กนิสัยดี ไม่เกเร เป็นลูกที่ทำให้ตนภาคภูมิใจ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ตนไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ล่าสุดลูกเพิ่งเดินทางไปหาที่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

 

ด้านนายประยูร คำสนิท ผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยผ่านอมรินทร์ทีวีว่า เหตุเกิดประมาณ 18.00 น. ตนขับรถมาตามถนนปกติ เพื่อจะเข้ามาที่ร้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้ตายนอนอยู่ใต้รถบรรทุกแล้ว แต่ตนเห็นเพื่อนผู้ตายบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ตนเข้าใจว่าน่าจะขับรถมาไม่เร็วมาก แต่ผู้ตายหลังรถล้ม เข้าไปใต้ท้องรถจึงถูกทับ ส่วนจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะจุดเกิดเหตุเป็นทางเข้าออกของรถบรรทุก ซึ่งบางครั้งรถเล็กไม่ทันระวัง จึงเกิดอุบ้ติเหตุชนได้ และหลังจากจุดเกิดเหตุ เป็นสะพานที่ถนนจะบีบเลน ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุบ่อย ภายใน 1 เดือน มีเหตุประมาณ 2-3 ครั้ง บางครั้งก็เห็นญาติ ๆ มาจุดธูปจุดเทียนบ่อย

 

 

 

ถือเป็นเหตุการณ์สูญเสียที่ยากจะทำใจจริงๆ  ขอเเสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ

 

ขอขอบคุณ อมรินทร์ทีวี