- 01 มี.ค. 2562
รองผบก.บุรีรัมย์สั่งสอบด่วนรง.แพล้นปูน ปิดประตูขังวัว เรียกเงินชาวบ้านไถ่คืนตัวละ 2 พัน อ้างสัตว์บุกรุกพื้นที่
จากกรณีที่ ชาวนา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อนหนักมากๆหลังถูกเถ้าแก่โรงงานแพล้นปูนและร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ต้อนวัวควาย เข้าไปในโรงงานและปิดประตู แล้วเรียกค่าไถ่วัวจากชาวบ้าน คืนตัวละ 2 พัน ถ้าไม่จ่ายเงินมา ก็จะไม่คืนเงินให้ แถมยังอ้างอีกว่าได้เขียนป้ายเตือนแล้ว มีชาวนาเสียเงินรายละ 10,000 -20,000 บาทให้เถ้าแก่โรงงานนี้เป็นประจำ
ที่ผ่านมามีชาวบ้านบริเวณนี้ถูกกักวัวแล้วเรียกค่าไถ่เป็นประจำ คนต้อนเป็นผู้หญิงได้หัวคิวตัวละ 200 บาท ชาวบ้านแถวนั้นต่างรู้กันหมด แต่ไม่มีสามารถทำอะไรเจ้าของโรงงานได้ จึงอยากจะวิงวอนผู้รู้ด้านกฎหมายมาช่วยเหลือ ชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องไปกู้เงินนอกระบบมาไถ่วัวคืน
โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังจุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันอยุ่เพื่อที่จะช่วยให้ได้วัวที่ถูกขังไว้กลับคืนโดยเร็วและได้คืนโดยไม่ต้องเสียค่าไถ่ ตอนนี้วัวถูกจับขังอยู่ โดยไม่มีใครเอาหญ้าหรือน้ำให้กินนาน 3 วัน 3 คืนแล้ว
จากการตรวจสอบโรงงานแพล้นปูนดังกล่าว ตั้งอยู่ถนนสาย อ.ห้วยราช-กระสัง ห่างจากตัวห้วยราชประมาณ 3 กม. โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานแพล้นปูนขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 20 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด มีประตูเข้าทางเดียวและมีป้ายเขียนข้อความไว้ว่า "ห้ามนำวัวควาย เข้าบริเวณโรงงาน เนื่องจากเป็นการบุกรุก ทำลายต้นไม้ และกีดขวางทางเข้าออกของรถยนต์ ทางห้างจึงต้องกักขังวัววายของท่านที่บุกรุกพื้นที่ เพื่อเรียกค่าเสียหายแจ้งความดำเนินคดีโดยท่านต้องจ่ายค่าไถ่วัวควายตัวละ 2,000 บาท"
ทั้งนี้ จากการสอบถามนางฉลอม เกษมสุข อายุ 63 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ไม่สามารถหาเงินมาไถ่วัวที่ถูกกักขังไว้ในโรงงานอีก 10 ตัวได้ ว่าเคยมีชาวบ้านในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ถูกกักขังวัวแล้วเรียกค่าไถ่มาแล้วหลายครั้ง และยังพบว่ามีคนพบเห็นผู้หญิงเป็นคนต้อนวัวเข้าไปในโรงงาน แล้วจะได้เงินค่าหัวคิวตัวละ 200 บาท
ล่าสุด พ.ต.อ.สุรชัย สังข์พัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า "หากเป็นไปตามที่ชาวบ้านเล่า ถือว่าน่าเห็นใจชาวนา เพราะเท่ากับถูกรังแก ในความเป็นจริงหากสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรหาย แล้วไปตามพบเจอที่ไหนก็ตาม คนที่กักไว้จะต้องคืนให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง หากไม่คืนจะเข้าข่าย ลักทรัพย์ ทันทีและเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้"
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน จะเข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ความเป็นธรรมเจ้าของโรงงาน รวมถึงตรวจสอบหาความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่วัวจะเข้าไปได้ครั้งละหลายตัว เพราะมีประตูเข้าทางเดียวและมียามเฝ้าตลอดเวลา และหากพบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการข่มเหง รังแกเกษตรกร หรือเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คุณยายสู้ชีวิต จากบ้านเกิดมาหาบเร่ขายขนมริมทางไร้ลูกค้าต้องคอยกวักมือเรียก หาเลี้ยงตัวเองเพียงลำพัง!
- สงสารจับใจ ครอบครัวยากจน 3 ชีวิต สองตายายและหลานสาว ต้องเผชิญชีวิตที่แสนรันทด
- ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ส่วนแม่ไม่เคยเลี้ยงดู .. เด็กหญิงวัยเเค่13ปี ขยันทำมาหากิน เเบ่งเบาภาระป้ากับยาย
ขอบคุณ วรวุฒิ สุริยะธินันท์