อุทาหรณ์!เตือนพ่อแม่ หนูน้อยวัยน่ารักติดเชื้อ 4S หลังถูกผู้ใหญ่หอมแก้ม

กลายเป็นเรื่องราวที่ต้องเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยวัยกำลังน่ารัก ต้องคอยดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ได้มีคุณแม่รายหนึ่ง ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Kultharin Lhew เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา เธอได้โพสต์ภาพลูกสาววัยน่ารักที่ต้องมารับเคราะห์ร้าย ติดเชื้อโรค 4S ที่ผ่านจากการสัมผัสโดยที่ผู้ใหญ่เอ็นดู เข้ามาเล่นกอดหอมแก้มหนูน้อย แต่อาจไม่ได้ทำความสะอาดร่างกาย ทำให้เชื้อโรคแพร่เข้ามาสู่ตัวลูกสาว จนเกิดอาการลุกลามจนหน้าบวม มีผื่นขึ้นทั้งตัว

 

ซึ่งคุณแม่เจ้าของเฟซบุ๊ก ได้แชร์เรื่องราวโดยระบุว่า "#อยากฝากถึง ผู้ใหญ่หลายๆท่าน อันนี้ต้องบอกก่อนน๊าต้องขอบคุณ​ทุกคนที่มีความเอ็นดูเอญ่า หรือเด็กๆทุกคนค่ะ แต่.. เนื่องจากตัวเราอาจมีเชื้อโรคต่างๆที่ติดมาตามร่างกาย ก่อนที่อยากจะมากอดหอมอยากจะรบกวนล้างมือก่อน หรือทำความสะอาดร่างกายตัวเองสักหน่อย น้องติดเชื้อ 4S ซึ่งมันทรมานมากๆเลยค่ะ เจ็บและแสบมาก บางครั้งถ้่าคุณแม่พูดหรือขออนุญาต​ไม่ให้กอดหรืออุ้ม ได้โปรดอย่ามองแม่ว่าแม่เป็นแม่ที่เวอร์วัง หรือจริตเยอะเกินไปนะคะ ชอบค่ะที่ทุกคนรักและเอ็นดูลูก แต่... เวลาลูกเจ็บป่วย แม่เองทรมานใจสงสารลูกเหลือเกิน ขอฝากไว้นะคะ ไม่ใช่เฉพาะแค่เอญ่า แต่ให้ระวังเผื่อเด็กๆทุกคนเลย จากใจแม่ #วิธีป้องกันโรค 4S หรือ SSSS ทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาล้างมือก่อนสัมผัสลูกน้อย ทั้งตัวเอง และคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หลีกเลี่ยงการให้ลูกน้อยโดนคนอื่นหอมแก้ม โดยที่คนๆ นั้นยังไม่ได้ล้างหน้า หรือทำความสะอาดร่างกาย หากเด็กมีไข้ ผิวหนังบวมแดง ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน"

 

 

 

ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวได้เผยแพร่ออกไป ก็ทำให้มีคนสงสัยว่าโรค 4S คืออะไร และมีวิธีแก้ไข ป้องกันอย่างไร ทั้งนี้ข้อมูลทางการแพทย์ได้ระบุว่า โรค (สตาฟิโลค็อกคอล สเกลด์ สกิน ซินโดรม Staphylococcal Scalded Skin Syndrome) หรือ โรค 4S เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ตามผิวหนังของมนุษย์ ปกติไม่เป็นอันตรายกับผู้ใหญ่ แต่เด็กผิวหนังยังเติบโตไม่เต็มที่ ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เชื้อโรคจะแทรกซึมเข้าร่างกายผ่านทางสะดือ เยื่อบุตา จมูก ช่องหู ช่องคอ หรือบาดแผล ดังนั้น กรณีนี้เด็กจึงอาจได้รับเชื้อ 4S จากผิวหนังตนเอง หรือจากผู้ใหญ่ที่สัมผัสตัว ได้เช่นกัน
 

 

 

 

โดยผู้ที่ป่วยโรคนี้ จะมีอาการอักเสบ มีรอยแดง จากนั้นจะเกิดตุ่มใสและผื่นแดงลุกลามไปทั่วร่างกายภายใน 24 – 48 ชั่วโมง และอาจมีไข้ ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะทันที ไม่เช่นนั้นอาจติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิต

แนวทางป้องกันคือ ให้ลูกดื่มน้ำนมแม่ เพราะเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดของทารก ดูแลความสะอาดของลูก เช่นตัดเล็บให้สั้นเสมอ รวมทั้งเสื้อผ้า-ข้าวของที่ใช้ต้องสะอาด และหลีกเลี่ยงบริเวณแอดัด

 

 

ล่าสุดทางคุณแม่เจ้าของเฟซบุ๊ก โพสต์อัพเดตอาการของลูกสาว โดยระบุว่า "#อัพเดทอาการเจ๊วันที่7 แผลเริ่มแห้งและลอกเป็นบางจุด ยังเจ็บแสบอยู่บ้าง อาการเริ่มเปลี่ยนมาทางการคันมากขึ้น ขอบคุณ​ลูกที่อึดและอดทนพยามส่งยิ้มมาให้แม่เสมอ แล้วก็ขอบคุณ​ทุกๆกำลังใจที่ส่งมาให้เอญ่านะคะ ถ้าตอบใครตกหล่นหรือช้าไปบ้างไม่โกรธกันน๊า ขอบคุณ​ทุกๆคนค่ะ"

 

 

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Kultharin Lhew