น้ำมันตลาดโลกร่วงแรง ส่งผลภาวะเงินบาทอ่อนค่าทองคำคงที่ พรุ่งนี้น้ำมันไทยลด 50 สต./ลิตร

จากการร่วงลงของราคาน้ำมันยังคงปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะ อุปทานล้นตลาด ถึงแม้ว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายใหญเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดิ่งลง 178.74 จุด หรือ 0.73% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 4.21 ดอลลาร์ หรือ 7.7% ทั้งนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ป ปรับตัวลดลง 4.63% หุ้นเทคนิป ปรับตัวลดลง 4.19% หุ้นเดวอน เอเนอร์จี ร่วงลง 5.68% และหุ้นคอนโช รีซอร์สเซส ร่วงหนัก 6.31%

 

 

 

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเช้าวันนี้ปิดที่ระดับ 1,623.60 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด (+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 14,911.02 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,624.90 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,616.97 จุด ซึ่งนักวิเคราะห์ฯเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังแกว่งแคบ-วอลุ่มเทรดน้อย ในช่วงรอติดตามการประชุมนอกรอบระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งอิงทางบวกเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส์ที่บวกกว่า 100 จุด ส่วนตลาดหุ้นไทยอิงทางลบเผชิญแรงกดดันราคาน้ำมันร่วงกว่า 7% ส่วนความคืบหน้าการเมืองตลาดฯตอบรับไปในระดับหนึ่งแล้ว 

 

 

โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 33.03/07 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อคืนวันศุกร์ดอลลาร์แข็งค่า เมื่อเทียบกับทุกสกุลหลักจากปัจจัยลบฝั่งยูโรโซน หลังข้อมูลเศรษฐกิจของเประเทศเยอรมนีออกมาไม่ดี ส่วนปัจจัยที่ต้องติดต่ามในสัปดาห์นี้ คือ คำแถลงของประธานเฟดที่จะไปพูดที่นิวยอร์คในวันพุธ และ กลางสัปดาห์จะมี การเปิดเผยบันทึกการประชุม FOMC คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.00 - 33.10 บาท/ดอลลาร์

 

 

ส่วนทางด้านราคาทองคำเช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์สุดท้ายเดือนพ.ย. ยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้มีปัจจัยกระทบสำคัญค่อนข้างมากจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ด้านทองไทยเงินบาทอ่อนเป็นแรงหนุน ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 จากปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์งบประมาณของอิตาลี ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และประเด็น Brexit นอกจากนี้ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนซื้อจากกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน ETF รายใหญ่ของโลกที่ตลอดสัปดาห์ที่แล้วเข้าซื้อทองคำมากถึง 24 ตัน นอกจากนี้ต้องติดตามการประชุมกลุ่มจี 20 ในช่วงปลายสัปดาห์ซึ่งมีประเด็นการเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนเพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ

 

 

 

ล่าสุดน้ำมันในประเทศไทย บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลงลิตรละ 50 สตางค์ เว้น E85 ลด 30 สตางค์ และกลุ่มดีเซล ลงลิตรละ 50 สตางค์ มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) เป็นต้นไป โดยส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการน้ำมันของ PTTOR และ BCP ในเขตกรุงเทพฯ วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ 
-เบนซิน 95 (ของ PTTOR) ลิตรละ 35.46 บาท 
-แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 28.05 บาท 
-แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 27.78 บาท 
-E20 ลิตรละ 25.04 บาท 
-E85 ลิตรละ 20.19 บาท 
-ดีเซล ลิตรละ 27.79 บาท 
-ดีเซลพรีเมียม ลิตรละ 31.39 บาท 
-ดีเซลไฮพรีเมียม ลิตรละ 31.66 บาท (ของ BCP) โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.

 

 

ขอบคุณ : สมาคมค้าทองคำ , แจ้งเตือนราคาน้ำมัน , ตลาดหลักทรัพย์ , Thai oil