- 22 ธ.ค. 2561
ในหลวงร.10 โปรดเกล้าฯจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเลี้ยงจนท.ที่ไปตามหาเด็กชาย2ขวบที่หายไปในป่าอ้อย!
จากกรณีเด็กชายซูลุยผิว วัย 2 ขวบ 1 เดือน ชาวพม่าหายตัวไปในไร่อ้อยห่างจากริมถนนมาลัยแมน 3 กม. ลึกไปในถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยตอนแรกเด็กชายได้ไปวิ่งเล่นกับพี่สาวจนกระทั่งหายตัวไป ขณะนี้เป็นเวลากว่า 5 วันแล้วยังไม่พบตัวเด็กชายที่หายไป พ่อแม่ยังคงเชื่อว่าลูกมีชีวิตอยู่เพียงแต่ถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์บังตาเอาไว้
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้ระดมกำลังมาร่วมตามหาเด็กชาย มีทั้งเจ้าหน้าที่อส. เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน Labour Rights Promotion หรือ LPN. และชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ ทหาร มทบ.17 (จ.กาญจนบุรี) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยายโสม เจ้าหน้าที่กู้ภัยจักรนารายณ์ มูลนิธิกระจกเงา เจ้าหน้าที่สมาถมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี ผู้ใหญ่กำนันจาก ต.สระพังลาน ต.ดอนมะเกลือ
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมายังมีน.ส.ศิริสรา เจียมวงค์แพทย์ ผู้ควบคุมสุนัข โครงการสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ (มูลนิธิ พล อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ) พร้อม Mr.Andy redmond อายุ 50ปี กับ Mss.Susan redmond อายุ 50ปี 2 สามีภรรยา อาสาสมัครชาวนิวซีแลนด์ ในโครงการเดียวกัน นำสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ อายุ 2 ปี พันธุ์เยอรมัน เชฟเฟิร์ด 3 ปี พันธุ์อิงลิช เซตเทอร์ อายุ 7 ปี มาช่วยเหลือในการค้นหาจำนวน 3 ตัวด้วย ซึ่งเบื้องต้น สุนัขดมกลิ่นค้นหา และได้พุ่งตรงเข้าป่าอ้อย มาหยุดที่บ่อน้ำในไร่อ้อย เขตรอยต่อ จ.อ่างทอง
และล่าสุดวันนี้(22 ธ.ค.2561) ผู้ว่าฯสุพรรณบุรีก็ได้เดินทางมาร่วมตามหาเด็กชายที่ป่าอ้อยด้วยตัวเอง โดยประสานนำเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจมาบินระดมค้นหาในบริเวณดังกล่าว ทางภาคอากาศ และสั่งการภาคพื้นดินปูพรมเดินเท้าตามหาเด็กชาย
เบื้องต้นยังไม่พบตัวเด็กชายที่หายไป แต่ได้มีการขอความร่วมมือจากชาวไร่อ้อยในการตัดป่าอ้อยทิ้งเพื่ออำนวยความสะดวกในการตามหา ซึ่งชาวไร่อ้อยก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยอมให้ตัดป่าอ้อยทิ้งอย่างไม่เสียดาย
นอกจากนี้ทางจ.สุพรรณบุรีได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 10จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมภารกิจตามหาเด็กชายที่บริเวณป่าอ้อย โดยเป็นโรงครัวเคลื่อนที่จากกองพลทหารราบที่9
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกระจกเงาได้ตัดประเด็นรถจับตัวเด็กออกไปก่อนเพราะบริเวณที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งกว้างเนื้อที่กว่า1,000ไร่ และโดยปกติจะไม่มีรถแปลกๆขับเข้ามาในพื้นที่
พ่อแม่ของเด็กชายซูลุยผิวเปิดใจรู้สึกทราบซึ้งในน้ำใจของคนไทยอย่างมากที่มาช่วยกันตามหาลูกแม้ตนจะไม่ได้มีสัญชาติเดียวกันก็ตาม อย่างไรก็ยังมั่นใจว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ และหากพบเจอลูกไม่ว่ายังอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้วก็จะพากลับบ้านเกิดที่ประเทศพม่าทันที
ขอบคุณ 123 คนดีมีน้ำใจ