กทม.-ปริมณฑล คุณภาพอากาศดีขึ้น คาดพรุ่งนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

เรียกได้ว่าสถานการณ์ฝุ่นควันพิษ PM2.5 กระทบการใช้ชีวิตของประชาชนในกรุงเทพมหานครและประชาชนในเขตปริมณฑลเป็นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณฝุ่นนั้น มีกกรเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆและมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก ส่งผลทำให้ผู้ว่า กทม. ได้สั่งด่วนให้รองปลัดกทม. แจ้งโรงเรียน 437 แห่งในสังกัดกทม. เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละอองพิษ  เพื่อให้เด็กนักเรียนไม่ได้รับผลกระทบ และลดปริมาณการใช้ลดรถยนต์ของผู้ปกครองอีกด้วย 

แถมก่อนหน้านี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาพูดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ของคนไทยว่ามีผลทำให้เกิดฝุ่นละอองมากกว่าควันของรถ ซึ่งปัญหาของฝุ่น PM 2.5 หลายคนมองว่ามาจากควันดำ ส่วนบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นควันสีขาวนั้นล้วนก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 เหมือนกัน และเรียกได้ว่าส่งผลทำให้เกิดฝุ่นละอองมากกว่าควันรถเป็นอย่างมาก 
 

 

ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ย 24 ชม. พบว่าปริมาณฝุ่นลดลงตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คุณภาพอากาศดี-ดีมากทุกพื้นที่ ซึ่งค่ามาตรฐานฝุ่นละอองอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

โดยกทม.ร่วมกับโรงเรียนการบินกรุงเทพมหานคร นำเครื่องบินเล็กโปรยละอองน้ำ เหนือพื้นที่เขตบางแค บางบอน ทวีวัฒนา และตลิ่งชัน รวมทั้งหมด 11 เที่ยวบิน ขณะที่ทั้ง 50 เขตระดม Big Cleaning บริเวณหน้าบ้านและสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่เวลา 22.00 น. บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ระหว่างถนนพระราม2 ถึงถนนกัลปพฤกษ์ ส่วนในวันนี้ 4 ก.พ. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะทาง
 

อย่างไรก็ตามจากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM 2.5 ของกรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่าในวันพรุ่งนี้ 5 ก.พ.นี้ ปริมาณ PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยบางพื้นที่ แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ ทั้งนี้จากการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้นจะส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้