- 04 มี.ค. 2562
หนุ่มพลเมืองดีเล่านาทีถ่ายคลิปพ่อทำร้ายลูกชาย รับไม่ได้เลยไล่ออก ขณะพาส่งรพ.เด็กหวาดกลัวมาก ล่าสุดรู้แค่อยู่ปทุมฯ
สืบเนื่องจากกรณีที่กำลังถูกแชร์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ "Piroon Tutubthim" ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอขณะที่เด็กกำลังถูกทำร้าย พร้อมทั้งยังระบุรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่าคนที่กำลังทำร้าย ทุบตีเด็กคนดังกล่าวคือพ่อแท้ ๆ ของเด็กเอง "ขอโทษด้วยนะไอหนูที่ลุงช่วยหนูถึงที่สุดแล้วด้วยกฎหมายเมืองไทยลุงไม่สามารถทำได้มากว่านี้จริง ๆ ขอให้หนูโชคดีครับ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พลเมืองดีเห็นเด็กถูกพ่อทำร้าย ทำทุกทางช่วยเหลือ ถ่ายคลิปแจ้งเจ้าหน้าที่แต่เงียบกริบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพิรุฬห์ ตู้ทับทิม อายุ 43 ปี ผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้นำหลักฐานเป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างที่ทำร้ายร่างกายบุตรชายอย่าโหดเหี้ยม พร้อมรอให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาช่วย โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อในช่วงวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นายจิรวัฒน์ สุภาวิมล อายุ 26 ปี พร้อมด้วย น.ส.เฉลิมรัตน์ จริงจิตร อายุ 24 ปี มาสมัครงานกับตนที่ร้านคาร์แคร์ จึงตัดสินใจรับทั้งคู่เอาไว้เนื่องจากเห็นว่ามีบุตรชายวัย 2 ขวบ 3 เดือน ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ภัทร สุภาวิมล หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงก็ไปคลอดบุตรก่อนเดินทางกลับมาพักอาศัยที่บ้านพักคนงานตามปกติ
โดยในวันเกิดเหตุ ตนได้รับแจ้งว่ามีพ่อทำร้ายร่างกายลูก ตนจึงได้ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทำให้พบว่านายจิรวัฒน์ใช้ไม้กวาดซึ่งด้ามเป็นพลาสติกตีลูกชายวัย 2 ขวบจนหัก พร้อมทั้งเตะเข้าที่ใบหน้า กระทืบ ตนรับไม่ได้จึงตัดสินใจไล่ออกจากงานในทันที เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นทราบว่า ด.ช.ภัทร ขโมยขวดนมน้องมาดื่มจนอาเจียนทั่วบ้าน ทำให้นายจิรวัฒน์โมโห
สำหรับอาการของ ด.ช.ภัทร ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ตัวสั่น ลูกตาขาวข้างขวาช้ำมีเลือดคลั่ง และบอบช้ำตามร่างกาย จากนั้นทาง น.ส.เฉลิมรัตน์ ได้รับตัวกลับไปอยู่ที่จ.ปทุมธานี จนขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
ขณะที่ชุดสืบสวน สน. ศาลาแดง ลงพื้นที่ติดตามตัว นายจิรวัฒน์ ที่บ้านแม่ ย่านนวนคร จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นไม่พบทั้งพ่อและเด็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบถามแม่ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเล่าว่าปกติผู้ก่อเหตุ ดูแลเอาใจใส่ลูกดี แต่เนื่องจากสมาธิสั้น จึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ในบางครั้งทำให้ก่อเหตุทำร้ายลูก