- 15 ม.ค. 2562
ผลชันสูตรชี้ เมีย "ไอ้ปุ๊" ตั้งท้องขณะถูกลั่นไก ตร.หิ้วทำแผนพรุ่งนี้
จากกรณี นายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงคนในครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ศพ โดยเหตุเกิดขึ้น 2 จุด จุดแรกที่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 48 ปี (พ่อตาผู้ก่อเหตุ) ถูกยิงเข้าที่หน้าทะลุท้ายทอย และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาของนายธีรพล ถูกยิงเข้าทะลุศีรษะและกลางหลัง เสียชีวิตคาที่ในโรงจอดรถ
จุดที่ 2 ที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายธีรพล ใช้อาวุธปืนยิง นางน้ำผึ้ง อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี (แม่ยายผู้ก่อเหตุ) นางน้ำผา อินทรสิทธิ์ อายุ 48 ปี พี่สาวฝาแฝดของนางน้ำผึ้ง ถูกยิงหลายนัดเข้าที่หัวและหน้าอก เสียชีวิตภายในห้องนอน และนางกนกวรรณ อินทรสิทธิ์ อายุ 53 ปี พี่สาวของนางน้ำผึ้ง เสียชีวิตอยู่บริเวณริมถนนหน้าบ้าน
ส่วนสาเหตุทราบจากชาวบ้านว่า คนร้ายมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้งจากความหึงหวง โดยวันนี้ทะเลาะกันตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งก่อเหตุสลดดังกล่าว ส่วนคนร้ายหลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีโดยใช้รถโตโยต้าคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 4561 พิษณุโลก ตนได้แจ้งประสานให้โรงพักทุกแห่ง ตั้งด่านสกัดกั้นคนร้ายแล้ว มั่นใจว่าตำรวจจะสามารถจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายอภิสิทธิ์ บุญเสือ กำนันตำบลพญาแมน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ 1 ปีกว่า ซื้อรถยนต์เกือบ 10 คัน อ้างว่าเล่นหุ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการตรวจสอบประวัติ เพราะสงสัยว่าอาจจะเป็นเครือข่ายค้ายา
เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติ มีนิสัยมุทะลุ ใจร้อน ทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้ง ตนก็เคยเตือนให้ระวัง เพราะประวัติไม่ชัดเจน ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเคยหายไป 1 เดือน และมีการนำรถทั้งหมดออกไป กลับมาอีกครั้งมาบวชอยู่ 2–3 วัน ก็สึกออกมาประมาณปลายเดือน ธ.ค.61 จนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าว
ต่อมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายชายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายก่อนหลบหนีไป ในพื้นที่ สภ.พญาแมน จว.อุตรดิตถ์ ว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค.62 เวลาประมาณ 17.00 - 18.00 น.เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย
โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด ก่อเหตุยิงบุคคลในบ้านเลขที่ 71/10 ม.2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ก่อนจะขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่สีขาว หมายเลขทะเบียน กล-4561 พิษณุโลก หลบหนีออกไป
จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 66/2 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองนะนอง จ.ระนอง คนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะนี้อยู่ในระหว่างหลบหนีการจับกุม เบื้องต้นสันนิษฐานปมในการก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการหึงหวงภรรยาจึงได้ลงมือก่อเหตุ
พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ระดมกำลังลงพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าว ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมตัวคนายธีรพล คนร้ายมาดำเนินคดีประกอบกับ คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการชันสูตรพลิกศพ ผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาประกอบคดี
โดยมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากเหตุความหึงหวง แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้งไป โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้รู้ตัวคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการยื่นต่อศาลเพื่ออนุมัติหมายจับ ทั้งนี้ยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในเวลาต่อมาพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก
หากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือมีข้อมูลของคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สถานีตำรวจภูธรพญาแมน โทร. 055455307 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากนั้นมีเบาะแสจากหนุ่มคนขับรถกระบะ ที่เห็นข่าวจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เผยไม่รู้จักกับนายธีรพล ปิ่นอมร ผู้ต้องหาฆ่ายกครัว มาก่อน โดยวันที่ตนจอดรับนั้น กำลังไปลงของที่ลาดกระบัง บังเอิญเจอผู้ต้องหาเรียกให้จอดเคาะกระจกรถขอติดรถไปลงกรุงเทพฯ อ้างทะเลาะกับแฟนจะไปหาแม่ โดยจ่ายเงินให้ 1000 บาท เป็นค่าน้ำมัน
จากนั้นนายธีรพล ขอลงระหว่างทางและโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับ แต่ตนไม่เห็นว่าใครเป็รคนที่มารับ "ผมใจดีมีน้ำใจสงสารเขา เขาบอกจะไปหาแม่ สุดท้ายซวยไม่รู้เป็นผู้ต้องหายิงคนตาย"
ส่วนรถฮอนด้าแจ๊ส สีขาว เป็นเพื่อนของตนเดินทางมาจากเชียงราย นัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมันใกล้จุดที่รับผู้ต้องหา เพื่อขับตามกันไป จ.ชลบุรี ยืนยันไม่รู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการพาผู้ต้องหาหลบหนี
ต่อมาได้รับรายงานว่าตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 6 สืบทราบพบความเคลื่อนไหว ว่านายธีรพลหลบหนีจาก จ.พิษณุโลก เดินทางต่อไปยัง จ.ปทุมธานี และเข้ากรุงเทพฯ และเดินทางต่อไปยัง จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
กระทั่ง รอง ผบ.ตร.เผยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลัง ประกบตัวผู้ต้องหาและกำลังดำเนินการอยู่ ยืนยันว่าข่าวที่ออกมาว่าจับผู้ต้องหาได้ที่ จ.ชุมพร ไม่เป็นความจริง และรู้พิกัดของผู้ต้องหาแน่ชัดแล้ว ซึ่งวันนี้ได้ตัวอย่างแน่นอน ขณะนี้คนร้าย อยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้าบ้าน ที่เกาะคณฑี หรือเกาะปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพราะว่า บ้านแม่ของนายปุ๊ อยู่ที่นี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเฝ้าติดตามเรื่องนี้ อย่างใกล้ชิด
จนในที่สุดมีรายงานว่าสามารถจับตัวผู้ต้องได้แล้ว ที่ ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมนายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 38 ปี ที่ก่อเหตุยิงยกครัว 5 ศพ ว่าเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.ระนอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการจับกุมนายธีรพล ได้แล้ว พร้อมด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก ขณะหลบหนีการจับกุมตัวไปหลบซ่อนที่ขนำติดกับชายแดนเมียนมา ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบสวนที่ กก.สส. ภ.จว.ระนอง จากนั้นจะให้ทาง ภ.จว.อุตรดิตถ์เจ้าของพื้นทีมารับตัวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้(16 ม.ค.62)
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในการจับกุมครั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (บช.ภ.6) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายกระทั่งสามารถติดตามจับกุมไว้ได้ ในการหลบหนีของคนร้ายมีเทคนิคในการในการอำพราง เพื่อหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีวิธีการสืบสวน ส่วนใครที่เกี่ยวข้องในการพาผู้ต้องหารายนี้หลบหนีดำเนินคดีทั้งหมด
อย่างไรก็ตามรอง ผบ.ตร.กล่าวว่า "ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ส่วนชนวนในการสังหารครั้งนี้มาจากเรื่องหึงหวง และ จากการชันสูตรของแพทย์ พบว่า ภรรยาผู้ต้องหาที่เสียชีวิตในครั้งนี้อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ด้วย หลังจากนี้จะนำตัวคนร้ายเข้าสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.อุตรดิตถ์และทำแผนในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค. 62)"