- 12 ม.ค. 2562
ผู้จัดการเผยสาเหตุ ในคลิปผัวเถื่อนซ้อมน้องเมย์ยับ ไม่มีคนเข้าไปช่วย ด้านแฟนเก่าน้องเมย์เล่า โทรมาปรึกษาหลายครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้!(คลิป)
จากกรณีที่เป็นกระแสในสังคมอยู่ในตอนนี้เมื่อ น.ส.สุกัญยา บิลหมัดอาด อายุ 30 ปี ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตามตัวสามี ซึ่งญาติสงสัยว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีไป
โดยพบว่า มีการโพสต์คลิปที่ฝ่ายหญิงสาวถูกบุกทำร้ายร่างกายกลางที่ทำงาน ทั้งจิกหัว ลาก และยังใช้เท้ากระทืบโดยไม่แคร์สายตาใครนั้น จนในที่สุด ก็เสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายในเวลาต่อมา
ซึ่งทางเฟซบุ๊กของฝ่ายชายได้มีการแชร์โพสต์ภาพตอนที่น้องเมย์ก้มกราบเท้า โดยแคปชั่นว่า “รักหลัว ก่อนนอนต้องกราบหลัว #ชัดเจนจริงอิลาวเรา”
ทั้งนี้ตรวจสอบล่าสุด ทางฝ่ายผัวได้ปิดเฟซบุ๊กไปแล้ว แต่ได้มีคนเปิดวาร์บ และแคปรูปนำมาลง เพื่อล่าตัวบุคคลดังกล่าวมาลงโทษให้ได้อย่างรวดเร็ว!
ขณะที่แม่ของน้องเมย์เล่าให้ฟังว่า น้องเมย์แต่งงานกับนายทนมาประมาณ 4-5 ปี ก็ถูกนายทนซ้อมมาตลอด ร่างกายเขียวช้ำ แต่น้องเมย์ก็ไม่เคยบ่น แค่เอาแผลมาให้ดูว่าถูกอีกแล้ว แม้แต่ตอนท้องก็ถูกสามีทำร้าย ตอนนี้มีลูกชายด้วยกันอายุ 3 ขวบ สาเหตุที่ทะเลาะก็เพราะความหึงหวง น้องเมย์ไปทำงาน ส่วนนายทนอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไร จึงเกิดความหึงหวงว่าน้องเมย์จะมีคนอื่น เลิกกันไม่ถึงอาทิตย์ก็กลับมาดีกันตลอด ปกตินายทนจะรักลูกและเมีย แต่เวลาเสพยาเสพติดจะโมโหร้ายใครเข้าใกล้ไม่ได้ แม้แต่พ่อแม่ของนายทนเองก็เอาไม่อยู่และเคยใช้ปืนไล่ยิงพ่อแม่ตัวเองมาแล้ว
และในวันเกิดเหตุนายทนมารับน้องเมย์ที่บ้านตั้งแต่เวลา 15.00 น. แต่น้องเมย์ไม่ยอมออกไปด้วย ซึ่งนายทนบอกว่า ถ้าไม่ออกไปจะฆ่าล้างโคตร น้องเมย์เลยต้องออกไป และไม่นึกว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่น้องเมย์กลับเข้ามาโดยไม่มีลมหายใจแล้ว ตอนนี้รู้สึกกลัวว่านายทนจะกลับมาเอาลูก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
.
.
ด้านนายซิรฟาน บากูสัน ผู้จัดการทั่วไป บ.ทีพีออโต้เซลส์ จำกัด อดีตหัวหน้างานของน้องเมย์ เปิดเผยว่า น้องได้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแม่น้องยังคงติดต่อผ่านพนักงานในบริษัท และคอยให้ความช่วยเหลือครอบครัวอยู่ต่อเนื่อง ล่าสุดได้นำเงินมามอบให้เพื่อเลี้ยงดูลูกของน้องเมย์ วัย 3 ขวบ
พร้อมยืนยันว่า คลิปที่ปรากฏในโซเซียล เป็นเหตุการณ์เมื่อเดือน ก.ย. 61 ทุกคนพยามจะช่วยเหลือน้องเมย์แล้ว จากการสอบถามพนักงานในขณะเกิดเหตุ ทุกคนบอกว่าตกใจ และกลัวว่าสามีน้องเมย์จะเข้ามาทำร้ายเนื่องจากมีอาวุธ ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนตั้งตัวรับไม่ทันที่สามีลากตัวน้อง และกระชากน้องขึ้นรถขับออกไป
หลังจากเกิดเหตุนั้น บริษัทได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ฉลุง จากนั้นน้องเมย์ก็ไม่มาทำงานอีก สุดท้ายน้องเมย์ไม่คิดจะเอาเรื่องสามีแต่อย่างใด และกลับมาคืนดีกัน
.
.
ด้านนายอังคาร เกษมปิติ แฟนเก่าเมย์ เปิดใจว่า ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงกับต้องฆ่ากัน ยอมรับว่าตนเองเคยคบหาเป็นแฟนกับเมย์ 5-6 ปี ก่อนที่เมย์จะเลิกลากันไปคบกับนายธนภัทร ผู้ต้องหา นิสัยของเมย์เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ก้าวร้าว ใครดีมาก็ดีกลับ ตอนที่คบกัน ตนเองไม่เคยทำรุนแรงกับเมย์ และไม่ได้มีลูกด้วยกัน
นายอังคาร เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาเมย์โทรมาปรึกษาหลายครั้ง เรื่องนายธนภัทรทำร้ายร่างกาย เมย์บอกว่าอยากเลิก ไม่อยากอยู่กับแฟนคนนี้แล้ว ซึ่งตนเองยอมรับว่าไม่รู้จะให้คำตอบอย่างไร เพราะส่วนตัวก็เลิกลากันไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าเมย์จะโดนทำร้ายรุนแรงแบบนี้ ซึ่งตนเคยบอกเมย์ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น เมย์ก็ไม่ไป จึงแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ แต่เมย์ก็ไม่กล้า เนื่องจากนายธนภัทรเคยขู่ว่า ถ้าไปแจ้งตำรวจจะทำร้ายครอบครัว และจะฆ่าทั้งบ้าน ส่วนตัวยอมรับว่าจะพูดอะไรมากมากก็ไม่ได้ เพราะเลิกกันไปแล้ว และเมย์ได้เลือกเส้นทางเดินของเมย์ไปแล้ว