คนขับรถไถลั่นกล้ารับผิดแน่ถ้าชน "น้องซูลุยผิว" สงสัยกลับพ่อแม่ทะเลาะใครมั้ย สาเหตุเด็กเสียชีวิต

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้มีการค้นหา ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ชาวพม่า หลังหายตัวเข้าไปในไร่อ้อย พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งล่าสุดเข้าสู่วันที่ 9 ของการค้นหา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ระดมกำลังเดินปูพรมลาดตระเวนในไร่อ้อย พื้นที่ 1,400 ไร่ พร้อมกับชาวบ้านอาสาในพื้นที่ ที่ให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น 
 

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพบร่างของด.ช.ซูลุยผิว แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งอยู่ในไร่อ้อยห่างจากจุดที่หายตัวไปประมาณ 5 กิโลเมตร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการนำร่างของ ด.ช.ซุลุยผิว ออกมาด้านนอก เพื่อตรวจสอบดูว่าตามร่างกายมีบาดแผลหรือไม่ และเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด จากนั้นจึงจะนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง  โดยมีนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เจอตัวเด็กชาย อายุ 2 ขวบ แล้ว พบว่าเสียชีวิตภายในไร่อ้อยมาแล้วหลายวัน ห่างจากจุดที่หายตัวไปประมาณ 5 กิโลเมตร

 

ขณะที่ทางแพทย์นิติเวชตรวจสอบการเสียชีวิตเบื้องต้นของด.ช.ซูลุยผิว สันนิษฐานว่ามาจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนจะสาเหตุที่ทำให้ขาดอากาศหายใจนั้นคืออะไร ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยสภาพศพบางส่วนเริ่มเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ทำให้ชาวโซเชียลตั้งข้อสงสัยการเสียชีวิต ว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากบริเวณจุดสุดท้ายที่น้องยังวิ่งเล่น และจุดที่เจ้าหน้าที่พบร่างของน้อง ว่าห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตรนั้น ในวันแรกที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ค้นหา เป็นจุดที่ค้นหาไปแล้ว แต่กลับไม่พบตัวน้อง

 

อ่านข่าว : เปิดผลชันสูตร"น้องซูลุย"เสียชีวิตนานเกิน 5 วัน โซเชียลสงสัยเจอร่างไร้วิญญาณ

 

ทั้งนี้นายผิวและนางมอ พ่อแม่ของเด็กชาย 2 ขวบ ได้เปิดใจทั้งน้ำตา บอกผ่านล่ามว่า " ตอนนี้ครอบครัวยังสงสัยในปมการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากไม่คิดว่าลูกจะเดินไปได้ไกลถึง 5 กิโลเมตร เพราะระยะทางไกลมาก และเขายังเด็ก และไม่ทราบว่ามีใครเป็นคนพาลูกไปหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่เชื่อด้วยว่า ลูกชายจะจมน้ำเสียชีวิต แม้จะเจอศพอยู่ข้างร่องน้ำก็ตาม ส่วนรองเท้าที่ขาดและหมวกที่เจออยู่ในจุดพบศพ เป็นของลูกชาย แต่ของเล่นที่เจอนั้น ไม่ใช่และไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดมาทำตกไว้" โดยในระหว่างที่ทั้งคู่เล่าความรู้สึกบอกผ่านกับทางล่าม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำภาพจุดเกิดเหตุมาให้ทางครอบครัวดู พ่อและแม่ พร้อมทั้งญาติพี่น้องก็ถึงกับร่ำไห้  เนื่องจากไม่สามารถทำใจได้กับการสูญเสียอย่างกะทันหันได้  

“สภาพศพลูกที่เจอไม่ปกติ เนื่อจากขาเละและมีบาดแผลบริเวณขา กระดูกขาโผล่ออกมา ใบหน้ามีรอยบาดแผล มีแผลบริเวณข้อมือด้วย ใบหน้ามีรอยยุบ ตอนนี้เชื่อว่ามีคนทำให้ลูกเสียชีวิตคิดว่าน่าจะเป็นคนขับรถไถที่อยู่ด้วยในพื้นที่วันเกิดเหตุ และตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่ได้เจอคนขับรถไถอีกเลย ไม่ได้คุยกัน” นอกจากนี้นางมอ ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และคนไทยที่เป็นกำลังใจให้ ตอนนี้เสียใจเรื่องลูกมากๆ แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม ให้คดีคลี่คลาย

 

 

อ่านข่าว : พ่อแม่คาใจร่าง"น้องซูลุยผิว"เจอไกลถึง5กม. สงสัยแผลบนข้อเท้า เกี่ยวข้องคนขับรถไถ (คลิป)  
 

ล่าสุดนายสมาน วงษ์กัณหา คนขับรถไถ ที่แม่ของเด็กชาย 2 ขวบ บอกว่าได้หายตัวไปในวันเกิดเหตุ  เปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า "วันเกิดเหตุตนขับรถไถเข้าไปในไร่อ้อยจริง โดยเห็นเด็กน้อยทั้ง 2  คนเล่นกันอยู่ในร่องไร่อ้อยริมถนน เมื่อเด็กเห็นรถไถได้หลบเข้าไปห่างจากรถประมาณ 3 เมตรซึ่งเป็นระยะปลอดภัย จากนั้นตนก็ขับรถไปไถดินตามปกติ จนกระทั่ง 5 โมงเย็นรู้เรื่องเด็กหายยังมาช่วยตามหา

 

 

 

ที่แม่เขาพูดตนก็นึกโมโหนะ และรู้สึกเสียใจ ที่ไปช่วยแล้วแท้ๆ แต่ต้องมาเจอคำพูดแบบนี้ หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพาตัวไปสอบสวน พร้อมมาเก็บตรวจดีเอ็นเอที่รถไถไปหมดแล้ว ผมก็ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ส่วนการเปลี่ยนใบมีดรถไถหรือหางนั้น ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนจริง เนื่องจากดินแต่ละแปลงในไร่อ้อยไม่เหมือนกันมีทั้งดินแข็ง ดินอ่อน ต้องใช้หางให้เหมาะกับสภาพดิน ไม่อย่างนั้นก็ไถดินไม่เข้า

 

(นายสมาน วงษ์กัณหา คนขับรถไถ)

ตอนนี้ผมเหมือนตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว ถูกกล่าวหาว่าไปเหยียบเด็กตาย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ถ้าผมเหยียบเด็กตายตรงนั้นมันจะไม่มีร่องรอยหรือไม่มีกลิ่นคาวเลือดเลยหรือ คนที่มาช่วยหาก็ต้องเจอ ที่สำคัญเด็กที่ผมเห็นก็ยังไม่แน่ว่าจะใช่เด็กที่ตายหรือเปล่า เพราะผมมองผ่านๆ เรื่องนี้เมื่อผลชันสูตรศพออกมาก็จะได้รู้ความจริงว่า ว่าผมบริสุทธิ์ แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นจำเลยของสังคมไปเรียบร้อยแล้ว ถูกตัดสินแบบไม่ยุติธรรม

 

 

ถ้าตนเหยียบเด็กตายจริงๆเรื่องคงไม่วุ่นวายแบบนี้ ผมรับสารภาพไปแล้วเพราะมันเป็นอุบัติเหตุ ตนเป็นลูกผู้ชาย ยังได้บอกกับผู้กำกับไปแล้วด้วย ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเด็กจะเข้าไปในไร่อ้อยเอง ยังสงสัยอยู่ว่าน่าจะมีคนพาเข้าไป ยังอยากให้ดูว่าตับไส้พุงอยู่ครบไหม ในที่เกิดเหตุเด็ก 3 ขวบยังบอกว่า “ถูกจับไปแล้ว” ซึ่งเด็กไม่น่าจะพูดโกหก เพราะหากเวลาผ่านมา 3-4 วันอาจจะมีการปรุงแต่งเรื่อง แต่นี่เด็กพูดวันนั้นเลย ดังนั้นคงต้องไปถามพ่อแม่เด็กว่ามีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า ถ้าผลชันสูตรออกมาแล้ว ผมก็อยากได้รับความเป็นธรรม อยากให้แถลงข่าวว่าตนไม่ผิด และอยากให้แม่เด็กมาขอโทษตนด้วย ถ้าคำที่กล่าวหาไม่เป็นจริง 

 

 

 

 

 

นางมอ แม่ของน้องซูลุยผิว เล่าผ่านล่ามเมียนมา บอกว่า “สภาพศพลูกที่เจอไม่ปกติ เนื่อจากขาเละและมีบาดแผลบริเวณขา กระดูกขาโผล่ออกมา ใบหน้ามีรอยบาดแผล มีแผลบริเวณข้อมือด้วย ใบหน้ามีรอยยุบ ตอนนี้เชื่อว่ามีคนทำให้ลูกเสียชีวิตคิดว่าน่าจะเป็นคนขับรถไถที่อยู่ด้วยในพื้นที่วันเกิดเหตุ และตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่ได้เจอคนขับรถไถอีกเลย ไม่ได้คุยกัน”