- 07 ธ.ค. 2561
ทนายรณรงค์เตือนผู้บริโภคชูป้ายร้องเรียนรถ ระวังถูกค่ายรถฟ้องหมิ่นประมาท!
บนเพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ซึ่งเป็นของ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้โพสต์ถึงกรณีผู้บริโภคไปถือป้ายร้องเรียนบริษัทรถชื่อดังแห่งหนึ่ง สะท้อนให้เกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับการคุ้มครองผู้บริโภคในเมืองไทย และเตือนลูกค้าว่าให้ระวังการชูป้ายร้องเรียนเช่นนี้ทางบริษัทอาจมาฟ้องหมิ่นประมาทเอาได้
ทางเพจทนายคู่ใจได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทุกครั้งที่จัดงานมอเตอร์โชว์ ต้องมีคนไปยืนถือป้ายว่ารถยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้มีปัญหาทุกครั้งเลยเชียว
เกิดอะไรขึ้นกับการคุ้มครองผู้บริโภคในเมืองไทยกัน หรือมันจะมีปัญหา ?
ล่าสุดรถค่ายดัง ราคาแพง ( ขออนุญาตไม่บอกชื่อยี่ห้อ ) มีผู้เสียหายจากการซื้อรถ ชูป้ายประมาณว่ารถซื้อมาแพง ซื้อมาปีกว่า แต่ซื้อมาซ่อมไม่ได้ขับ
เรื่องนี้มีมุมมองอยู่ 2 ทางด้วยกัน
1.สิทธิของทางผู้บริโภคที่จะเรียกร้องให้ทางบริษัทค่ายรถออกมารับผิดชอบความเสียหาย ไม่มีจะเป็นค่าซ่อมรถ หรือเรียกร้องให้เปลี่ยนรถคันใหม่ ตามกฎหมายแพ่ง และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
แต่จากข้อมูลที่มีเมื่อทำสัญญาเช่าซื้อและรถมีปัญหา บริษัทรถไม่ยอมที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ให้ ทำได้แค่ซ่อมรถให้ หรือชำระค่าเสียหาย หรือมอบสิทธิประกันภัยชั้น 1 ให้เป็นระยะเวลาหลายปี
คิดว่าผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะรู้สึกอย่างไรกัน รถซื้อมาขับ แต่กลับต้องมานั่งซ่อม แบบนี้ คุ้มหรือ ?
หลายๆค่าย เมื่อรถมีปัญหา การที่แก้ไขเยียวยา ควรที่จะเป็นไปอย่างเร่งด่วน และจริงใจ แต่กลับกันกลายเป็นว่า เตะถ่วง ล่าช้า ไม่เยียวยา จนเกิดกรณีฟ้องร้องเป็นคดีกลุ่ม ซึ่งเป็นคดีตัวอย่างที่ผู้บริโภครวมตัวกันฟ้องร้องบริษัทค่ายรถยักษ์ใหญ่ จนศาลพิพากษาให้บริษัทรถจ่ายค่าเสียหาย ดังที่ทุกท่านทราบข่าวกันดีแล้ว
2.ในมุมมองของทางค่ายรถ จากการที่แอดมินติดตามข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคนั้น การที่ไปชูป้ายในงานมอเตอร์โชว์แบบนี้ ทางค่ายรถอาจมองว่าเป็นการ ใส่ความ ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัท และจบลงด้วยการฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท (ป.อาญา ม.326) พร้อมพ่วงค่าเสียหายทางแพ่งอีกหลายล้าน หนักๆก็หลักหลายสิบล้าน (ป.แพ่ง ม.420)
เชื่อทนายเถอะ ชูป้ายแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนค่ายรถฟ้อง !!!!
แต่ถามว่าผิดไหม คือถ้ามันเป็นข้อเท็จจริง เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้เสียของตนเอง เมื่อเข้าสู่กระบวนการศาล หลายๆเคสศาลก็ยกฟ้อง ล่าสุดศาลสั่งให้จ่ายค่าทนายแทนจำเลยที่ถูกฟ้องด้วย
แต่ก็นั่นแหละ รถก็ไม่เปลี่ยนให้ ซ่อมก็ไม่ซ่อมให้ แถมยังโดนฟ้องต้องไปสู้คดีอีก
ครั้นจะไปร้องเรียน สคบ. ก็มีความล่าช้าเนื่องจากเป็นหน่วยงานรัฐ ครั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหายว่ารถเสีย ซื้อมาต้องซ่อมบ่อย ภาระการพิสูจน์ในชั้นศาลว่ารถเสีย ใช้ไม่ได้อย่างไร ก็ตกเป็นภาระของผู้บริโภคอีก
หรือถ้าหากเป็นผู้บริโภคในเมืองไทยนี่ต้องอดสู ยอมรับชะตากรรมสถานเดียว ????
ขอบคุณ ทนายคู่ใจ