อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 01 มกราคม 2562
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (1 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) แล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 6.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.8 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศใต้ค่อนทางตะวันตกเล็กน้อยอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-3 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย โดยมีผลกระทบดังนี้

 

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

 

ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

 สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562

 

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

 

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาสูงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562

พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล      
อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

 

ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2562 - 7 มกราคม 2562
การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 1 – 2 ม.ค. 62 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ม.ค. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับในช่วงวันที่ 3 – 5 ม.ค. 62 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 1 - 7 ม.ค. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับในช่วงวันที่ 2 – 5 ม.ค. 62 ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 62

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา  ในช่วงวันที่ 1 - 2 ม.ค. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ม.ค. 62 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ลงทะเลอันดามันในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 62 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น

 

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

 

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1- 3 ม.ค. 62 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 62 อากาศเย็น และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1- 3 ม.ค. 62 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 62 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 1 - 3 ม.ค. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 62 อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  ในช่วงวันที่ 1 - 2 ม.ค. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 62 อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 1 – 2 และ 6-7 ม.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

 

อุตุฯประกาศ ภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก-หนักมากอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 1 - 2 และ 6-7 ม.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 1 - 3 ม.ค. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 62 อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

อากาศ 7 วันข้างหน้า     
คาดหมาย
     ในช่วงวันที่ 1 – 2 ม.ค. 62 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ม.ค. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับในช่วงวันที่ 3 – 5 ม.ค. 62 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
     
ข้อควรระวัง
     ในช่วงวันที่ 1 - 7 ม.ค. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับในช่วงวันที่ 2 – 5 ม.ค. 62 ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 62

อากาศ 7 วันที่ผ่านมา 
บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดสัปดาห์ โดยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบนในระยะกลางสัปดาห์ จากนั้นได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะปลายสัปดาห์ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือในระยะปลายสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็น กับมีอากาศหนาวทางตอนบนของภาคเหนือและบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยบริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นในระยะปลายสัปดาห์ ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง