- 15 ก.พ. 2562
อดีตผู้ว่าฯปรีชา โพสต์ล่าสุด! สุขวันนี้บางทีพรุ่งนี้ตาย ใช้ซะชีวิต พรุ่งนี้อาจไม่มีเรา เผยเคยได้รับพระราชทานชื่นชมผู้ปฏิบัติตนตัวอย่าง
จากกรณีที่ต้องนับว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยน หันมาใช้วิถีชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง เหมือนกับบุคคลสำคัญท่านนี้ "ดร.ปรีชา เรืองจันทร์" อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ซึ่งประวัติเดิมท่านเป็นลูกชาวนา และได้ถอดหัวโขนในตำแหน่งพ่อเมืองหลายจังหวัด เช่น พิจิตร, ภูเก็ต, นครสวรรค์ และพิษณุโลก หันมาใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นชาวนา ชาวสวน ที่บ้านเกิดในต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร กับนางปิยธิดา เรืองจันทร์ ภริยา ที่สร้างในพื้นที่เกือบ 1 ไร่ และด้วยคุณความดีที่ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้มีผู้คนนับถือ และยกย่องให้เป็นต้นแบบของการใช้วิถีชีวิตบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง
ต่อมาในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตรี กัลย์สรรค์ จันทรเสน เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพระราชกระแสชมเชย และมอบกระเช้าพระราชทาน มอบให้แก่ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เนื่องจากเป็นผู้ปฏิบัติดี เป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชนด้านเศรษฐกิจพอเพียง นำมาซึ่งความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ทั้งนี้ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ เป็นชาวพิจิตรโดยกำเนิด จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 ที่โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ อำเภอบางมูลนาก และระดับประถมศึกษาปีที่ 4-7 ที่โรงเรียนชุมแสงวิทยา อำเภอชุมแสง ระดับมัธยมศึกษา ม.1-ม.5 สอบเทียบกระทรวงศึกษาธิการ ระดับปริญญาตรีรัฐศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นิติศาสตร์บัณฑิต รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาเอกที่ประเทศฟิลิปปินส์
จากนั้นได้เริ่มรับราชการสังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ชีวิตการรับราชการก้าวหน้ามาโดยตลอด จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ตลอดชีวิตการรับราชการได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อครอบครัว และขยายผลให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ โดย ผู้ว่าฯ ปรีชาเป็นแบบอย่างแห่งการดำรงตนพอเพียงจนถึงทุกวันนี้ ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประกอบอาชีพโดยใช้พื้นที่รอบบ้านพักของตนเอง ทำเกษตรผสมสานไร่นาส่วนผสมต่างๆ จนเป็นแหล่งเรียนรู้และบุคคลต้นแบบตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สำหรับครอบครัวได้ใช้ชีวิตกับนางปิยธิดา เรืองจันทร์ ภรรยา บนที่ดินที่สร้างบนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านมาเสนอขายที่ดินให้ จึงซื้อรวบรวมไว้ ทั้งหมดประมาณ 33 ไร่ พอว่างจากงานหลักก็กลับมาปลูกต้นไม้รอบบ้านพัก แล้วแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน โดยโซนแรกเป็นป่าปล่อย ตามแนวพระราชดำริของในหลวง ปล่อยไว้ให้เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องไปตัดไปรังแก มีทั้งเถาวัลย์ ต้นไม้ใหญ่ต้นไม้เล็ก เขาจะต่อสู้กันเอง โซนที่ 2 เป็นป่าปลูก อยากได้ไม้อะไรก็ไปปลูก ส่วนใหญ่เป็นไม้ป่า เช่น ไม้ยาง, ไม้สัก, ไม้พะยูง, ไม้มะค่าโมง ฯลฯ โซนที่ 3 เป็นไม้ดอก, ไม้ประดับ ส่วนใหญ่เป็นไม้หอม เนื่องจากเป็นคนชอบไม้หอม
ล่าสุดวันนี้(15ก.พ.)ดร.ปรีชา ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า นายปรีชา เรืองจันทร์ ระบุอยู่ที่ ณ คลองคะเชนทร์ ซึ่งข้อความที่นำมาเผยแพร่ไว้นั้นมีข้อความที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงขอนำมาเปิดเผยต่อเพื่อให้เป็นข้อคิดแก่คน สังคมในการดำเนินชีวิตดังนี้
รอเวลา
อยู่วันนี้ทำวันนี้ต้องดีแน่
พรุ่งนี้แพ้สังขารรานลงง่าย
สุขวันนี้บางทีพรุ่งนี้ตาย
คือจุดหมายปลายทางต่างกรรมกัน
...วันนี้ยังมีเรา..ใช้ซะชีวิต
ถึงพรุ่งนี้อาจไม่มีเราแล้ว..
..มนุษย์เจ้าเอยมีความตายอยู่เบื้องหน้าทุกตัวตน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ว่าช่วยด้วย แม่เครียดลูกถูกไล่ออกจากโรงเรียนแถมถูกดำเนินคดีจึงใช้มีดจี้คอตัวเองจะฆ่าตัวตาย
- น้ำเสียเหม็นหึ่งลงหาดอ่าวนาง รองผู้ว่านำกำลังตรวจสอบ เตรียมดำเนินคดีโรงแรมที่ปล่อย
- "ผู้ว่าฯพะเยา" ลงพื้นที่ทันที หลังอุบัติเหตุรถบัสนักศึกษา จากกระบี่พลิกคว่ำ บาดเจ็บร่วม 40 คน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : นายปรีชา เรืองจันทร์