- 06 ก.พ. 2562
เสียความรู้สึกมาก!! หนุ่มพลเมืองดีช่วยชายป่วยไต เปิดใจสงสารช่วยเปิดรับบริจาค เคยโดนโกหกเงิน 8 แสนอยู่ครบ
สืบเนื่องจากประเด็นดราม่าที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายในสังคมขณะนี้ กรณีชายคนหนึ่ง ที่เคยป่วยด้วยโรคไต และขอรับเงินบริจาคจากคนใจบุญ และพอได้เงินจำนวนมากจึงนำเงินไปซื้อรถซื้อของใหม่ให้แฟนสาว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ นายพลากรณ์ ภัทราพรพิสิฐ ได้เกิดความสงสารและช่วยเปิดรับบริจาคเงินช่วยนายศรายุทธ ชายที่ป่วยเป็นโรคไต แต่หลังจากได้เงินบริจาค 800,000 นายศรายุทธกลับนำเงินไปซื้อรถ 3.6 แสน (ใช้ขายผลไม้) ไถ่ที่นาของแม่ 2 แสน แล้วก็ซื้อมือถือให้แฟน 1 เครื่อง ล่าสุดได้ซื้ออุปกรณ์แต่งรถอีกด้วย เงินที่เหลือ 3 แสนฝากไว้ที่แม่เพื่อใช้เป็นค่ารักษาโรคไตนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มป่วยโรคไต นำเงินบริจาคหลักแสนซื้อรถ ออเดอร์มือถือใหม่ให้แฟน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพลากรณ์ ได้แชร์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กอีกว่า "ซวยแล้วกู" พร้อมกับเปิดใจว่า เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้ป่วยติดต่อมาหาโดยอ้างว่าไม่มีค่ากินค่าอยู่และค่าใช้จ่ายสำหรับไปฟอกไตที่โรงพยาบาล ความสงสารจึงทำให้ตนโพสต์ขอรับบริจาคเงินจากชาวเน็ตคนอื่น ๆ แต่แล้วความสงสารและความไว้ใจกลับพังทลายลง เมื่อมีการเปิดเผยว่าผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้นำเงินไปใช้อย่างที่เคยบอก ทำให้คนอาจมองว่าตนไม่ดีด้วยเช่นกัน ตนจึงเดินทางไปสถานีตำรวจถูธร (สภ.) ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนุบรี เพื่อลงหลักฐานไว้ว่าตนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเงินบริจาค
“ผมคิดว่าเขาลำบากมากป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษา จึงอยากช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ บางคนบริจาคเพราะสงสารและเมื่อเจอเหตุการณ์นี้เสียความรู้สึกอย่างมาก ตนตกใจมากจึงได้รีบติดต่อนายศรายุทธไป แต่นายศรายุทธกลับพยายามโกหกด้วยการนำยอดบัญชีของเก่ามายืนยันว่าเงินในบัญชียังมีอยู่ครบ 8 แสนกว่าบาท ตนเค้นถามนายศรายุทธจึงยอมรับว่าขณะนี้มีเงินเหลืออยู่ไม่ถึง 8 แสนบาทแล้ว”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ก่อนหน้านี้นายศรายุทธ เคยขอรับบริจาคมาแล้วและได้นำเงินที่ได้ไปซื้อโทรศัทพ์มือถือให้แฟน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ทราบถึงพฤติกรรมของนายศรายุทธดี หลังจากนี้ต้องรอนายศรายุทธออกมาชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร และจากผู้ป่วยจะกลายเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ จะมีการดำเนินทางกฎหมายอย่างไร