- 03 ม.ค. 2562
"ปัตตานี" อ่วมแล้ว ฝนตกหนักน้ำเริ่มท่วม เจ้าหน้าที่เข้าช่วยอพยพผู้ประสบภัยแล้ว (ภาพ,คลิป)
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 12 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (3 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน "ปาบึก" (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีศูนย์กลางห่างประมาณ 550 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 6.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันนี้ (3 มกราคม 2562) และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้
ในวันที่ 3 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร
ส่วนทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือตั้งแต่วันที่ 3-5 มกราคม 2562 ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด จังหวัดปัตตานี ฝนได้ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง น้ำเริ่มเข้าท่วมถนน อีกทั้งลมแรงขึ้น จากผลกระทบของ "พายุปาบึก" ทั้งนี้บรรยากาศการอพยพผู้ประสบภัยพี่น้องแถบชายฝั่งติดทะเลและพื้นที่เสี่ยง ต่างได้ทยอยเข้ามาพัก ณ.อาคารกีฬา ของโรงเรียนปทุมคงคา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีทหารและเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานคอยให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา และยังคงต้องรอการช่วยเหลือในเรื่องของอาหาร อุปโภคบริโภค แต่อย่างไรก็ดีก้ต้องคอยติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมอย่างต่อเนื่อง