"บิ๊กโจ๊ก"คำรามลั่นไล่ตร.เสนอหน้ากลับทำงาน ตอกหน้าแหก..อย่าหวังวิ่งเต้นตำแหน่ง(คลิป)

จากกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอาดพรรค ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดแถลงข่าวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าได้ทำการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่มีหมายจับตามคดี หลบหนีคดีและหลบซ่อนอยู่ในประเทศไทย เป็นการระดมกวาดล้างเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา
 

โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้ มีผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่จับได้กว่า 28 ราย มีทั้ง สัญชาติจีน เกาหลีใต้ อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน เช็ก ตุรกี นิวซีแลนด์ อเมริกาและรัสเซีย เป็นกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกง ฆาตกรรม ยาเสพติด กฎหมายศุลกากร สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต และข้อหาการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

 

(ไล่ตะเพิดตร.ไม่เกี่ยวข้องกลับไปทำงาน)

 

ล่าสุด ก่อนการแถลงข่าวจะเริ่มต้นขึ้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้ประกาศผ่านไมโครโฟนว่า "ตำรวจที่มาในวันนี้ให้กลับไปทำงาน เข้าใจว่าลูกน้องต้องการให้ผู้บังคับบัญชาเห็นหน้า แต่ผมอยากให้ลูกน้องไปอยู่ในพื้นที่ทำงาน อยู่ที่ด่านตรวจต่างๆ กลับไปบริการประชาชนตาหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องมาตามผม ยกเว้นคนที่มีงานต้องทำ ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้องขอให้กลับไปทำงานของตัวเองให้ดี"

"ขนาดตนเองเป็นผู้บัญชาการก็ยังต้องปฏิบัติงานเลย และทราบดีว่าลูกน้องคนไหนทำงานยังไงไม่ต้องมาเฝ้า ส่วนตำรวจที่มีการพยายามวิ่งเข้ามาหา เพื่อขอย้ายตำแหน่ง ตน แต่ซึ่งในปัจจุบันต้องมาเอาใจนาย และขอย้ำว่าคนที่ทำงานดี ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่ง ผมเห็นเอง ทราบเอง คือเขาอาจจะเห็นว่าตนเองทำงานใกล้ชิดรองนายกฯประวิตร มีโอกาสเสนอผลงานได้ แต่ทุกอย่างเรื่องการแต่งตั้งนั้นก็เป็นดุลยพินิจของท่านเอง และเรื่องการทำงานของตำรวจประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองอยู่แล้วว่าใครทำงาน ใครไม่ทำงาน" 

 

(ไล่ตะเพิดตร.ไม่เกี่ยวข้องกลับไปทำงาน)
 

อย่างไรก็ตาม ถือว่าการทำงานในครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจสากลจากกองการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต นายตำรวจประสานงานต่างประเทศที่ประจำในประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในบัญชีบุคคลต้องการตัวจากตำรวจสากล 28 ราย ผู้ต้องหาทั้งหมดอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยตำรวจจึงเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด