- 26 ธ.ค. 2561
แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง ที่บ้านท่าไทร จ.พังงา ห่างจากจุดเดิม 30 กม.
เช้าวันนี้ (26 ธ.ค. 2561) เกิดเรื่องน่ายินดีขึ้นที่จ.พังงา เมื่อแม่เต่ามะเฟืองได้ขึ้นบกมาวางไข่อีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เป็นสัญญาณที่ดีว่าทะเลไทยเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง และครั้งนี้ก็ยิ่งตอกย้ำได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นครั้งที่ 2 ละคาดว่าจะเป็นแม่เต่าตัวเดิมที่เคยขึ้นมาวางไข่ แต่ครั้งนี้มันขึ้นมาห่างจากจุดเดิมประมาณ 30 กิโลเมตร
เช้าวันนี้ (26 ธ.ค. 2561) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความน่ายินดีผ่านทางเฟซบุ๊กของเขาระบุว่า
โฮ่ๆๆ เมื่อคืนลุงซานต้ามาทะเลไทย มอบของขวัญสุดเจ๋งให้พวกเรา แม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่อีกแล้วครับ !!! หนนี้เป็นที่บ้านท่าไทร อำเภอท้ายเหมือง พังงา ห่างจากจุดเดิม 30 กม. เป็นเขตนอกอุทยานเหมือนครั้งแรก เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลฯ เข้าพื้นที่เพื่อดูแลแล้ว โดยมีทีมงานจากกรมอุทยานช่วยสนับสนุน
แม่เต่าวางไข่ตอนตีห้าครึ่ง เหนือระดับน้ำขึ้นสูงสุด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ไม่ต้องย้ายไข่เหมือนครั้งแรก (ครั้งแรกแม่เต่าวางไข่ในจุดที่ระดับน้ำขึ้นถึง จึงจำเป็นต้องย้าย)
ตอนนี้เข้าใจว่าเป็นแม่เต่าตัวเดิม รอข้อมูลยืนยันอีกครั้ง
ปรกติแม่เต่าจะขึ้นวางไข่ 10-12 วันครั้ง หวังว่ายังจะมีหนต่อไป
แนะนำว่า ตอนนี้เราต้องรักษาทะเลแถวนั้นให้สะอาดที่สุด ป้องกันแม่เต่ากินถุงพลาสติกไปเพราะเข้าใจผิด คราวนี้จะไม่มีทั้งแม่เต่าและลูกเต่าอีกหลายร้อย
ใครจะจัดกิจกรรมทำความสะอาดทะเลและชายหาด ลงพื้นที่แถบนั้นจัดเต็มได้เลยฮะ
ยังรวมถึงการดูแลเครื่องมือประมงในพื้นที่ และจัดการเรื่องกองทุนอนุรักษ์เต่า ที่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังภายหลังว่า มีความสำคัญอย่างไร
ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ไม่ว่าจากหน่วยงานไหน และชาวบ้านตลอดจนเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่ ช่วยกันดูแลอย่างดี จนเราทราบอย่างไว สามารถเข้าดูแลได้ทัน แม้จะห่างจากจุดเดิม
สำหรับอาจารย์ธรณ์ ผมอยู่เฉยไม่ได้แล้วจ้า ถึงเวลาออกเดินทางไปหาน้องเต่า
แต่ก่อนไป ขอไชโยเอาฤกษ์เอาชัย เพื่อนธรณ์มาร้องพร้อมกันนะฮะ
ไชโย้ !!!
หมายเหตุ - รายงานจากเพื่อนธรณ์ในพื้นที่ กรมทะเล และกรมอุทยานครับ ผมใช้ภาพแม่เต่าขึ้นครั้งแรก ประกอบกับภาพชุด 2 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรังไข่เต่าครับ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอ และเนื้อหาดังนี้
เพื่อนธรณ์ครับ ในที่สุด ฝันที่รอคอยก็เป็นจริง คลิปและภาพนี้เป็นหลักฐานที่ดียิ่งว่า #เต่ามะเฟือง เต่าทะเลใหญ่ที่สุดในโลกและหายากที่สุดของไทย เต่าทะเลที่ไม่มีรายงานวางไข่มา 5 ปี กลับมาวางไข่อยู่ที่เขาหลัก พังงา
จากข้อมูล ระบุว่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืน จนลงกลับทะเลไปเมื่อเช้าวันนี้ เต่ามะเฟืองเมื่อโตเต็มวัย อาจยาวกว่า 2 เมตร น้ำหนัก 300-500 กิโลกรัม เป็นเต่าใหญ่ที่สุดในโลก
เต่ามะเฟืองมีขอบเขตการแพร่กระจายทั่วโลก เป็นเต่าทะเลที่พบในน้ำเย็นได้ ยังเป็นเต่าที่ว่ายน้ำไปไกลมาก บางตัวมีรายงานว่าไปไกลกว่า 20,000 กิโลเมตร เต่ามะเฟืองกินแมงกะพรุน เป็นสัตว์ทะเลที่ช่วยควบคุมปริมาณของแมงกะพรุนไม่ให้มีมากเกินไป
ในระยะหลัง เต่ามะเฟืองจำนวนมากตายเพราะขยะพลาสติกในทะเล เนื่องจากเต่าเข้าใจผิด กินถุงก๊อบแก๊บกินขยะพลาสติกเข้าไปเพราะนึกว่าเป็นแมงกะพรุน ปริมาณเต่ามะเฟืองในโลกลดลงอย่างรวดเร็ว บางพื้นที่เคยมีเต่ามาวางไข่มากมาย ปัจจุบันเหลือน้อยมาก
เต่ามะเฟืองเป็น 1 ในว่าที่สัตว์สงวนของไทย ที่ยังคงจ่อคิวรอการแก้ไขกฎหมายสัตว์สงวนสัตว์คุ้มครอง เพื่อให้สามารถประกาศสัตว์สงวนเพิ่มเติมได้ และในบรรดาว่าที่สัตว์สงวนทั้งสี่ เต่ามะเฟืองคือสัตว์ที่หายากที่สุด สัตว์ที่แทบจะหมดหวังในการเจอ (อีก 3 ชนิดคือวาฬบรูด้า วาฬโอมูระ ฉลามวาฬ) เดิมทีเต่ามะเฟืองเคยขึ้นมาวางไข่ตามหาดต่างๆ ของพังงา-ภูเก็ต แต่ไม่มีรายงานการวางไข่มาแล้วร่วม 5 ปี มีแต่รายงานเต่ามะเฟืองตาย 2 ครั้ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เต่ามะเฟืองจึงถือเป็นสัตว์ทะเลหายากที่สุดในไทยชนิดหนึ่ง และเป็นการรอคอยอันยาวนานของคนรักทะเลไทย ว่าสักวันเธอจะกลับมาวางไข่ และการรอคอยอันยาวนานก็สิ้นสุด
ภาพนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า เธอยังคงใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งวางไข่ เพื่อให้กำเนิดลูกหลานเต่ามะเฟืองไทยต่อไป
แม่เต่ามะเฟืองวางไข่ 60-100 ฟอง ขอบคุณชาวบ้านและผู้ประกอบการที่คึกคักและเขาหลักที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี จนเธอวางไข่สำเร็จ ยังรวมถึงกรมอุทยานที่รณรงค์เรื่องขยะพลาสติกและขยะทะเลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กรมทะเล กรมประมง จังหวัด ท้องถิ่น อาสาสมัคร ภาคเอกชน และทุกคนที่มาช่วยกัน ไม่แน่ว่าถุงพลาสติก 4-5 ใบที่ไม่ลงทะเลไปเนื่องจากเราช่วยกันวันนั้น ทำให้แม่เต่ามีวันนี้ มันตอบไม่ได้เป๊ะๆ หรอกว่าใช่ แต่มันบอกตัวเองได้ว่า ที่ชั้นไม่ใช้ถุงพลาสติก ไม่ใช้หลอดพลาสติกหรือแก้วใช้แล้วทิ้ง มันมีความหมาย มันเกิดผลในโลกแห่งความจริง...
หาดเขาหลักอยู่นอกเขตอุทยาน แต่เชื่อว่าจะมีการดูแลลูกๆ ของเธอที่อยู่ในหลุมเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อข่าวกระจายออกไป เชื่อว่ากรมทะเล กรมอุทยาน จังหวัด และพี่ๆ ในพื้นที่ จะช่วยกันมาดูแลอย่างถูกต้อง วิธีการดีที่สุดคือรักษาพื้นที่ไว้ไม่ให้มีคนเข้าไป โดยกั้นเชือกอย่างที่เห็นในภาพ และอาจทำรั้ว คอก ฯลฯ เพื่อป้องกันสัตว์ ไม่แนะนำให้เก็บไข่เต่าขึ้นมา เพราะอาจเกิดผลกระทบโดยไม่รู้ตัว แต่ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เพราะดูแลไม่ไหว แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ชีวะ ภูเก็ต อย่างใกล้ชิด (กรมทะเล) เพราะเต่ามะเฟืองต้องการชายหาดเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากเต่าทะเลชนิดอื่น หากมีการย้ายไปในหาดอื่น ควรเป็นหาดที่มีรายงานว่ามีเต่ามะเฟืองเคยมาวางไข่หาดท้ายเหมืองหรือหาดไม้ขาว เคยมีรายงาน และอยู่ในเขตอุทยาน แต่หาดท้ายเหมืองจะอยู่ใกล้กว่า
สุดท้าย แม่เต่าตัวนี้ เธอคงไม่รู้ว่า เธอสร้างความสุขให้คนรักทะเลไทยขนาดไหนเป็นของขวัญปีใหม่คนไทยที่รอคอยมานาน 5 ปี และเป็นของขวัญที่คนที่เคยเห็นเต่ามะเฟืองวางไข่ เคยเห็นลูกเต่าออกจากไข่ วิ่งลงทะเล จนกลายมาเป็นบทความเมื่อ 20 ปีก่อน จนกลายเป็นหนังสือ #กำเนิดเต่ามะเฟือง
เซ็นหนังสือเล่มนั้นไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเล่ม บอกให้น้องๆ มีความหวังไม่รู้กี่คนต่อกี่คน รณรงค์เรื่องขยะพลาสติก-ขยะทะเล มาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี สารภาพว่าผมน้ำตาซึมเมื่อทราบเรื่องนี้ ความหวังที่ส่งต่อ การรอคอยอันยาวนาน ถึงวันสิ้นสุดลง
ดีใจ ดีใจมากๆ
ไชโย้ !!!
หมายเหตุ - อีก 60 วันเจอกันนะจ๊ะคุณลูกเต่า
ขอบคุณภาพและคลิปที่ส่งกันมาจากเพื่อนธรณ์หลายคน และจากกรมอุทยานครับ
ขอบคุณ
Thon Thamrongnawasawat