ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ หลังรู้ว่าใครเป็นคนหลอก"น้องโยโย่" ลูกสาวไปเชียงใหม่ ลั่นไม่ให้อภัยเด็ดขาด

จากกรณี “น้องโยโย่” อายุ 14 ปี หายตัวปริศนาตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 61 กระทั่งทางญาติจับสัญญาณตำแหน่งที่อยู่ได้ในพื้นที่จังหวัดระยอง จึงเชื่อว่าน้องโยโย่ถูกลักพาตัวไปแน่นอน

ต่อมาทางครอบครัวได้โร่เข้าแจ้งความกับทางกองปราบปรามเพื่อให้ช่วยติดตามน้องโยโย่กลับมา เนื่องจากเด็กหญิงได้หายออกจากบ้านไปนานเกิน 15 วันแล้ว

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจค้นรีสอร์ทแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ และได้พบ น้องโยโย่ พร้อมกับชายวัยกลางคน (ที่มีการระบุว่าเป็นบิดาของเพื่อนรุ่นน้อง)  ทราบชื่อภายหลัง คือ  นายรณชิต (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี  ภายในรีสอร์ทดังกล่าว จึงได้พาตัวมาที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่  ก่อนแจ้งข้อหา "พรากเด็กไม่เกินอายุ 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร"

จากการประสานงานของตำรวจภูธรเชียงใหม่และตำรวจนครบาลก็ได้พบเบาะแสคนร้ายพรากเด็กสาวจากกรุงเทพฯ โดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง เลขทะเบียน ลนร 266 กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ

 

 

กระทั่งพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จริง จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบผู้ต้องหาและรถจักรยานยนต์ โดยนายรณชิตพาน้องโยโย่ไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะพาพักโรงแรม จึงนำกำลังไปตรวจสอบก็พบทั้งสองอยู่ในห้องพักและนำตัวไปสอบสวน

โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวนนายรณชิตนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยเจ้าตัวก็ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า พาน้องโยโย่ไปจากกรุงเทพฯโดยใช้รถจักรยานยนต์ของตรเอง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง ทะเบียน ลนร 266 กรุงเทพมหานคร ขี่ไปเรื่อย ๆ จากกรุงเทพฯ

 

ระหว่างทางก็แวะพักผ่อนหลายจังหวัด กระทั่งถึงจังหวัดเชียงใหม่และเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในวันที่ 8 มกราคม เวลาประมาณ 15.00 น.และวันที่ 9 มกราคม เวลาประมาณ 18.10 น.ได้พา น้องโยโย่ เดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งก่อนตำรวจจะเข้าจับกุมตัวได้

 

 

ขณะที่พ่อของน้องโยโย่เผยว่า "ผู้ก่อเหตุรู้จักกับครอบครัว เคยไปเที่ยวร่วมกันกับครอบครัวมาหลายครั้ง และไปด้วยกันทั้งสองครอบครัว ไม่เคยมีพฤติกรรมเชิงชู้สาว เพราะน้องโยโย่รู้จักกันประมาณ 5-6 ปีแล้ว เชื่อใจให้ไปรับไปส่งโยโย่ และไม่คิดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ อีกทั้งเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผิดหวังกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก หลังทราบเรื่องก็คงจะไม่ให้อภัย ให้ตำรวจดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด"