ป.ป.ส. ย้ำการโพสต์ซื้อ-ขาย “กัญชา”ยาเสพติดทุกชนิด ผ่าน Social Media ผิดกฎหมาย

สำนักงาน ป.ป.ส. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสต์ภาพ คลิป VDO ข้อความต่างๆ ผ่านโปรแกรมสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ Facebook Line Twitter Instagram ฯ หากพบมีการประกาศเปิดซื้อ–ขาย หรือสมัครตัวแทนขายยาเสพติด โดยเฉพาะ “กัญชา” เพื่อการรักษาโรค ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของสังคม ถือเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ 
 

หลังจาก พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2562 มีผลประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562         มีวัตถุประสงค์ให้ “กัญชา” ใช้ผ่อนปรนเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามเสพ ซื้อ ขาย พกพา ปลูก รวมทั้งโพสต์ภาพให้ชักชวนเสพ หรือจำหน่าย 

 

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า “ขอย้ำว่ากัญชา     ยังเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ไม่สามารถผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครอง หรือ เสพ ได้ บทนิรโทษกรรม     มีเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีกัญชาในครอบครองอยู่เดิมใช้ในทางการแพทย์ โดยสามารถแจ้งขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือในต่างจังหวัดแจ้งขออนุญาตได้ที่สาธารณสุขจังหวัดเท่านั้น และต้องแจ้งภายใน 90 วัน (ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562) แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเปิดให้บุคคล/หน่วยงาน/องค์กรผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครอง หรือเสพได้ รวมทั้ง การโพสต์ภาพ คลิป VDO หรือข้อความในลักษณะ ซื้อ-ขาย กัญชา น้ำมันกัญชา หรือยาเสพติดทุกชนิด มีความผิดทางกฎหมาย การโพสต์ รวมถึงการแชร์เป็นความผิดฐาน “โฆษณายาเสพติดให้โทษ”     

 ผู้โพสต์ หรือแชร์ภาพหรือข้อความที่ฝ่าฝืน กระทำความผิดดังกล่าว ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงฝากถึงผู้ป่วยอย่างหลงเชื่อว่าสามารถซื้อ-ขายกัญชาได้ทั่วไป หากต้องการใช้กัญชา   เพื่อการบำบัดรักษาโรคให้ไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ และวินิจฉัย หรือสั่งใช้กัญชาหรือสารสกัดเพื่อการบำบัดรักษาโรคซึ่งจะได้กัญชาหรือสารสกัดที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ และใช้ได้โดยไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย”

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปิดแจ้งครอบครองกัญชา สสจ.อุดร เงียบมีแต่คนโทรถามขอปลูก

ชาวบ้านอยากเข้าถึงกัญชารักษามะเร็ง หลังมีคนในหมู่บ้านทยอยป่วย-เสียชีวิตด้วยโรคนี้ประจำ

กก.หารือขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์และศึกษาวิจัย