- 16 ม.ค. 2562
เด็กสาววัย 16 ร่ำไห้ ยากจน ต้องดูแลเลี้ยงดูอีก 3 ชีวิตเพียงลำพัง
คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังรุดช่วยนักเรียนหญิงชั้น ม.4 เรียนดีแต่มีฐานะยากจน พร้อมเร่งช่วยเรื่องที่อยู่อาศัย และส่งเสริมอาชีพ ขณะที่ยายวอนผู้ใจบุญช่วยสนับสนุนทุนการศึกษา เจ้าตัวเผยอยากเป็นหมอ แต่เป็นเพียงความฝัน ขอดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา จ่าจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอัมรินทร์ ถิตย์รัตน์ ผู้ช่วยจ่าจังหวัดกาฬสินธุ์ นายชูชัย ประทุมขันธ์ ผอ.โรงเรียนนาคูพัฒนา กรป กลางอุปถัมภ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการยกระดับคุณภาพชีวิตคนจนขั้นพื้นฐาน คณะครู เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอนาคู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้นำหมู่บ้านเข้าเยี่ยมครอบครัวของนางสาววารินทร์ทิพย์ ดอนวัดไพร อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นม.4/2 โรงเรียนนาคูพัฒนา กรป กลางอุปถัมภ์ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ที่บ้านชาดกลาง หมู่ที่ 13 ตำบลนาคู อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นครัวเรือนที่อยู่ในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายของจังหวัดกาฬสินธุ์ และรัฐบาล นำโดยพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากรับทราบว่าครอบครัวดังกล่าวประสบปัญหาในเรื่องที่ดินอยู่อาศัยและสภาพครอบครัวมีฐานะยากจน และขาดทุนทรัพย์ในการศึกษา
โดยจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครัวเรือนดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆสภาพทรุดโทรม ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วยมีนางรวม ไชยรัง อายุ 68 ปี เป็นยาย นายนะ ดอนวัดไพร อายุ 78 ปีเป็นตา ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงเด็กชายยุทธพิชัย ดอนวัดไพร อายุ 4 ปี เป็นน้องชาย และแม่ของเด็กทำงานอยู่ กทม.
.
นายชูชัย ประทุมขันธ์ ผอ.โรงเรียนนาคูพัฒนา กรป กลางอุปถัมภ์ กล่าวว่า นางสาววารินทร์ทิพย์ ดอนวัดไพร อายุ 16 ปี หรือน้องฟลุ๊ค เป็นนักเรียนชั้นม.4/2 โรงเรียนนาคูพัฒนา กรป กลางอุปถัมภ์ ซึ่งเพิ่งเข้ามาศึกษาในภาคเรียนที่ผ่านมา ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ ตามโครงเยี่ยมครอบครัวนักเรียน พบว่า ครอบครัวน้องฟลุ๊ค ฐานะยากจน อาศัยอยู่กับยายและตา ซึ่งอายุมากแล้ว และยังเป็นผู้ป่วยติดเตียง และยังมีน้องชายอายุเพียง 4 ปี อีก 1 คน ส่วนพ่อและแม่หย่าร้างกันตั้งแต่น้องฟลุ๊คยังเล็กๆ ทำให้ครอบครัวยากลำบาก ซึ่งยังมีปัญหาในเรื่องที่ดินอยู่อาศัย แต่ยังโชคดีที่ได้รับการเอื้อเฟื้อจากญาติพี่น้องให้อาศัยในที่ดิน นอกจากนี้ยังขาดทุนการศึกษา ซึ่งทางโรงเรียนได้หาทุนการศึกษาให้น้องฟลุ๊ค รวมทั้งระดมทุนจากคณะครู และบุคลาการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอและต่อเนื่อง
นายชูชัย กล่าวอีกว่า สำหรับน้องฟลุ๊คเป็นเด็กที่มีความกตัญญู เป็นนักเรียนจิตอาสา แม้มีภาระทางด้านครอบครัวที่จะต้องไป-กลับโรงเรียนในแต่ละวัน เพราะต้องแบกภาระดูแลน้องชายที่ยังเล็กๆและตาที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งไม่มีทุนการศึกษา แต่ก็ยังตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.4 ซึ่งทางโรงเรียนจะพยายามหาทุนให้น้องฟลุ๊คได้ศึกษาจนจบต่อไป
ด้าน สาววารินทร์ทิพย์ ดอนวัดไพร อายุ 16 ปี หรือน้องฟลุ๊ค นักเรียนชั้นม.4/2 โรงเรียนนาคูพัฒนา กรป กลางอุปถัมภ์ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งกล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้ทางครอบครัวจะมีความยากจนลำบากเพียงใดตนก็จะต้องดูแล ยาย ตา และน้องให้ดีที่สุด ส่วนความฝันในอนาคตอยากที่จะเรียนหมอนั้น คงเป็นได้เพียงความฝันเท่านั้น เพราะคงไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ขอเพียงให้ครอบครัวมีอาหาร มีรายได้ และมีที่อยู่อาศัยก็เพียงพอแล้ว จึงขอขอบคุณทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ลงพื้นที่เข้ามาเยี่ยมและให้การช่วยเหลือครอบครัว
ด้านนางรวม ไชยรัง อายุ 68 ปี ย้ายน้องฟลุ๊ค กล่าวว่า น้องฟลุ๊คเป็นเด็กที่น่าสงสารมาก เพราะนอกจากพ่อแม่จะแยกทางกันแล้ว ยังต้องอาศัยอยู่กับตายาย และต้องเลี้ยงดูน้องชายเล็กๆอายุเพียง 4 ปีด้วย ซึ่งยายก็มีอาชีพรับจ้างเย็บผ้าเล็กน้อยได้เงินวันละ 50-100 บาท ทำให้บางวันน้องไม่มีเงินซื้ออาหารกินข้าว ทางโรงเรียนก็ได้ให้กินฟรี รวมทั้งทางผู้อำนวยการ คณะครู อาจารย์ก็ได้ให้เงินนำกลับไปซื้ออาหารที่บ้าน และจัดหาชุดนักเรียนให้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงอยากให้ผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือน้องฟลุ๊ค เพราะน้องเป็นเด็กที่เรียนดี ตั้งใจเรียน เป็นเสาหลักของครอบครัว มีความฝันอยากเป็นหมอ ซึ่งหากได้เรียนจบสูงๆก็น่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
.
ขณะที่นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าครอบครัวดังกล่าวมีฐานะยากจนลำบาก และมีปัญหาเรื่องที่ดินอาศัย ซึ่งทางจังหวัดได้นำเข้าสู่โครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย จนได้รับการเอื้อเฟื้อจากญาติพี่น้องให้ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ได้ต่อไป และจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางอำเภอนาคูเข้ามาช่วยเหลือทั้งด้านการดูแลสุขภาพ เรื่องที่อยู่อาศัย และการส่งเสริมอาชีพต่อไป
ขอบคุณ หนังสือพิมพ์เสียงภูพาน