- 05 ม.ค. 2562
กรมบัญชีกลาง เปิดวงเงินฉุกเฉิน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก
สถานการณ์ของพายุปาบึก ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย จนก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกเเรง สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุด พายุปาบึก ได้อ่อนกำลังลงจากพายุโซนร้อน เป็นพายุดีเปรสชั่น เเล้ว โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (5 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 55 กิโลเมตร จากชายฝั่งทางทิศตะวันตก ของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หรือที่ละติจูด 9.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 97.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้ได้มีการเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกเล็กน้อย ความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
จากความเสียหายในหลายพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ทาง กรมบัญชีกลาง เปิดวงเงินฉุกเฉิน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก จังหวัดละ 20 ล้านบาท และพร้อมขยายวงเงินตามความจำเป็น
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้เปิดวงเงิน ให้หน่วยงานราชการต่างๆ ทดลองเบิกจ่าย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากพายุปาบึกไว้แล้ว จังหวัดละ 20 ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องประกาศให้จังหวัดนั้นเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ก่อนจึงจะสามารถเบิกเงินดังกล่าวได้ หากจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินก็สามารถร้องขอมาได้ โดยกรมฯจะจัดวงเงินให้ตามความจำเป็นในทันที
นอกจากนี้ ยังเตรียมมาตรการผ่อนปรนสำหรับการก่อสร้าง หรือการจัดซื้อจัดจ้างภายหลังที่เกิดภัยพิบัติเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือสำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ไม่สามารถก่อสร้าง หรือจัดซื้อจัดจ้างได้ตามกำหนดอีกด้วย ซึ่งมาตรการนี้ จะดำเนินการภายหลังที่เกิดเหตุภัยพิบัติแล้ว