- 06 มี.ค. 2562
เนื่องจากมามอบตัวเอง เช่นเดียวกับคู่กรณีที่ส่งฝากขังไปเมื่อวานนี้ โดยระหว่างคุมตัวไปฝากขัง ผู้ต้องหาเปิดเผยว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยวันเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีที่งานวัดจริง สาเหตุมาจากถูกมองหน้าและเกิดความหมั่นไส้ โดยยอมรับว่าเคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่สมาชิกแก๊งโอรส ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้
จากกรณีเมื่อวานที่ผ่านมานั้น ร.ต.ท.ไกรสิทธิ์ เตชสกุลวุฒิชัย รอง สว.(สอบสวน)สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งจากน.ส.มลิษา เกตุอำพันธ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่189/369 แขวงตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ว่าช่วงเวลาประมาณ 00.01 น.ขณะที่ค้างคืนที่บ้านของน.ส.ณัฐฎา คล่องบัญชี ลูกสาวที่บ้านเลขที่ 161/399 ซอยจรัลสนิทวงศ์27 (แยก16) แขวงตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งมีเพื่อนของลูกสาวอยู่ด้วยกัน6-7คน โดยตนนอนอยู่ชั้น2 ได้ยินเสียงคนจำนวนมากมายืนโวยวายอยู่ที่หน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ยิงทะลุกระจกหน้าต่างเข้ามาเป็นห่าฝน ตนตกใจก้มลงหมอบกับพื้น สิ้นเสียงปืนและเสียงคน จึงลงมาพุดคุยกับลูกสาว แต่ก็ไม่มีใครรู้สาเหตุ จึงมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามตัวกลุ่มมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
สำหรับ ความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มยิงถล่มใส่กันที่ทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 27 แยก 16 แขวงตลาดบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย โดยวันนี้วัยรุ่นกลุ่มที่ตามมายิงคู่กรณีที่บ้านนั้นได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์แล้ว หลังขอเลื่อนเข้ามอบตัวจากเมื่อวานนี้
ภายหลังการสอบปากคำเยาวชนชายประมาณ 3 ชั่วโมง ตำรวจก็ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวกลางฝากขัง โดยไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมามอบตัวเอง เช่นเดียวกับคู่กรณีที่ส่งฝากขังไปเมื่อวานนี้ โดยระหว่างคุมตัวไปฝากขัง ผู้ต้องหาเปิดเผยว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยวันเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีที่งานวัดจริง สาเหตุมาจากถูกมองหน้าและเกิดความหมั่นไส้ โดยยอมรับว่าเคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ใช่สมาชิกแก๊งโอรส ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ โดยหลังจากมีปัญหากันที่งานวัด ก็กลับไปเอาปืนลูกซองยาวของน้า และตามไปที่บ้านของคู่กรณี ยิงปืนลูกซองแฝดใส่ไป 2 ครั้ง จำนวน 4 นัด แต่ก็ถูกอีกฝ่ายยิงสวนกลับมา หลังก่อเหตุได้นำปืนลูกซองไปฝากเพื่อนไว้ ก่อนจะนำกลับมาเพื่อมามอบให้ตำรวจ
อย่างไรก็ตามพันตำรวจเอกสำเริง อำพรรทอง ผู้กำกับการ สน.บางขุนนนท์ ระบุว่าตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากในทางสืบสวนพบว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างสมาชิกของแก๊งทั้ง 2 แก๊ง ซึ่งเคยอยู่กลุ่มเดียวกันต่อมาได้แยกตัวกันออกมาทำให้เกิดความไม่พอใจกันในเรื่องผลประโยชน์สิ่งผิดกฎหมายบางอย่าง หลังจากนี้จะเตรียมขยายผลไปยังพรรคพวกของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ว่ามีใครร่วมก่อเหตุอีกบ้าง โดยเบื้องต้นพบว่ามีพรรคพวกของผู้ก่อเหตุอีกประมาณ 5 คน ที่มีการไปตะโกนเรียกให้คู่กรณีที่อยู่ในบ้านออกมาเคลียร์ก่อนเกิดเหตุยิง ขณะที่จากการตรวจสอบสารเสพติด ไม่พบสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แก๊งโอรสแค้นอริรัวหมัดงานวัด ตามรัวยิงถึงบ้าน จบไม่ลงต้องร้องขอผู้ใหญ่หย่าศึก
- จับแล้ว "แก๊งโอรส" ลั่นไกถล่มคู่อริ