- 26 ม.ค. 2562
เปิดสมุดบริจาค "หลวงพ่อคูณ" ช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 50 ปี เงินเกือบหมื่นล้าน
หลังจากที่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อายุ 92 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยอาการอาพาธหัวใจหยุดเต้นเข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เวลา 11.45 น. เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2558 ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าว
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อคูณ ได้เร่งก่อสร้างเมรุภายในพุทธมณฑลอีสานจนแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 ที่จะถึงนี้
ล่าสุดนายบรรจบ ศิลปชัย วัย 73 ปี ลูกพี่ลูกน้องของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ปัจจุบันเป็นไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เผยว่า ในวัยเด็กหลวงพ่อคูณกำพร้าพ่อแม่ ต้องอยู่ในความอุปการะของญาติ ด้วยความทุกข์ยากในวัยเยาว์นั้นยังจำฝังใจอยู่เสมอ เมื่อหลวงพ่อคูณบวช ท่านจึงช่วยเหลือชาวบ้านเสมอ ใครมาขอให้ช่วยเหลือท่านไม่เคยปฏิเสธ
โดยนายบรรจบ ได้เผยสมุดรายการบริจาคของหลวงพ่อคูณ ที่เริ่มจดบันทึกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ยอดบริจาคตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักล้าน อย่างเช่น
วันที่ 27 มีนาคม 2513 บริจาคเงินช่วยงานศพพระครูวิจารย์ติกิจ 1,000 บาท
วันที่ 27 ตุลาคม 2514 ยกศาลาวัดบ้านถนนหักใหญ่ อ.ด่านขุนทด 11,000 บาท
วันที่ 7 เมษายน 2515 บริจาคเงินซื้อสังกะสีมุงวัดกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด 10,000 บาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันเกิดของหลวงพ่อคูณ วันที่ 4 เมษายน ของทุกปี จะมีการบริจาคช่วยวัด หรือหน่วยงานราชการต่าง ๆ เป็นเงินหลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณ ยังบริจาคเงินช่วยเหลือก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เช่น ปี 2536 สร้างโรงพยาบาลด่านขุนทดพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ สร้างโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ สร้างโรงพยาบาลลำสนธิ จ.ลพบุรี โรงพยาบาลละ 15,000,000 บาท สร้างอาคารเรียนโรงเรียนพระญาณวิทยาคม 1 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา 12,000,000 บาท สร้างมณฑปรอยพระพุทธบาทเขายายหอม อ.เทพสถิตย์ 4,500,000 บาท สร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าหมู่บ้านโคกรักษ์ อ.ด่านขุนทด ขนาด 30x6 เมตร 2,100,000 บาท
ซึ่ง หลวงพ่อคูณ ยังมีการบริจาคอีกหลายรายการที่ไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ โดยตลอดระยะเวลาที่ท่านอยู่ในสมณภาพท่านจะบริจาคอย่างเดียว ซึ่งไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ PhraManee Sriphuttha ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ยิ่งให้ยิ่งได้ คำสอนหลวงพ่อคูณ รู้ไหม! หลวงพ่อบริจาคเงินช่วยสาธารณะกว่า 6,000 ล้านบาท
ย้อนชีวิตวัยเด็ก “หลวงพ่อคูณ” เจอความจนตั้งแต่เกิด ซ้ำต้องกำพร้าพ่อแม่ ลุงป้าต้องนำมาเลี้ยง จนทำให้กลายเป็นคนขี้สงสารชอบช่วยเหลือคนอื่น เงินบุญจากญาติโยมจึงบริจาคออกหมด เผยยอดเงินบริจาคเท่าที่มีบันทึกกว่า 6,000 ล้าน
งานพระราชทานเพลิงครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 29 ม.ค. 62 ที่จะถึงนี้ เป็นอีกข่าวหนึ่งที่สื่อทุกแขนงเกาะติดนำเสนอและดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจมากกว่าข่าวกระแสหลักหลายข่าวด้วยซ้ำ แต่ยังมีเยาวชน หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ยุคที่มีสมาร์ทโฟนเป็นสรณะจำนวนมากที่รู้เรื่องภูมิหลังของหลวงพ่อคูณกันน้อยมาก
คติธรรมประการหนึ่งที่หลวงพ่อคูณท่านพร่ำเทศนาสั่งสอนญาติธรรมให้รู้จักพอ หากต้องการหลุดพ้นจากความทุกข์ที่เป็นบ่วง ยังยึดมั่นถือมั่นไม่ยอมปล่อยวาง คือ...“ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้”
…..“วัดบ้านไร่” แห่ง ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2436 ในช่วงรัชกาลที่ ๕ มี พระอาจารย์เชื่อม วิรโช เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และหลังจากนั้นก็เริ่มมีการก่อสร้างศาสนอาคารต่างๆ ขึ้นตามแต่ปริมาณเงินศรัทธาของญาติโยมที่มี
ต่อมาในช่วงที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัด ถือเป็นห้วงที่มีการพัฒนาวัดมากที่สุด ด้วยมีผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมถวายวัตถุปัจจัยเป็นเงินมหาศาล
หลวงพ่อคูณได้เริ่มสร้างพระอุโบสถขึ้น มีชาวบ้านช่วยกันเข้าป่าตัดไม้ สมัยก่อนมีอยู่มาก การตัดไม้ในสมัยนั้นไม่ค่อยสะดวกนัก ไม่มีเครื่องจักร ไม่มีถนน กว่าจะได้ไม้ที่เลื่อยแปรสภาพสำเร็จต้องเจอปัญหาการขนย้ายที่ยากลำบาก อาศัยวัวเทียมเกวียนเป็นพาหนะหลัก หรือใช้แรงงานคนลากจูงออกมาจากป่าจากเขา แต่หลวงพ่อคูณก็สามารถนำชาวบ้านช่วยกันสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จ (ปัจจุบันได้รื้อลงแล้ว และก่อสร้างหลังใหม่แทน)
นอกจากการก่อสร้างพระอุโบสถแล้ว ยังสร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ขุดสระน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ และที่สำคัญ หลวงพ่อคูณยังสร้างโรงเรียนขึ้นมาเพื่อให้เด็กบ้านไร่ได้เล่าเรียนอ่านออกเขียนได้ วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา จนทำวัดบ้านไร่มีผู้ใฝ่บุญจากทั่วประเทศมาเยือนและกราบไหว้หลวงพ่อคูณต่อเนื่องทุกวัน
หลวงพ่อคูณ เป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ ทำให้เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างกว้างขวาง
หลวงพ่อคูณ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน ที่บ้านไร่ หมู่ 6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จงนครราชสีมา ในครอบครัวของชาวไร่ชาวนายากจน บิดาชื่อ นายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อ นางทองขาว ฉัตรพลกรัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน คือ 1. หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 2. นางคำมั่น แจ้งแสงใส และ 3. นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์
หลวงพ่อคูณได้บริจาคเงินสร้างโรงพยาบาลถึง 3 แห่ง โรงเรียนอีกหลายโรง และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้บริจาคเงินทองเพื่อช่วยเหลือสาธารณสุขต่างๆ ทุกๆ วัน แต่ละเดือนเป็นเงินหลายแสนบาท
เคยมีผู้บันทึกคำพูดของหลวงพ่อคูณไว้ว่า...“หลวงพ่อเป็นคนยากจนมาโดยกำเนิด จึงอยากคิดช่วยเหลือคนอื่น การนำเงินออกไปช่วยคนอื่นก็จะมีคนบริจาคเรื่อยๆ ถ้าเก็บไว้จะทำให้ตนตาบอด ใจก็บอดอีกด้วย จึงอยากช่วยคนอื่นอยู่เรื่อยไป วันใดไม่มีคนมาขอเงิน ก็ไม่ค่อยสบายใจ”
คุณตาบรรจบ ศิลปชัย วัย 73 ปี ลูกพี่ลูกน้องของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปัจจุบันเป็นไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ เล่าย้อนให้ฟังว่า หลวงพ่อคูณเจอสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจนแร้นแค้นมาตั้งแต่วัยเด็ก ซ้ำยังต้องกำพร้าพ่อและแม่ ลุงและป้ารวมถึงพ่อแม่ของคุณตาบรรจบที่มีศักดิ์เป็นน้าต้องช่วยกันเลี้ยงดู
ความทุกข์ยากในวัยเด็กที่ต้องเผชิญทำให้เมื่อหลวงพ่อคูณเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ หลวงพ่อคูณจึงคิดแต่ช่วยเหลือชาวบ้านไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม ใครมาขอให้ช่วยเหลือท่านไม่เคยปฏิเสธ ดูได้จากสมุดรายการบริจาคของหลวงพ่อคูณ ที่เริ่มจดบันทึกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 รายการบริจาคมียอดเงินตั้งแต่ หลักร้อยจนถึงหลักล้าน
หลวงพ่อคูณเป็นผู้มีความเมตตาสูง เป็นผู้ให้มาโดยตลอด ให้ความเสมอภาคแก่ลูกศิษย์ทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ จึงเป็นที่ศรัทธาของผู้ที่ได้พบเห็น ในแต่ละวันมีญาติโยมนำปัจจัยมาถวายจำนวนมาก ไม่ว่ายาจกหรือเศรษฐี
คุณตาบรรจบบอกว่า หลวงพ่อคูณนำเงินที่ญาติโยมมาถวายมาทำบุญไปบริจาคสร้างวัด สร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น สร้างโรงเรียน, โรงพยาบาล, พัฒนาแหล่งน้ำให้ชาวด่านขุนทดได้ใช้ทำการเกษตร มีรายได้จากการทำไร่ทำนา ไม่ต้องเจอกับความแห้งแล้งซ้ำซากเหมือนแต่อดีต
หากประเมินจาก “การให้” ของหลวงพ่อคูณ ทั้งที่มีการจดบันทึก และไม่ได้จดบันทึกเป็นหลักฐาน #หลวงพ่อคูณได้บริจาคเงินสร้างสาธารณประโยชน์ไม่ต่ำกว่า6000ล้านบาท
บันทึกหน้าสุดท้าย หลังจากหลวงพ่อคูณมรณภาพ"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : PhraManee Sriphuttha