- 24 ธ.ค. 2561
พ่อด.ญ.เปิดหมดเปลือก 2 ป้าพูดอะไร ทำไมลูกสาวถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ ล่าสุดให้ลาออกโรงเรียน ลุยเอาผิดแก๊งโจ๋ถึงที่สุด
สืบเนื่องจากกรณีที่เด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายจำนวน 5 รายก่อเหตุรุมข่มขืน ภายในร้านขายของแห่งหนึ่งพื้นที่จ.สระบุรี โดยในเวลาต่อมาพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายได้ร้องขอความเป็นธรรมและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการเอาผิดกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุต่างรับสารภาพว่าได้ลงมือรุมข่มขืนเด็กหญิงจริง
ต่อมาทางเพจล่า ได้มีการแฉข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีกด้วยว่า มีผอ.ที่ได้สอบถามเด็กวัย 12 เหยื่อทรชน ด้วยสีหน้าที่ไม่ยิ้มแย้ม ด่าทอและบ่นว่าทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง บังคับให้ลาออกสถานเดียว ซึ่งเด็กวัย 12 ได้ชี้ตัวชัดเจนแล้วว่า คนไหนที่เป็นคนพูดทำร้ายจิตใจขนาดนี้
ขณะที่เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา ทางด้านน.ส.ศรีสุนา ตันเจริญ ผอ.กองการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี พร้อมด้วยน.ส.เบญจมาศ สังข์เพชร นักวิชาการเทศบาลเมืองสระบุรี และนายจิรายุทธ บุญแลบ อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดทองพุ่มพวง) ได้เปิดใจ ร่วมชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวโจมตีว่า ผอ.กองการศึกษา เรียกเด็กหญิงวัย 12 ปี เหยื่อถูกขืนใจเข้ามาพูดคุย
แล้วกดดันให้เด็กออกจากโรงเรียนนั้นว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยพูดแบบนั้น ยังฝากฝังผอ.อีกโรงเรียนหนึ่ง ที่เจอกันช่วยดูแลเด็กอยู่เลย ในโลกโซเชียลบอกว่ามีป้าแก่ๆ เข้าไปในโรงเรียน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นป้าไหน แต่ตนเองเป็นผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเทศบาลเมืองสระบุรี ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
อีกทั้งนี้ในเฟซบุ๊ก ก๊อสด์ เดนด์เด้ฮ์ ร้านสัก สระบุรี พ่อของเด็กวัย 12 ปี ยังโพสต์ข้อความระบุว่า "ไม่มีใคร อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หรอกคับ และผมก็ไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวคนอื่นๆอีก ช่วงนี้ผมนอนน้อยมาก ข่มตานอนหลาย ช.ม ก็นอนไม่หลับ ผมนอน หลัง 7 โมง ทุกวันเลย พอ 9โมง10โมง ก็ตื่นเพราะนักข่าวมาปลุก ผมก็ปฏิเสธ ไปหลายๆสำนักข่าว ก็ต้องขอโทษด้วยครับ แต่ผมก็เข้าใจ นะครับว่าพี่ๆต้องการมาช่วย แต่ผมเหนื่อยจริงๆ ณ ตอนนั้น ส่วน พรุ่งนี้ 15:00น ผมจะยอมเเถลงข่าว
อ่านข่าว : พ่อเหยื่อ5 โจ๋ ยันมีผอ.บีบคั้นลูกสาว นัดสื่อแจงทุกปมคิดจะนำเงินบริจาคช่วยรพ.
ล่าสุดนายอาคม กำหนดพรหม อายุ 30 ปี พ่อของด.ญ.วัย 12 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งโจ๋ ได้เปิดใจผ่านไลฟ์สดเล่าถึงกรณีดังกล่าวว่า บอกว่า ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกท่าน ขอบคุณกำลังใจทุกกำลังใจ ขอบคุณพี่นักข่าวที่ช่วยเหลือตนมาตลอด ในวันนี้ตนอยากจะพูดถึงเรื่องที่ว่าที่โรงเรียนของน้อง ซึ่งเรื่องนี้ได้ถามน้องถึง 2 ครั้ง ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรบ้าง ซึ่งน้องก็ตอบเหมือนกันทั้ง 2 ครั้ง
น้องเล่าให้ตนฟังว่า หลังจากที่เกิดเรื่องไปแล้วนั้น แล้วน้องก็ได้กลับไปเรียนตามปกติ แต่ทางผอ.โรงเรียน ที่น้องเรียนอยู่นั้นได้ให้น้องทานยาแล้วก็นอน
ในขณะที่น้องนอน ซึ่งมีผอ.โรงเรียนคอยดูแล จู่ๆก็มีป้า 2 คนเดินเข้ามาหาน้อง แล้วก็พูดว่า “เธอก็รู้จักผู้ชาย 5 คนนั้น เธอก็ยอมมันเอง เธอจะทำให้มันเป็นเรื่องทำไม” ก่อนที่น้องจะตอบไปว่า “หนูไม่รู้จัก แล้วหนูก็ไม่ได้ยอม” ก่อนที่ป้าคนเดิมจะพูดกับน้องต่อว่า “เธอทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง เธอยังอยากจะเรียนอยู่มั้ย ถ้าเธอขาดเรียนอีกครั้งฉันจะไล่เธออกเลยนะ หน้าตาเธอก็ดีนะ แต่ทำไมนิสัยไม่ดี”
แล้วป้าคนดังกล่าวก็ทำท่าเบะปากเดินออกจากห้องไป ซึ่งน้องบอกกับตนว่าป้าทั้ง 2 คนนั้น มีตำแหน่งสูงกว่า ผอ.โรงเรียน ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากที่ ผอ.โรงเรียนอนุญาตให้ 2 คนนั้นเข้าไปพูดกับลูกตนแบบนี้ แม้ตัวผอ.เองจะไม่ได้พูดอะไรกระทบจิตใจน้องก็ตาม แต่ก็ไม่ควรทำเช่นนั้น
หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้วน้องก็รู้เครียดเพิ่มมากขึ้น น้องพูดกับตนว่า “หนูใช่มั้ย ที่เป็นคนผิด” ในฐานะที่เป็นพ่อ ตจนรู้สึกว่าน้องพยายมที่จะหนีปัญหา ตนกลัวว่าน้องจะหนีไปอยู่ที่อื่น น้องเคยพูดกับตนว่า ถ้าหนูไม่อยู่พ่อจะเสียใจมั้ย ถ้าหนูตายไปเรื่องทุกอย่างจะจบใช่ไหม
วันนี้ก็เลยตัดสินใจให้น้องลาออกจากโรงเรียนนั้นเลย เพราะไม่มีโอกาสที่จะไปพูดคุยกับคนที่พูดแบบนั้นกับน้อง เพราะตนต้องทำเรื่องที่ใหญ่กว่า คือการสู้คดี และการหาที่อยู่ใหม่ให้น้อง ส่วนเรื่องของน้องตอนนี้มีหน่อยงานเอกชน กระทรวงยุติธรรม และนายธวัชชัย งามกรม รองปลัดสำนักงานคุ้มครองพยาน ที่ได้นำน้องไปดูแลแล้ว ในโครงการคุ้มครองพยาน ซึ่งก็เป็นการดูแลลูกของตน
และดูแลน้องอีกคนหนึ่งที่อายุ 16 ปี ซึ่งทางนายธวัชชัย จะเยียวยาจิตใจของน้องทั้ง 2 คน จนกว่าจะดีขึ้น ก่อนที่จะมีการสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีตนก็ยังจะดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าก็จะเอาผิดให้ถึงที่สุด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์โดยจะให้ทนายเข้าไปจัดการมากขึ้นด้วยเช่นกัน