- 30 พ.ย. 2561
วินมอเตอร์ไซค์หน้าห้าง! แฉ เดินไปบอกให้แท็กซี่ไปแจ้งความหลังโดนรุมยำ เจอตอกกลับ"ตรงนี้มีแต่หมา" ด้านแท็กซี่ ยัน ไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสาร!
จากกรณีคลิปที่ถูกแชร์ไปทั่วโลกโซเชียล เหตุชุลมุนกันบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โดยกลุ่รปภ.ที่กำลังรุมทำร้ายคนขับแท็กซี่อยู่บริเวณหน้าห้างดังกล่าว ในขณะนั้นมีผู้คนอยู่บริเวณข้างนอกห้างจำนวนมาก ต่างตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยสื่อสังคมออนไลน์ต่างแห่แชร์คลิปวีดีโอนี้ออกไป
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ได้โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า "#คนไทยมีเลือดนักสู้.!!! ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกันเอามาให้ดูเตือนสติให้ใจเย็นๆกันนะครับ ขอบคุณเจ้าของคลิปเตือนสตินี้" ซึ่งภายในคลิปเป็นคลิปเหตุการณ์ ได้มีกลุ่มชุลมุนบริเวณหน้าห้างดังสรรพสินค้าย่านอโศก โดยกลุ่มชายแต่งกายคล้ายรปภ.ได้รุมทำร้ายชายที่แต่งกายเหมือนคนขับแท็กซี่ โดยผู้โพสต์ระบุว่าไม่ทราบที่มาของปัญหาดังกล่าวว่าเกิดจากอะไร ซึ่งพบเพียงว่ารปภ.จำนวนหลายคนรุมทำร้าย ในขณะนั้นมีประชาชนผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดทางศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก ได้ออกจดหมายชี้แจงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทหน้าศูนย์การค้า ซึ่งจากการตรวจสอบคลิปดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.61) ช่วง 16:00น. แท็กซี่คันกล่าว ปฏิเสธการรับผู้โดยสาร รปภ. จึงแจ้งให้คนขับ ขับรถออกจากจุดรับ-ส่ง แต่ระหว่างนั้นเกิดมีปากเสียงกัน คนขับได้ลงจากรถ และตรงเข้าทำร้าย รปภ. โดย รปภ. ที่อยู่ใกล้เคียงได้เข้าไกล่เกลี่ย แต่ไม่สำเร็จ จนถึงขั้นทะเลาะวิวาทกันตามที่ปรากฏในคลิป
ทั้งนี้ ตามนโยบายของ ศูนย์การค้าเทอมินอล21 ไม่สนับสนุนแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่กดมิเตอร์ ซึ่ง รปภ. ได้ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์การค้าฯ ก็ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงเช่นกัน จึงได้ประสานงานต้นสังกัด รปภ. เพื่อดำเนินการตามระเบียบพิจารณาโทษตามนโยบายบริษัท และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
ขณะที่ นายสุวิทย์ ลายประโคน วินมอเตอร์ไซค์หน้าห้าง เผยว่า วันเกิดเหตุ ตนเดินเข้าไปในเหตุการณ์ตามคลิป ขณะที่เรื่องจบแล้ว และได้ไปบอกกับคนขับรถแท็กซี่ว่า “ถ้าถูก รปภ. รุมตี คุณก็ไปแจ้งความสิ” แท็กซี่ตอบกลับมาว่า “ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีคนสักคนเลย มีแต่หมา” ตนจึงตอบกลับไปอีกว่า “พูดแบบนี้ มึงก็ว่ากูเป็นหมาด้วยสิ” แล้วตนก็เดินกลับมาที่วินของตัวเอง ซึ่งตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่ตีกันมาจากอะไร โดยตนเองก็หวังดีจึงไปบอกกับแท็กซี่ แต่กลับโดนด่ากลับมา หลังจากนั้นตนก็เห็นว่าหัวหน้า รปภ. เรียกกลุ่ม รปภ. เข้าไปคุย ซึ่งเป็นช่วงชุลมุน และตนไม่ทราบว่ามี รปภ. ที่ก่อเหตุ มีกี่คน แต่เห็นว่าถูกเรียกกลับเข้าบริษัทแล้ว
นายสุวิทย์ กล่าวว่า แท็กซี่คนนี้ ด่า รปภ. หลายครั้งแล้ว และชอบมาจอดรถแช่ ซึ่ง รปภ. มีหน้าที่ดูแลรถ เพื่อไม่ให้รถติดบริเวณหน้าห้างฯ หากรถแท็กซี่คันไหนไม่รับผู้โดยสาร ก็จะให้ออกไปจากพื้นที่ ซศึ่งตนคิดว่า คนขับรถแท็กซี่คงจะไม่พอใจ และเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นอกจากนี้ ตนเองเคยเห็นรถแท็กซี่คันนี้ชอบมาจอดบริเวณหน้าห้าง ฯ เป็นประจำอีกด้วย
ด้าน นายเขตธิคุณ รัตน คนขับรถแท็กซี่ เผยว่า วันเกิดเหตุ ตนเองไปจอดรถส่งผู้โดยสาร หลังจากนั้นมีคนข้ามถนนในห้างดังกล่าว และได้จอดให้คนเดินข้ามถนน และ รปภ. ก็ได้ประกาศออกไมค์ไล่ตนเสียงดัง และใช้คำพูดไม่ดี ตนจึงบอกกับ รปภ. ว่า “พูดจาดี ๆ หน่อย” หลังจากนั้นได้มีปากเสียงกัน จึงขับรถออกไปจากห้าง และวนกลับมาใหม่ จากนั้นทะเลาะกันกับ รปภ. แค่ 2-3 คน จากนั้น รปภ. จึงเรียกพวกมารุมตนเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชุลมุน และตนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือมีการใช้อาวุธหรือไม่ แต่ยอมรับว่าไม่ได้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เพราะตนเองก็เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ มีการต่อสู้บ้าง ซึ่งอาการบาดเจ็บก็มีเพียงเจ็บบริเวณหน้าอกเท่านั้น
ซึ่งตนเองขับรถรับผู้โดยสารมาส่งที่ห้างดังกล่าว รปภ. ควรจะเปิดประตูต้อนรับด้วยซ้ำ และตนไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสาร ตนไม่พอใจที่ถูกต่อว่า จึงได้โทรศัพท์ไปที่ขนส่ง ว่าทำไม รปภ. ถึงพูดแบบนี้ หาว่าตนไม่รับผู้โดยสาร แล้วตนก็ถูกกระทืบ ถึงตนจะปฏิเสธผู้โดยสารจริง ก็ไม่มีสิทธิ์ถูกกระทืบอยู่ดี
โดยตนเองถูกกระทืบจากคนที่เห็นมากกว่าในคลิป พ่อกับแม่ตนเห็นคลิป แม่ร้องไห้ เพราะคิดว่าทำไมตนโดนกระทำแบบนี้ น้องสาวยังบอกว่า ให้แจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ตนคิดว่าไม่เอาดีกว่า ขอพูดคุยกันก่อน อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดจะไปแจ้งความ เพราะคิดว่าเป็นแค่เรื่องทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่ที่มาถูกต่อว่าแบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจ โดยจะรอทางห้างติดต่อมา และส่งคนมาพูดคุยถ้าตกลงกันได้ ตนเองก็ไม่คิดจะติดใจเอาความ เพราะทางคู่กรณีที่เป็น รปภ. ก็ติดต่อตนหามาว่าจะขอเยียวยา และทางตำรวจสน.ลุมพินี ก็ติดต่อมาว่าให้ไปลงบันทึกประจำวัน แต่ตนเองก็ไม่ได้ไป เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ และคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าจะตกลงกันได้ สุดท้าย ตนเองก็เป็นรถแท็กซี่ที่ทำมาหากินสุจริต และไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสาร
Cr.ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34