สาวซึ้งใจ ร่ายยาวกราบขอบพระคุณหมอ หลังช่วยพี่ชายพ้นวิกฤต รอดมาได้เหมือนเกิดใหม่

กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Pohathai Pulklan" ได้เผยแพร่เรื่องสุดซึ้งใจ หลังพี่ชายเข้าโรงพยาบาล โดยมีอาการวิกฤต เข้าห้องฉุกเฉิน แต่ได้พบกับหมอท่านหนึ่งที่น่ารัก และดูแลคนไข้เอาใจใส่เป็นอย่างดี จนพี่ชายสามารถผ่านวิกฤตนั้นมาได้ ทั้งนี้เจ้าของเฟซบุ๊กนั้นได้บอกไว้ว่า อยากจะกราบขอบพระคุณหมอท่านดังกล่าว แต่ไม่รู้จักชื่อ จึงได้ใช้ช่องทางผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้บทความดังกล่าว ไปให้ถึงหมอและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันนั้น โดยเธอได้เล่าว่า

 

ขออนุญาตผ่านทางช่องทางนี้ไปถึง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของรพ.กำแพงเพชรค่ะ กลางดึกวันที่ 24 มค 62 พี่ชายถูกส่งตัวจากรพ.พรานกระต่ายด้วยอาการเจ็บอก/ปวดหลังที่แกคิดว่าปวดกล้ามเนื้อธรรมดาๆ พอมาถึง รพ.กำแพงเพชร ที่ห้องฉุกเฉิน คนไข้เริ่มเจ็บแน่นอกหายใจไม่ออก ทุรนทุราย ภรรยาคนไข้ขอให้หมอที่ดูคนไข้อยู่ช่วยคุยกับน้องสาวทางโทรศัพท์ ด้วยความเกรงใจอย่างที่สุด แต่คุณหมอก็น่ารักมากช่วยอธิบายให้เราด้วยความเต็มใจและบอกว่าอาการหนักมากให้ทำใจด้วย เพราะหัวใจวาย/น้ำท่วมปอด 

 

 

ขณะที่คนไข้ก็เริ่มแย่ลงและญาติก็เครียดหนัก คุณหมอและทีมในห้องฉุกเฉินก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ให้คนไข้ผ่านวิกฤต จากนั้นก็แอดมิทมาตึกอายุรกรรมชาย คนไข้ทุเลาลง รุ่งขี้นคุณหมอคนเดิม มาตรวจและบอกว่าต้องไปฉีดสีดูเส้นเลือดหัวใจที่รพ.ศรีสวรรค์ โดยเรารู้มาว่าทางรพ.กำแพงเพชรได้ขอคิวด่วนให้เพราะวิกฤต ไปถึงรพ.ศรีสวรรค์ก็ได้ทำเลยพบว่าเส้นเลือดหัวใจใหญ่มีก้อนเลือดไปอุดตันหนึ่งเส้นและตีบอีกหนึ่งเส้นก็ทำบอลลูนเส้นที่อุดตันสุดท้ายคือคนไข้รอดมาได้เหมือนเกิดใหม่ ท่ามกลางความลุ้น/ตื้นตันของญาติ ที่อยากเล่ามาก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเจอคุณหมอชื่ออะไรที่ห้องฉุกเฉิน วันที่ 24 มค เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ท่านน่ารักมีน้ำใจมากๆ 

และมาตรวจต่อที่ตึกอายุรกรรมชายในวันรุ่งขึ้นด้วย เราสัมผัสได้ถึงจิตใจที่ดีของท่าน ว่าแม้คนธรรมดาๆตาสีตาสาคนนึง ท่านก็ให้ความสำคัญต่อชีวิตของเขา ไม่เลือกปฏิบัติ ท่านคงรู้ว่าเบื้องหลังชีวิตคนๆนึงมันมีอีกหลายชีวิตที่รอคอยและต้องดูแล ครั้งนี้ขอกราบขอบพระคุณท่านมากๆค่ะ รวมทั้งน้องๆที่ห้องฉุกเฉินและตึกอายุรกรรมชาย ที่ทำงานกันหนักมากๆวอร์ดที่ควรจะรับคนไข้ไม่เกิน30เตียง แต่วันที่ไปนั้นยอดคนไข้ปาเข้าไป70กว่าราย สภาพในตึกไม่ต้องพูดถึง เหมือนอยู่ในยุคสงครามเลย ที่เดินแทบจะไม่มี เจ้าหน้าที่แทบไม่ได้นั่ง แต่ทุกท่านก็ทำงานโดยไม่มีอารมณ์หงุดหงิดให้เห็น ตอบข้อซักถามจากญาติๆแบบเต็มใจ ใครที่ชอบว่าพยาบาล เราอยากให้มาดูบรรยากาศ ว่ามันวุ่นวายอลหม่านขนาดไหน ทุกนาทีทำงานกับชีวิตคน รองรับอารมณ์และแรงกดดันจากทุกทาง ต้องชื่นชมจริงๆ สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่านอย่างที่สุดค่ะ จากญาติคนไข้ชื่อ นายหรั่ง โตแก้ว

 

 

ปล.คือไม่รู้ว่าจะเล่าผ่านช่องทางไหนค่ะ พอจะหาเจอได้แค่ช่องทางนี้ ต้องขอรบกวน เป็นสื่อกลางผ่านไปถึงทุกฝ่ายที่กล่าวถึง เพราะเรารู้ดีว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ทุกคน ให้มีแรงบันดาลใจอยากก้าวต่อไป #ทำดีต้องชื่นชม (ภาพนี้จากตึกอายุรกรรมชาย เพียงแค่อยากให้นึกออกถึงบรรยากาศที่เล่ามา และต้องขออภัยที่ถ่ายภาพโดยไม่ได้ขออนุญาตค่ะ)

 

 

 

สุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคือรพ.ต้นทางคือ รพ.พรานกระต่าย ทึ่ซึ่งได้เห็นคนไข้เดินมาเพื่อขอฉีดยาแก้ปวดหลัง แต่คุณหมอเอะใจ ขอตรวจอย่างละเอียด จึงสามารถวินิจฉัยแยกโรคระหว่างปวดหลังธรรมดากับปวดโรคหัวใจได้ ทำให้รีบส่งตัวและช่วยชีวิตคนไข้ได้ทันเวลา รพ.ชุมชนเล็กๆแต่ความสามารถไม่เล็กเลยจริงๆ #กราบคุณหมอและพยาบาลทีมเวรบ่ายวันที่ 24 มค 62

 

 

ที่มา Pohathai Pulklan