"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

จากกรณี ด.ช.ซูลุยผิว วัย 2 ขวบ 1 เดือน  หรือน้องต้าเเง ชาวเมียนมา หายไปอย่างไร้ร่องรอยบริเวณไร่อ้อย ห่างจากริมถนนมาลัยแมน 3 กม. ลึกไปใน พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2561 โดยได้มีการระดมกำลังทุกภาคส่วน ช่วยกันค้นหา  ด้วยความหวังและกำลังใจว่าเด็กจะปลอดภัยและมีชีวิตอยู่ ซึ่งเมื่อวันที่  25 ธค. 61 เข้าสู่วันที่ 9 การหายตัวไปของหนูน้อยเมียนมา อายุ 2 ปี ขณะที่พ่อแม่เด็กยังคงมีความหวัง และคิดว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ไม่ไปไหน  เเต่สุดท้ายเเล้ว ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ได้พบร่างอันไร้วิญญาณ ของน้องซูลุยผิว เบื้องต้น จากสภาพศพ เด็กน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 5-7 วัน ซึ่งก็ต้องผลการชันสูตร หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่เเท้จริงต่อไป  อย่างไรก็ตาม ทางบรรดาสื่อในบ้านเรา ต่างก็ตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัย สันนิษฐานกันไปต่างๆนานา

   

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

 

ต่อจากกรณีดังกล่าวนั้น วานนี้ (27/12/2561) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์  ได้เดินทางมาที่  สภ.สระยายโสม  เพื่อมาตามเรื่องคดีของน้องซูลุยพิว   เพราะไม่เชื่อว่าน้อง ตายจากการอดอาหาร  ตามที่ผลชันสูตรเบื้องต้นได้ออกมา  จึงเดินทางมาพบกับญาติของน้องที่อยู่ที่สภ.สระยายโสม  รวมถึงได้มีการพูดคุยกับทางญาติว่าจะนำศพน้องนั้นไปชันสูตรใหม่ที่สถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม

 

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

 

 

 

ทนายรณรงค์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมา ให้เข้ามาช่วยเรื่องนี้เพราะว่าไม่เชื่อว่าเป็นการตายโดยธรรมชาติ แต่เป็นการตายโดยการฆาตกรรม และเชื่อว่าการตายของน้องไม่ใช่การตายโดยการอดข้าว อดน้ำ รวมถึงไม่เชื่อว่าน้องจะเดินไปไกลได้ขนาดนั้น ตั้ง5 กม.นอกจากจะมีคนอุ้มไป ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งประเด็นข้อสงสัยในสาเหตุการตายไว้หลายเรื่อง ถ้าเป็นการตายโดยธรรมชาติ ทำไมไม่พบตั้งแต่วันแรกๆ มีคนเอาไปวางไว้หรือไม่ ประกอบกับไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่าของศพด้วย จึงอยากให้มีการตรวจใหม่รวมไปถึงการขอผลชันสูตรจากนิติเวชเพิ่มเติมก่อน ซึ่งตอนนี้ได้เห็นศพของน้องแล้ว รวมถึงได้ให้เเพทย์นิติเวชดูขั้นต่ำ 1 รายแล้ว โดยหมอเขาไม่เชื่อว่าเป็นการตายโดนอดข้าว อดน้ำ ซึ่งคุณหมอเชื่อว่าอาจโดนของแข็งทำให้ขาด เพราะเนื้อเยื่อยังไม่เน่าเลยมันจะขาดได้เช่นไร หนูแทะไม่มีทางทำให้ศพเป็นแบบนั้นได้เด็ดขาด เพราะเคยเจอแต่หมามากัดแล้วดึงกระดูกไป แต่นี่เป็นแค่หนู ไม่นับประเด็นทีาเด็กไปโผล่5กม. ถ้าน้องเสียชีวิตตรงนั้นจริงมันต้องมีหนอนหรืออะไรบ้าง แต่ถ้าบริเวณที่พบศพมันสะอาดเกินไปมันต้องมีคนไปวางไว้อยู่แล้วเพราะมันเป็นป่าอ้อยคนมันเข้าไปได้  ซึ่งตอนนี้ต้องขอพิสูจน์ก่อนว่าสาเหตุการตายของน้องไม่ใช่การตายโดยอดข้าว อดน้ำ แล้วถึงจะไล่ลำดับไปว่าใครคือ คนทำให้ตาย 

ส่วนเรื่องที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกกับคนสติไม่สมประกอบในพื้นที่ ที่ก่อนหน้าน้องจะเสียชีวิตนั้นทางตำรวจจะต้องไปเก็บหลักฐานไว้ ซึ่งวันนี้เราก็มีบางส่วนที่อยากถามเพื่อยืนยันในส่วนที่มันขาดหายไป รวมถึงเรื่องผลของดีเอ็นเอ ถ้าเขามีการทำลายทิ้งไปเราอาจไม่ได้อะไรเลย และเชื่อว่าทางตำรวจทำเต็มที่แล้ว หนึ่งเหตุผลที่ตนเข้ามาทำเรื่องคดีนี้เพราะจะได้เป็นสื่อกลางให้ชาวต่างชาติบางทีเขาไม่กล้าให้ปากคำกับทางตำรวจ เขาต้องการคนที่ไว้ใจเขาถึงจะพูด 

 

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

 

สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ก็คงต้องจับตามองว่าจะเป็นการเปิดศึกของสองทนายหรือไม่ เมื่อ ทางด้าน นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบคอมเมนต์ภายในเพจเฟซบุ๊กทุบโต๊ะข่าวว่า “สงสารคนขับรถไถ ผมฟังการสัมภาษณ์ของท่านแล้ว ในความคิดของผม ผมว่าท่านบริสุทธิ์ อยากบอกท่านทนายคนที่ออกมาเรียกร้องว่า อย่าเยอะนัก ควรให้เกียรติตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขาทำตามหน้าที่ได้ดีแล้ว”

โดยทนายก็มีคอมเม้นท์ตอบว่า ถ้าไม่มีใครช่วย ท่าน....ผมช่วยเอง

 

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

 

นอกจากนี้ยังได้มีการสัมภาษณ์อีกด้วยว่า 

สาเหตุที่ตนตัดสินใจโพสต์ข้อความดังกล่าว เนื่องจากพบว่าทนายคนหนึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คือการไปโน้มน้าวให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์ และทำให้คนขับรถไถได้รับความเสียหายอย่างมาก รวมถึงพบว่าทนายคนดังกล่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะจะดูคล้ายว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่น่าเชื่อถือ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่

ตนจึงไม่ทราบว่าอีกฝ่ายออกมาเรียกร้องด้วยสาเหตุใด ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงของการเสียชีวิต และข้อสงสัยเกี่ยวกับสภาพศพของเด็กชายผู้เสียชีวิตออกมาแล้ว แต่คนบางคนกลับฟังไม่ได้ศัพท์เองหรือไม่ นอกจากนี้ ตนขอฝากถึงทนายคนดังกล่าวเอาไว้ว่า คนเป็นทนายก็ควรจะทำหน้าที่อยู่ในศาล ไม่ใช่มาเที่ยววิพากษ์วิจารณ์คนอื่นบนหน้าโลกโซเชียล

สำหรับตนเห็นว่าคนขับรถไถคนนี้อาจเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นว่าเป็นคนมีลักษณะท่าทางซื่อ อีกทั้งทราบว่า ขณะที่ขับรถไถอยู่นั้นไม่ใช่การขับรถไถเข้าไปในดงอ้อย เป็นการปรับสภาพหน้าดิน ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะไม่เห็นตัวเด็กและขับรถชน และหากคนขับรถไถดังกล่าวเชื่อว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จริง หากติดต่อตนก็พร้อมจะช่วยเหลือ

"ทนายอนันต์ชัย" ยื่นมือช่วย คนขับรถไถ หลังถูกตราหน้าสังหาร "เด็กชายซูลุยผิว" ลั่น! ทนายดัง สร้างกระแสทำเดือดร้อน?

 

ขอบคุณข้อความจาก อนันต์ชัย ไชยเดช  อมรินทร์ทีวี