- 25 ม.ค. 2562
"พ่อหัวร้อน" ขึ้นโรงพักอีกรอบ เคลียร์ดราม่าโดนจับ ลูกไม่สวมหมวกกันน๊อค โพสต์คลิปหวังได้กระแสโซเชียลหนุน (คลิป)
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียล เมื่อชาวเน็ตแห่แชร์และให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ด่านไม่ลอย ด่านตั้งพื้น ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ โดยระบุว่า #สน. บางขุนนนท์ #จับเด็กน้อย 3 ขวบไม่สวมหมวกกันน๊อค พอชี้ให้จับคนอื่นด้วยก็ไม่จับ ผมไปส่งลูกโรงเรียนอนุบาล รหัสตำรวจ xxxx สน.บางขุนนนท์
ทั้งนี้คลิปวิดีโอดังกล่าว มีความยาวประมาณ 3 นาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์โต้เถียงกันระหว่างพ่อของหนูน้อยวัย 3 ขวบ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่เกิดขึ้นบนโรงพัก หลังจากถูกเชิญมาเสียค่าปรับ เนื่องจากไม่สวมหมวกกันน็อคให้กับลูกสาว จนทำให้เกิดความไม่พอใจ
โดยคุณพ่อยังบอกให้ตำรวจออกใบสั่ง เพื่อที่จะได้กลับไปทำมาหากิน แต่กลับพามาที่โรงพัก โดยพ่ออ้างว่า ขณะที่ตนเองถูกจับนั้น ก็มีรถคันอื่นที่ไม่ใส่หมวกกันน็อกเหมือนกันแต่กลับไม่ถูกจับซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าว เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางรายบอกว่า อยากให้ตำรวจแค่ตักเตือนก่อน รวมถึงเป็นห่วงความปลอดภัยของหนูน้อยวัย 3 ขวบด้วย และอยากให้พ่อซื้อหมวกกันน็อคให้ใส่
ในเวลาต่อมาที่ สน.บางขุนนนท์ นายพงพิพัฒน์ ใจใส อายุ 45 ปี หนุ่มหัวร้อนที่นำคลิปที่ถูกเจ้าหน้าที่ตร.จร.สน.บางขุนนนท์ จับกุมขณะขับขี่จยย.แล้วพบว่าลูกน้อยอายุ 3 ขวบไม่ใส่หมวกกันน็อค ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ เพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในโซเชียล จนทำให้เจ้าหน้าที่ตร.จร.สน.บางขุนนท์เสียหาย
นอกจากนี้นายพรพิพัฒน์ ยังกล่าวอีกว่าตนทำงานเป็นแมสเซนเจอร์วิ่งส่งอะไหล่รถ แต่ในช่วงเช้าก็จะมาวิ่งวินจยย. อยู่หน้าโรงรับจำนำบางขุนนนท์ เพื่อหารายได้เพิ่ม หลังจากที่ตนได้โพสต์เรื่องดังกล่าวลงโซเชียล เมื่อคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เสียงเตือนดังตลอดทั้งคืน ทั้งเฟซ ทั้งไลน์ ทั้งเข้ามาสอบถาม และต่อว่า ตนต้องขอโทษด้วยจริงๆที่นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์เพราะคิดว่าตนไม่ผิด คิดว่าเด็กไม่ต้องใส่หมวกกันน็อคก็ได้
จนได้รับการอธิบายจากเจ้าหน้าที่ตร. จนเข้าใจและรับทราบข้อกล่าวหาไปเรียบร้อย พร้อมทั้งจ่ายค่าปรับไป 200 บาท ที่ทำไปเพราะความโมโหและเป็นการโพสต์ในกลุ่มเพื่อน ไม่คิดว่าจะกระจายไปขนาดนี้ จึงอยากขอโทษอีกครั้ง และตนจะเข้าไปโพสต์ขอโทษในโซเชียลเช่นกัน
ด้านพ.ต.อ.สำเริง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จุดที่จับกุมอยู่บริเวณแยกบางขุนนนท์ จราจรที่อำนวยงานจราจรในช่วงเร่งด่วนตอนเช้า พบผู้กระทำผิด จึงได้จับกุมตามหน้าที่ เพราะเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตราย แต่ผู้กระทำไม่ยอมรับผิด จึงไม่สามารถออกใบสั่งได้ ก็ได้เชิญผู้กระทำผิดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่ออธิบายข้อกฎหมาย จนเข้าใจและยอมชำระค่าปรับจำนวน 200 บาท พ.ต.อ.สำเริง กล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่ตร.มีความห่วงใยในความปลอดภัย
เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุเด็กจะหนักกว่าผู้ใหญ่ หลังจากพูดคุยเข้าใจกันด้วยดี ทางผู้กระทำผิดก็ได้ทำความเข้าใจกับตร.ผู้จับกุมและขอโทษเป็นที่เรียบร้อย ส่วนที่นำเรื่องนี้ไปโพสต์จนเกิดความเสียกับเจ้าหน้าที่ตร. จะมีการดำเนินคดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางผู้บังคับบัญชาว่าจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร
พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตร.ได้มอบหมวกกันน็อคให้กับนายพรพิพัฒน์ นำไปใส่ให้ลูกเวลาเดินทางด้วยจยย. เพื่อความปลอดภัย