- 08 มี.ค. 2562
หนุ่มทำวิจัยอาชีพชาวนาไทยยุค 2019 ชีวิตดี ไม่พูดว่ารวย แต่มีเงิน-ที่ดิน
ถือเป็นอาชีพสำคัญที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน สำหรับ "ชาวนา" หรือจะเรียกว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติก็ว่าได้ อาชีพที่ทุ่มเทหยาดเหงื่อ ทำงานหนัก เพื่อปลูกข้าวในคนในประเทศได้กิน และข้าวยังเป็นสินค้าอันดับต้นๆ ที่ประเทศไทยส่งออกไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า อาชีพชาวนาในอีกมุมที่มีเกียรติ ก็ยังถูกเหยียดหยามด้วยเพราะมองว่า ไม่ได้มีหน้าตาทางสังคม เงินน้อย เป็นหนี้บ้าง ปะปนกันไป
แต่ล่าสุดได้มีหนุ่มนักวิจัย ค้นพบว่าชาวนาไทยยุคใหม่ที่เน้นทำเกษตรอินทรีย์ ไม่พูดว่ารวย แต่มีเงิน ใช้สมาร์ทโฟน เล่นเน็ตหาความรู้ด้านเพาะปลูก มีที่ดินทำกินเอง โดยตั้งกระทู้ผ่านเว็บไซต์ชื่อดังระบุว่า ชาวนาที่ผมพบระหว่างไปช่วยทำวิจัย ไม่เหมือนที่เราคิด
ผมเป็นคนที่ลงพื้นที่บ่อยอยู่แล้ว แต่มักไม่ค่อยพบกับชาวนาเท่าไหร่ บังเอิญช่วงสองปีมานี้ ผมไปช่วยอาจารย์ท่านหนึ่งทำวิจัย เลยพบกับชาวนาทางอีสานบ่อย อำเภอที่ผมลงส่วนใหญ่เป็นอำเภอขนาด 3 เซเว่น คือมีเซเว่นประมาณสามแห่ง อยู่ในปั๊มปตท.หนึ่งแห่ง และในตัวอำเภอสองแห่ง คือเป็นอำเภอขนาดกลางออกไปทางเล็ก มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนที่ผมมโนขึ้น เลยอยากเล่าให้ฟัง
ฐานะ
- ชาวนาที่ผมพบทางอีสาน กลุ่มเป้าหมายคือทำเกษตรอินทรีย์
ดังนั้นรายได้ของเขาค่อนข้างดี เพราะมีผู้รับซื้อส่งออกไปต่างประเทศ
และต้นทุนเกษตรอินทรีย์ต่ำ ผมไม่ค่อยพบคนจน เชื่อว่ามี แต่เขาไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายวิจัย
- ชาวนามักไม่พูดว่าเขารวย เพราะทุกคนมีหนี้ สภาพจะคล้ายคนเมืองคือมีทั้งหนี้และรายรับที่ดี
- บ้านที่รวยจริง คือบ้านที่มีคนหนุ่มสาว เช่น ลูกไปทำงานโรงงานที่กรุงเทพ แล้วกลับมาทำนา
- ทุกบ้านมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นเช่นเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ โทรทัศน์จอแบน
- ทุกคนมีที่ดิน (คนไม่มีที่ดินมักไม่ได้อยู่ในการวิจัย ผมเลยไม่ทราบว่ามีเยอะไหม)
- ชาวนาทุกครอบครัวมีรถยนต์ อย่างน้อยปิกอัพหนึ่งคัน ส่วนใหญ่จะมีหลายคัน และอาจมีรถอีโคคาร์ไว้ให้ภรรยาส่งลูกไปโรงเรียน เหมือนกับคนในเมือง
ชีวิต
- บ้านมักใหญ่แต่ไม่หรู เช่นสร้างแบบครึ่งๆกลางๆ
- เด็กราวๆ 10 เปอร์เซนต์ มีแอร์ในห้องนอน
- เด็กทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ
- เด็กทุกคนไปเซเว่นอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง ถ้าคนที่บ้านมีอีโค่คาร์ก็ไปทุกวัน
- เซเว่นจะมีสถานะคล้ายกับห้าง วัยรุ่นมักขี่มอร์เตอร์ไซค์ไปนั่งเล่นหน้าเซเว่น
- ทุกคนมีสมาร์ทโฟน แม้แต่ไอโฟนก็พบบ่อย ทุกคนเล่นไลน์ เฟซบุ๊คได้ และเข้าเวบเช็คราคาพืชผลได้ ส่วนเวลาว่าง
ก็ดูยูทูปกัน พูดง่ายๆคือสิ่งเดียวที่เชื่อมชุมชนในปัจจุบันก็คืออินเตอร์เนต
- คนส่วนใหญ่ได้ความรู้ทางการทำนาเพิ่มจากยูทูป เช่นเรื่องคลาสสิกที่ว่า "ถ้าตัดหญ้าให้ตัดต้นข้าว
ไปพร้อมกัน"
- ไม่พบคนที่เรียกว่า "บ้านนอก" ทุกคนรับรู้ มีความรู้ เท่ากับคนในเมือง เว้นแต่อาจไม่รู้บางเรื่องเช่นการเล่นหุ้น หรือเรื่อง BNK48
แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่อบต. หรือ รพ.สต. จะมีความรับรู้เท่าคนเมืองเป๊ะ
สุขภาพ
- ชาวนาอีสานที่ยังหนุ่มมักตัวสูงใหญ่ คนสูง 180 ซม.นี่พบเยอะมาก
- ชาวนา 100 คน มีสุขภาพดีจริงๆ 1-2 คน ผมจะเล่าที่เท่านึกออก เพราะผมไม่ได้เก็บข้อมูลไว้เอง อาจคลาดเคลื่อนได้ คือใน 100 คน ไขมันสูง 80-90% สูงสุดคือ Triglyceride 3,000 ! ไตไม่ปกติ 40-50% (ดูจาก e-GFR)
ความดัน เบาหวาน อย่างละราวๆ 10-20%
- ส่วนใหญ่การเจ็บป่วยเกิดจากการกินอาหาร เช่น เค็มจัด มันจัด หวานจัด แต่หลายคนก็หาสาเหตุไม่ได้
- อาหารส่วนใหญ่ทำกินเอง แต่ร้านอาหารดีๆ เดี๋ยวนี้มีทุกแห่ง แม้แต่ในชนบทที่ไกลมากๆ
- คนส่วนใหญ่มียากินครบ ต้องขอบคุณบัตรทอง เช่นส่วนใหญ่ มียาลดไขมัน ยาความดันฯลฯ การไปรับยาถือเป็น
ความสุขของคนแก่ที่เดียว ได้สังสรรค์ อวดลูกกัน เช่น "ลูกฉันทำงานอยู่ไมโครซอฟต์" (ที่แปลกคือทุกคนก็รู้จักไมโครซอฟต์)
ราชการ
-ชาวนามักลังเลที่จะเข้าร่วมกับทางราชการ เช่น ถ้าเข้าร่วมอาจได้ทุนมาสร้างโรงสีของชุมชน แต่ถ้าพลาดเช่นไปรับปุ๋ยฟรีมา เมื่อเอามาใส่ในนาอาจมีผลแทรกซ้อน เช่นทำให้ไม่เป็นอินทรีย์ 100% เสี่ยงต่อการถูกถอดถอนจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ใครเป็นลูกชาวนา หรือรู้ลึก เล่าประสบการณ์ให้ผมฟังบ้างก็ได้ แลกเปลี่ยนกันครับ
ผมขอโพสต์หว้ากอนะครับ คิดว่าหลายคนอาจสนใจเรื่องพัฒนาชนบท ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์เหมือนกัน
ทำให้มีชาวโซเชียลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงลูกหลานชาวนา ที่ได้บอกเล่าประสบการณ์ และเรื่องราวในอาชีพนี้ด้วยว่า ชาวนาบางคนก็มีความเป็นอยู่แบบ จขกท. พบ แต่ก็มีชาวนาอีกจำนวนมากค่ะ ที่ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย
เคยถาม ก็บอกมีเงินก็คงดี อยากได้อะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเงิน ก็อยู่แบบไม่มีแหละค่ะ มีความสุขแบบจนๆ ไม่ได้หาข้ออ้างให้ความจน แต่มีชาวนาจนๆที่ดูมีความสุขมากกว่าคนเมืองอีก แค่อยู่พร้อมหน้าครอบครัว ขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกไปหาปลา หาเห็ดกัน ช่วยกันดำนา ลูกหลานว่านอนสอนง่าย เท่านี้ก็สุขแล้ว สุขใจ แม้จะลำบากกายบ้าง เราเห็นยังอิจฉาเลย
บ้างก็บอกว่า เกษตรกรก็มีทั้งที่ร่ำรวยและยากจน พวกที่รวยนี่แต่ละคนซื้อของกันแบบที่คนเมืองกรุงยังอยากได้บ้าง ถ้ามีวิธีตรวจสอบรายได้ของชาวนาเพื่อดึงเข้ามาในระบบภาษีได้นี่ประเทศชาติคงดีขึ้นเยอะ
เราบอกมาตลอดเลย ว่าถ้าคนมีที่ดินทำกิน ไม่ว่าจะเกษตรกร ชาวนา ไม่จนนะคะแค่เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ถ้าลูกจ้างชาวนา ลูกจ้างเกษตรกร อันนี้จนเชื่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชาวนาเศร้า ไฟไหม้ยุ้งฉางข้าววอด หอมมะลิกว่า 10 ตัน เป็นเถ้าถ่าน
- มิจฉาชีพหลอกชาวนาวัย82ทำทีตีสนิท ก่อนวางอุบายซื้อขายที่ดิน สูญเงิน1แสนบาท
- ชาวนาสะอื้น ถูกเถ้าแก่โรงงานปิดประตูขังวัวเรียกค่าไถ่ เผยมีคนต้อนเข้าได้หัวคิวตัวละ 200 บาท
- เกษตรกรชาวนาปทุมงงหนัก หลังไม่ทราบเรื่อง พ.ร.บ.ข้าวที่ สนช.ร่างแก้ไข
โพสต์ต้นฉบับ : ชาวนาที่ผมพบระหว่างไปช่วยทำวิจัย ไม่เหมือนที่เราคิด!!