หนุ่มนักธุรกิจ สุดทน บุกทวงเงิน 8.3 ล้าน..โวยโดนปลอมลายเซ็นเบิกเงิน ร้อง 10 ปี คดีไม่คืบ(คลิป)

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ WWW.tnews.co.th

จากตามที่ทางเพจ123คนดีมีน้ำใจ ได้นำเสนอเรื่องของคุณเอกวิชญ์ เกษเจริญ อายุ39ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ อาชีพนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง กรณีที่เมื่อช่วงปลายปี2551 ตนเองถูกปลอมลายมือชื่อใบมอบฉันทะ ไปถอนเงินจากธนาคารกรุงไทย สาขาปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 8,377,371 บาท โดยมีการโอนไปยังบัญชีอื่นไม่ได้เป็นบัญชีของตนเองทั้งสองรายการ ตนได้ติดตามทวงถาม ต่อสู้ในเรื่องนี้ มานานร่วม10ปีแล้ว แต่คดีความไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

หนุ่มนักธุรกิจ สุดทน บุกทวงเงิน 8.3 ล้าน..โวยโดนปลอมลายเซ็นเบิกเงิน ร้อง 10 ปี คดีไม่คืบ(คลิป)

ที่ผ่านมา ทางธนาคาร ไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองคือผู้เสียหาย ที่ลูกค้าถูกคนปลอมลายเซ็นมาเบิกเงินออกไป 8 ล้านกว่าบาท ธนาคารให้ลูกค้าฟ้องร้องเอาผิดกันเอง รอคำตัดสินของศาลเอาเอง ทั้งที่ความรับผิดชอบในการดูแลเงินของลูกค้า ก็เป็นหน้าที่ ภาระความรับผิดชอบของผู้ประกอบการธนาคารอยู่แล้ว

ซึ่งเมื่อต้นเดือนธันวาคม2561ธนาคารได้มีหนังสือตอบกลับมาให้ตนทราบว่า เรื่องที่ร้องขอให้ธนาคารตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีถูกปลอมลายมือชื่อในการถอนเงินและมีการปฏิบัติงานผิดระเบียบเกี่ยวข้องกับการถอนเงินนั้น ธนาคารแจ้งว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการทางวินัย หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป..ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ คุณเอกวิชญ์ ได้กล่าวว่าตนรู้สึกว่ายังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ในการแก้ปัญหาให้กับตน ธนาคารควรที่จะรับผิดชอบเยียวยา ดูแลเงินคืนให้กับลูกค้า ไม่ใช่ปล่อยให้เฝ้ารอตามความคืบหน้าไปตามยถากรรมแบบนี้ ตนเองก็ลำบาก บ้านจะถูกยึดอยู่แล้ว ต้องนำเงินก้อนสุดท้ายของแม่มาใช้จ่ายดำเนินการต่อสู้ในเรื่องนี้ ตนจึงตัดสินใจว่าในวันพรุ่งนี้(16ม.ค.62)ตนจะเดินทางไปประท้วงร้องขอความธรรมกับผู้บริหารระดับสูง ที่ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่

วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. คุณเอกวิชญ์ เกษเจริญ พร้อมญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาร้องขอความธรรมกับผู้บริหารระดับสูง ที่ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ ถนนสุขุมวิท ซอยนานาเหนือ พร้อมกับทำป้ายประท้วง เพื่อต้องการให้ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย(สำนักงานใหญ่) ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวหลายสำนักมารอทำข่าว คุณเอกวิชญ์ เกษเจริญ ได้เปิดเผยกับกับผู้สื่อข่าวว่า ที่มาวันนี้ เพื่อมาทวงถามเงินของตัวเอง มาเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง เพราะตนเป็นผู้เสียหายจากกรณีถูกปลอมลายมือชื่อในการถอนเงิน และมีการปฏิบัติงานผิดระเบียบเกี่ยวข้องกับการถอนเงินนั้น ด้วยวิธีการที่ไม่สามารถทำได้ ไม่มีหลักฐานการตรวจสอบจากเจ้าของบัญชีกรณีการเบิกเงินต่างสาขา คือให้เบิกแบบไม่มีการตรวจสอบ แล้วเกิดความเสียหาย เงินไม่ได้โอนมีการโอนเข้าบัญชีตน ไม่มีโอนเข้าบัญชีชื่อผู้มีหุ้นส่วนสักคน กับโอนเข้าบัญชีจำเลยพ่อแม่ของผู้ปฏิบัติงาน ธนาคารกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งที่ธนาคารก็เป็นผู้เสียหายจากการปฏิบัติงานที่ผิดระเบียบของเจ้าหน้าที่ แต่ทำไมธนาคารไม่แจ้งดำเนินคดีกฎหมายกับผู้ปลอมลายเซ็น ทั้งที่มีอำนาจดำเนินคดีกฎหมายกับผู้ปลอมลายเซ็น ผ่านมากว่า 10 ปี ธนาคารไม่ดำเนินการใดๆ ไม่รับผิดชอบ ธนาคารให้ลูกค้าฟ้องร้องเอาผิดกันเอง

อย่างไรก็ตามการเดินทางมาประท้วงในครั้งนี้ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากจากธนาคารกรุงไทย แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงไทยได้ให้คำตอบว่าจะเร่งติดตามเรื่องให้ ซึ่งคาดว่าวันจันทร์หน้า (21ม.ค.62) น่าจะมีคำตอบชี้แจงจากธนาคารกรุงไทย ด้านคุณเอกวิชญ์ เกษเจริญ พร้อมญาติ ก็จะได้เดินทางมาที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่อีกครั้ง หากมีความคืบหน้าทางเพจ 123คนดีมีน้ำใจจะรีบมมาอัพเดทรายงานให้ทราบต่อไป

หนุ่มนักธุรกิจ สุดทน บุกทวงเงิน 8.3 ล้าน..โวยโดนปลอมลายเซ็นเบิกเงิน ร้อง 10 ปี คดีไม่คืบ(คลิป)

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ ธนาคารกรุงไทย แจ้งว่า จากกรณีที่ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ลูกค้าธนาคารกรุงไทย สาขาสวรรค์วิถีและปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ได้มาร้องเรียนที่ธนาคารกรุงไทย อาคารสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 ว่าถูกปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการถอนเงินจำนวนกว่า 8 ล้านบาท นั้น 
ธนาคารขอเรียนว่า กรณีดังกล่าวลูกค้าได้ยื่นฟ้องธนาคารในคดีความแพ่งต่อศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิจารณาและมีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ต่อมาลูกค้าได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาและมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 โดยขณะนี้นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ได้ยื่นฎีกา และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเมื่อศาลมีคำพิพากษาเป็นเช่นใด ธนาคารน้อมรับปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจากศาลได้วินิจฉัยตามพยานเอกสารและหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพยานบุคคลที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำสืบพยานแสดงต่อศาล ซึ่งทุกฝ่ายไม่ควรล่วงละเมิดคำตัดสินของศาล

ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย ได้ชี้แจงกระบวนการตรวจสอบและให้ข้อมูลกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นใจว่าธนาคารกรุงไทย ไม่เคยละเว้นการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อธนาคาร ทั้งนี้ ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหลักบบรรษัทภิบาล ดำเนินงานอย่างมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส ให้บริการลูกค้าตามแนวทางของหลัก Market Conduct

หนุ่มนักธุรกิจ สุดทน บุกทวงเงิน 8.3 ล้าน..โวยโดนปลอมลายเซ็นเบิกเงิน ร้อง 10 ปี คดีไม่คืบ(คลิป)

ทีมข่าว 123คนดีมีน้ำใจ

โปรดติดตามข่าวอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง ยูทูป ชาแนล ของสำนักข่าวทีนิวส์ WWW.tnews.co.th