- 11 ม.ค. 2562
เลขา โครงการ ไถ่ชีวิต โคกระบือ เข้าชี้แจง ยุติโครงการไปนานแล้ว หลังถูกร้องเรียนตรวจสอบ
จากกรณี ทางเพจ123 คนดีมีน้ำใจ ได้นำเสนอเรื่องราวที่ ประชาชนแจ้งขอให้ช่วยตรวจสอบข้อมูล กลุ่มบุคคล ดำเนินโครงการ ไถ่ชีวิต โคกระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยได้รับข่าวจากห้องกลุ่มไลน์ ประชาสัมพันธ์ให้ร่วมบริจาคเงิน เพื่อไถ่ชีวิตโค-กระบือ ตามโครงการไถ่ชีวิต โค-กระบือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยให้โอนเงินร่วมทำบุญผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อนำไปจัดซื้อ โค-กระบือ และมอบให้เกษตรกร จำนวน30,000ราย ในพื้นที่10จังหวัด แต่เมื่อสอบถามถึงรายละเอียดการจัดตั้งโครงการ ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ไม่สามารถติดต่อประธานโครงการได้ เลขที่บัญชีในการโอน เป็นบัญชีส่วนบุคคล จึงมีข้อสงสัยหลายอย่าง เกรงว่าน่าจะเป็นการแอบอ้าง จึงนำข้อมูลมาแจ้งทางเพจ เพื่อเป็นสื่อกลางประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่าดำเนินโครงการอย่างถูกต้องหรือไม่
ซึ่งเพจ123ได้ประสานส่งข้อมูลให้กับ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงาน กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทราบว่าในเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูล ไม่พบว่ามีโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (11ม.ค.62) นางสาว ภัคญดา มะกรวัฒนะ ได้ติดต่อและเดินทางเข้ามายังเพจ123คนดีมีน้ำใจ แจ้งว่าตนเป็นเลขาโครงการดังกล่าว หลังจากได้ทราบข่าวที่มีการเผยแพร่ออกไป จึงอยากขอจะชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง ว่าตนและผู้ที่ริเริ่มโครงการมีความตั้งใจดีจริงๆที่อยากจะทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล โดยได้มีการพูดคุยวางแผนการทำงาน ทำเรื่องเสนอขออนุมัติโครงการกับทางกองงาน ระหว่างที่รอการตอบรับ ยอมรับ
ว่าได้ดำเนินการลงพื้นที่ในทันที ทั้งที่ๆยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ทำโครงการที่เสนอไป เมื่อมีการแชร์ออกไปใน
กลุ่มไลน์ทำให้เกิดการตั้งคำถาม มีข้อสงสัย หลายประการ ส่งผลให้มีผู้แจ้งร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ ไปยังกองงานและสื่อหลายสำนัก ตนในฐานะเลขาขอเป็นตัวแทนของกลุ่ม ต้องขออภัยและยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งทางกลุ่มเองก็ได้หยุด และยุติปิดโครงการดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคม2561ที่ผ่านมา และยืนยันว่ายังไม่มีเงินบริจาคผ่านเข้ามาในบัญชีที่แจ้งไว้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากทางกลุ่มมีโครงการที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต จะปฎิบัติตามขั้นตอน ให้ถูกต้อง โปร่งใส พร้อมตรวจสอบได้
โปรดติดตามข่าวอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง ยูทูป ชาแนล ของสำนักข่าวทีนิวส์ WWW.tnews.co.th