เตือนก่อนชน!! ป้องกันชนท้ายรถบรรทุกอ้อย ลดความเสี่ยง หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ 1 ในยุทธศาสตร์ คือ "ตั้งรับ ปรับสู้ ตอบโต้ภัยพิบัติ"(มีคลิป)

คุณเก่งกาจ บ้งกาวงศ์ นายกสมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงโครงการป้องกันการชนท้ายรถอ้อย ของหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม ว่า เริ่มจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.62 เกิดเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายบรรทุกรถอ้อย ซึ่งไม่มีสัญญาณเตือนท้ายรถ แล้วเกิดรถลุกไหม้ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ทัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยเคสนี้เป็นเคสที่ทำให้จุดประกายความคิดที่จะทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา 







ก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในเขตพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รอยต้อ โดยปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากกรณีเดียวกันนี้บ่อยมาก ทั้งนี้ ตนเองมองว่า ภาครัฐอาจเคยคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ไม่เคยคุยกันอย่างจริงจัง จึงทำให้ตนเองคิดค้นเรื่องวิธีการแก้ไขอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งได้คิดค้นเรื่องนวตกรรมผลิตอุปกรณ์เตือนภัยท้ายรถ ที่จะติดท้ายรถบรรทุก และผลิตขึ้นมาเอง เพื่อป้องกันการชนท้ายรถบรรทุกอ้อย ทั้งหมด 5 รูปแบบ ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง  แล้วนำเสนอภายในเขตพื้นที่ คือ อ.ท่าคันโท ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะทำเป็นตัวอย่างก่อนในการขับเคลื่อนงาน โดยตนเองได้ไปพบนายอำเภอ นายกเทศมนตรี  สถานศึกษา พ่อค้า ประชาชน และสถานีตำรวจ ให้มาเข้าร่วมเป็นคณะทำงานร่วมกัน รวมถึงโรงงานผู้ประกอบการ คือ เน้นให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม โดยในภาพรวมจะพูดถึง ดังนี้ 







1. การเตือนภัยท้ายรถ จะต้องติดอุปกรณ์อย่างไร 
2. ระเบียบการจัดบัตรคิวของโรงงานจะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้มีรถอ้อยจอดอยู่ตามไหล่ทาง  ไม่ให้รถมาชนท้าย
3. ผู้ทีดูแลทางด้านกฎหมาย คือ ตำรวจ จะมีมาตรการตรวจสอบรถที่ไม่ถูกต้องอย่างไร แล้วให้ไปแจ้งเตือนก่อนที่จะจับ และไม่เน้นให้จับปรับเสียเงิน แต่เน้นให้เตือน เพื่อทำตามรูปแบบที่เราเตรียมไว้ให้ 
4. จะต้องเฝ้าระวังในจุดเสี่ยง คือ ทางร่วม ทางแยก ทางโค้งหักศอก ที่ไม่มีสัญญาณไฟ และจุดยูเทริน ซึ่งจะเน้นทำกิจกรรม 365 วัน ที่จะต้องเฝ้าระวังป้องกันตลอด และจะมีฐานข้อมูลของรถทุกคันในเขตพื้นที่ อ.ท่าคันโท โดยมอบหมายให้ผู้นำชุมชนไปทำแบบสำรวจ ว่า รถในชุมชนตัวเอง มีรถบรรทุก 18 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ และรถพ่วงข้างกี่คัน มีรถบรรทุกอ้อยที่ประดิษฐ์ขึ้นมากี่คัน เป็นจุดเสี่ยงกี่คัน แล้วจะเรียกรถทั้งหมดมาติดตั้งอุปกรณ์นวตกรรมประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นมา โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะให้มาผลิตร่วม คือ ตนเองจะลงไปพื้นที่เพื่ออบรมนักเรียน นักศึกษา ในเขตพื้นที่นั้น ให้มาเป็นฟันเฟืองหลักในเรื่องการผลิตร่วมกันต่อไป 
 

ขณะที่ จะเรียกรถบรรทุกมา อาจรอบละ 3-5 หมู่บ้าน เพื่อจะอบรมให้ตระหนักรู้ถึงภัยที่เขาอาจเป็นต้นเหตุให้คนอื่นประสบเหตุ ในส่วนของตำรวจจะให้ตั้งด่าน โดยมีฐานข้อมูลเรื่องรายชื่อรถที่อยู่ในเขตพื้นที่ เพื่อดูว่ารถที่เข้ามาในเขตพื้นที่เป็นรถนอกพื้นที่หรือรถในพื้นที่ เป็นต้น 



สำหรับยุทธศาสตร์ของสมาคมเมตตาธรรมฯ คือ ไม่ต้องการให้แค่ช่วยคนเจ็บ และเก็บคนตาย แต่เราต้องการให้ลุกขึ้นมาให้เป็นผู้นำเรื่องการพัฒนาเครือข่าย และแก้ไขปัญหาภัยต่างๆ คือ เป็นทีมที่มาปลุกสร้างจิตสำนึก ให้ชื่อยุทธศาสตร์ว่า “ตั้งรับ ปรับสู้ ตอบโต้ภัยพิบัติ” และโครงการนี้อยู่ในหนึ่งโครงการของยุทธศาสตร์นี้ 

โปรดติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจจากยูทูปชาแนล ของสำนักข่าวทีนิวส์ www.tnews.co.th



ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- https://www.tnews.co.th/contents/488263
- https://www.tnews.co.th/contents/492903
- https://www.tnews.co.th/contents/492844