เปิดใจ"คุณกุ๊ก"เผยวินาทีก่อนคนรักสิ้นใจ ชูมือบอกทุกคนว่าไหว ก่อนหลับตาและจากไปอย่างสงบ เผยต้นเหตุ แค่ปวดท้องคิดว่าไม่เป็นอะไร.. เป็นอุทาหรณ์

จากกรณีการเผยแพร่เรื่องราวดีๆ ที่เป็นกระแสอยู่ในโลกโซเชียล ที่ต้องบอกได้เลยว่า ความรัก เป็นเรื่องที่สวยงาม ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร จะต้องลำบากแค่ไหน ซึ่งวันนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "TuaKook Kook Kitjaroenchai" ได้โพสต์เรื่องราวของเขาและภรรยา ที่ได้แแต่งงานกัน แม้ภรรยาของเขาจะป่วยหนัก เอาไว้ว่า 

 

 

เราทั้งคู่มีความสุขมาก มากมายจริงๆ

ขอบคุณทุกคนมากๆจากใจจริงๆ ขอบคุณเตี้ย โก้ว อึ้ม แปะ ครอบครัวกิจเจริญไชยพี่น้องของฉัน เพื่อนๆที่รักชมรมคนจิตป่วนที่เราเป็นมากกว่าครอบครัว อาเฮียอาเจ่ เฮียไกด์ พี่เอ็ม พี่รักพี่วิทย์ อาๆป้าๆฝั่งเจ้าสาวที่รักมากๆทุกคน ขอบคุณที่ให้กำลังใจ ขอบคุณที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างสวยงาม ขอบคุณที่ทำให้ออกมามากกว่าที่คิด ตั้งแต่ไปดูแหวน ชุดและดอกไม้ ลูกโป่ง ของใช้ในพิธี และสิ่งต่างๆภายในระยะเวลาที่จำกัดจริงๆ ไม่มีอะไรทำไม่ได้ถ้าเรามีเพื่อนพี่น้องที่ดี พลังแห่งการร่วมมือพลังแห่งความสามัคคี พลังแห่งความเชื่อและศรัทธา วันนี้จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ขอบคุณอีกหลายๆคนที่มาและที่ไม่มาหลายๆคนที่ให้กำลังใจ พี่ๆพยาบาลที่เป็นมากกว่าพยาบาล คนที่ตั้งใจมาแต่ไปหาที่บ้าน คนที่อยู่ไกลแต่มาไม่ได้ คนที่รักและเป็นห่วงเสมอมาทุกคนและคนที่ไม่ได้บอกแต่อยากให้มาทุกคน หวังว่าจะเข้าใจและยินดีกับเราทั้งคู่

ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าเวลาเราเหลืออีกเท่าไหร่ อยากให้ทุกๆคนเห็นคุณค่าของเวลา เห็นคุณค่าของคนที่เรารัก เวลามันน้อยเกินกว่าจะไม่เข้าใจหรือโกรธ หรือน้อยใจ ขอให้ทุกๆวินาทีมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น หาคุณค่าในสิ่งนั้นให้เจอทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนสวยงาม

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในโลกนี้ และที่ข้าพเจ้านับถือจงดลบรรดาลให้ทุกคนเกิดความสุขความเจริญทุกๆด้าน มีสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังในการใช้ชีวิตที่สดใส พบเจอหนทางแห่งพระนิพพาล เราทั้งคู่ขอบคุณจริงๆจากใจ

 

 

 

 

 

ขอบคุณแหวนสวยๆที่ถูกใจมากกกก Aummy Aumaum
ขอบคุณชุดที่งามมากๆจาก Kunyamon Pakdeecharoen
ขอบคุณเพื่อนๆที่หาทำทุกอย่างอีกครั้ง ไม่มีพวกเมิงไม่รู้ชีวิตจะไปทางไหน ขอบคุณอีกครั้งจากใจ

#DearKooK #LettleWedding #กิจเจริญไชย #ชมรมคนจิตป่วน #อาม #เกรียงอึด #เจ่โรส #บางบอน #hydronano
ใครไม่มารอไปงานใหญ่ทีเดียวนะครับบ

 

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด ในเฟสบุ๊ก ตัวกุ๊ก กิจเจริญไชย โพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า เวลาที่คุณเชื่ออะไรสักอย่าง บางครั้งคุณต้องเชื่อแบบ"สุดจิตสุดใจ"สิ่งนั้นจะเป็นพลังให้เกิด"ศรัทธา"ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง จะเสียใจรึไม่ก็ตามแต่อยากให้รู้ไว้ว่าคุณทำมันดีสุดๆในแบบของคุณแล้ว" "ระหว่างทางเสียงอื่นๆมันจะดังมาก บางครั้งคุณแทบไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงหัวใจคุณเอง" เธอเป็นคนโชคดีเสมอที่รัก

 

 

 

โดยล่าสุด ทางฝ่ายชายได้โพสต์คลิป ระลึกถึงคู่ชีวิต ที่เพิ่งจากไป โดยมีเนื้อหาว่า 

 

"ชั้นเชื่อว่าชั้นจะเข้มแข็งขึ้นทุกวัน เข้าใจว่าเป็นสัจธรรม ความคิดถึงก็เช่นกัน"

 

 

 

คุณกุ๊ก หรือ นายจักรพันธ์ กิจเจริญไชย อายุ 31 ปี เจ้าบ่าว ได้เปิดใจเผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" กล่าวว่า ตนกับคุณเดียร์คบกันมา 4 ปี และคุณเดียร์ได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2561 เนื่องจากเมื่อต้นปี 2561 คุณเดียร์มักจะมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง แล้วก็มีอาการเรอบ่อยๆ แต่ก็คิดแค่ว่าน่าจะเป็นอาการของกรดไหลย้อนหรือแค่อาการของโรคกระเพาะเท่านั้น และตัวคุณเดียร์เองก็เป็นพยาบาลคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ทานยาแล้วก็คงจะดีขึ้น

 

จนคุณเดียร์มีอาการปวดท้องที่รุนแรงขึ้นและคลำไปที่ช่วงท้องรู้สึกเหมือนมีอะไรเป็นก้อนๆ อยู่ จึงตัดสินใจไปหาหมอ ซึ่งหลังจากส่องกล้องและอัลตร้าซาวด์ดูก็ปรากฎว่าเจอก้อนเนื้อที่ตับ และพบว่าคุณเดียร์มีค่ามะเร็งสูงมาก จึงเข้าไปพักรักษาตัวที่ไรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2561  

 

ต่อมาวันที่ 29 ธันวาคม 2561 วันที่คุณหมอจะต้องบอกถึงความคืบหน้าอาการว่าป่วยถึงขั้นไหน ตนจึงคิดว่าในเมื่อคุณเดียร์จะต้องรับรู้เรื่องร้ายๆ แล้ว ในวันเดียวกันนั้นก็ควรที่จะรับรู้ในเรื่องดีๆ บ้าง จึงตัดสินใจชวนเพื่อนๆ มาทำเซอร์ไพรส์วันเกิดแล้วขอแต่งงานในวันนั้นเลย ซึ่งบรรยาการศวันนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางกำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆ  และคุณเดียร์เองก็ได้บอกกับตนว่า "รักและขอบคุณ"

 

 

ทั้งนี้ตนก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาขอแต่งงานในโรงพยาบาล เพราะที่คิดมาตลอดคือจะขอแต่งงานบนเรือยอร์ชไปยืนอยู่บนหัวเรือ แต่พอมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้นตนก็รู้สึกว่าต้องทำ เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้กับคุณเดียร์ด้วย อีกอย่างเมื่อวันที่ร่างกายคุณเดียร์แข็งแรงมากกว่านี้ค่อยไปจัดงานใหญ่ทีหลัง

 

ซึ่งตนก็บอกกับคุณเดียร์ให้คิดบวกอยู่เสมอ เพราะตนมองว่าโรคนี้มันแพ้กำลังใจ เราไม่รู้สาเหตุว่ามันเป็นเพราะอะไรแต่ตนคิดว่าถ้ากำลังใจเราดี มีความคิดที่ดี หรือมีอารมณ์ที่ดีก็น่สจะทำให้สุขภาพร่างกายข้างในดีด้วย

 

จนกระทั่งวันที่ 7 มกราคม 2562 ขณะที่พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน คุณเดียร์ตื่นขึ้นมาเห็นเพื่อนๆ แล้วก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าโอเค พอถามว่าไหวไหมคุณเดียร์ก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมา และจะพยายามสื่อสารออกมาว่าไหว ก่อนที่จะหลับตาและจากไปอย่างสงบ 

 

คุณกุ๊ก ยังกล่าวอีกว่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ถึงแม้ว่ายังคงมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำให้กับคุณเดียร์ แต่ด้วยระยะเวลาที่สั้นแบบนี้ที่ผ่านมาตนถือว่าตนเต็มที่ที่สุดแล้ว อยากบอกคุณเดียร์ว่า รักมากจะอยู่ในใจตลอดไป และไม่ต้องห่วงแล้วยังไงจะต้องเข้มแข็ง เพราะหากคนที่ป่วยและนอนอยู่ตรงนั้นคือตน ตนก็ไม่อยากให้คุณเดียร์เศร้าหรืออ่อนแอ อยากให้ก้าวต่อซึ่งคุณเดียร์เองก็น่าจะคิดแบบนี้เหมือนกัน

 

นอกจากนี้ตนอยากฝากไปถึงทุกคน ถ้าเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะหรือกรดไหลย้อน หรือมีอาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ ถ้ากินยาไปแล้วยังไม่ได้ขึ้น หรือไม่แน่ใจอยากให้ลองไปตรวจกับหมอให้ละเอียด เพราะจะได้รู้ว่าร่างกายเราตอนนี้กำลังเป็นอะไร อวัยวะต่างๆ กำลังมีปัญหาอะไรไหม เพื่อที่จะได้หาวิธีรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะตนเชื่อว่าไม่ว่าจะมะเร็งหรือโรคอะไรถ้าเรารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ยังคงจะมีเวลาทันที่จะวิธีรักษาเยียวยาได้