- 20 มี.ค. 2562
สาวเล่าคำสารภาพ จากคนเกลียดเด็กต้องกลายมาเป็นคุณแม่!
กระทู้ที่ได้รับความสนใจและถูกแชร์ส่งต่อกันเป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ กับคำสารภาพของหญิงสาวรายหนึ่งที่"เกลียดเด็ก" ต้องกลายมาเป็นคุณแม่เต็มตัวเมื่อเธอตั้งครรภ์กับสามีของเธอ งานนี้จึงได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่จะเปลี่ยนความคิดของเธอไปตลอดกาล
คุณแม่รายนี้คือสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อคุณ "พรีรีญ่า" ได้เล่าประสบการณ์ตั้งครรภ์ของเธอระบุ
จากผู้หญิงเปรี้ยวๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีลูก (และเกลียดเด็ก) แต่...วันนี้กลายมาเป็นคุณแม่เต็มตัว เลยอยากจะขอมาแชร์เรื่องราวเพื่อเป็นกำลังให้มนุษย์แม่ทุกคนนะคะ ว่าคนที่ไม่ชอบเด็ก... วันนึง...พอเส้นทางในชีวิตเติบโตขึ้น เราก็เป็นแม่คนและรักเด็กได้เหมือนกันนะ
แนะนำตัว สวัสดีค่ะ ชื่อเฟิร์นนะคะ ตอนนี้อายุ 30+ ปัจจุบันเป็น working woman คุณแม่ลูก 2
ต้องเล่าก่อนเลยว่าเฟิร์นเป็นคนที่เกลียดเด็กมากๆ คือขึ้นชื่อในกลุ่มเพื่อนสนิทเลยว่าไม่ชอบเด็ก (และเพื่อนในกลุ่มก็ไม่อินกับเด็กเหมือนกัน) เฟิร์นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบเด็ก แต่รวมๆ คืออารมณ์แบบคาดเดาไม่ได้ ไม่ชอบเสียงร้องไห้ ไม่ชอบเล่นมุ้งมิ้ง ฟีลประมาณหลายๆ คนที่ไปกด like page ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำคัญทุกคน อะไรทำนองนั้นเลยค่ะ
พอเรียนจบมามีแฟนอีกทีตอนอายุ 27 ก็คิดเรื่องอนาคต แต่ด้วยความที่คบกันแบบไม่เคยคุยเรื่องการแต่งงานกันตรงๆ (แต่คบแบบจริงจังนะคะ) แฟนก็ไม่เคยถามว่าอยากมีลูกไหม ตลอดเวลาที่คบกันแฟนก็ดูออกหล่ะ ว่าเฟิร์นไม่ชอบเด็กเท่าไหร่ เช่น เวลาไปร้านอาหารแล้วพอเห็นคนนั่งข้างโต๊ะๆ มีลูกมาด้วย หรือขึ้นเครื่องบินแล้วได้ยินเสียงเด็กร้อง ก็จะแบบหันไปมองหน้าแฟนแล้วยิ้มอ่อนๆ แล้วคนที่ไม่ชอบเด็กอย่างเฟิร์นก็ดั๊น.. ได้ทำงานที่บางครั้งต้องอยู่กับเด็ก ต้องไปถ่ายภาพ สัมภาษณ์เด็กๆ คือเฟิร์นก็ใจดีกับเด็กนะคะ แบบไม่เคยทำหน้ายักษ์หรือดุใส่ แต่ด้วยความที่เราไม่ชอบ ก็จะไม่อิน ไม่ไปเล่นด้วย แบบทำงานๆ ให้เสร็จพอ
จนคบกันแฟนมา 5 ปี เค้าก็ขอแต่งงาน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คุยกันเรื่องนี้จริงจัง แต่เราก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องลูก หลังจากที่แฟนขอแต่งงาน เราวางแผนจัดงานแต่งด้วยตัวเอง ประมาณเดือนพ.ค.
ต่อจากนั้นเดือนก.ค. เฟิร์นก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ คือพุงจะป่องๆ หน่อย แบบอึดอัดๆ ไม่สบายตัว ก็คิดไว้แล้วหล่ะว่าน่าจะท้องนะ แต่เร็วไปไหมอ่ะ (กรี๊ด... เพิ่งแต่งแค่เดือนกว่าๆ) คือยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เฟิร์นรู้ว่าเค้าอยากมีลูกมากๆ เค้ารักเด็กมาก แฟนก็บอกว่าปล่อยเป็นตามธรรมชาตินะ แต่เราก็ไม่คิดว่าลูกจะมาเร็ว เลยเก็บความสงสัยไว้ และไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์
ตรวจการตั้งครรภ์ 3 รอบ
ครั้งที่ #1
หลังจากที่รู้สึกแปลกๆ ว่าท้องรึป่าวนะ (บอกไว้เลยนะคะ ว่ามันจะเป็นเซ้นต์ของผู้หญิง คืออยู่ๆ จะมีหน้าท้องขึ้นมา รู้สึกอืดๆ ไม่สบายตัว บอกไม่ถูก) ก็เลยไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจตอนพักเที่ยงที่ทำงานเลยจ้ะ (ใจร้อน) แต่พอรอซักพัก สรุปขีดขึ้นแค่ 1 ขีด ก็โทรบอกแฟนว่ายังไม่ท้องนะ ในใจก็แอบเสียใจนิดๆ (นี่ขนาดเกลียดเด็ก 555) แล้วเก็บที่ตรวจในถุงพลาสติกไว้เพื่อเอาไปทิ้งที่บ้าน ตอนเย็นก็เลยไลน์ไปบอกเพื่อนว่า เนี่ย..นึกว่าท้อง... แต่ว่าแค่อ้วน 555 แล้วระหว่างที่คุยกับเพื่อนก็เดินไปหยิบที่ตรวจจะเตรียมไปทิ้ง แกะมาดูจากถุงพลาสติกก่อนทิ้งอีกรอบ
เฮ้ย!! มันขึ้น 2 ขีดแบบจางๆ ตอนนั้น ตกใจ ดีใจ ช็อกมาก ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดู ทุกคนในกลุ่มกรี๊ดดีใจกันหมด (ลืมเรื่องเกลียดเด็กไป 30 วิ) แต่อีกใจเราก็แอบกังวลว่าท้องจริงหรอ แค่ทำไมขีดไม่ขึ้นเลย หรือว่ามันทิ้งไว้นานสีเลยซึมรึป่าวนะ แล้วก็เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะกลัวบอกแฟนแล้วเค้าเสียใจ ถ้าลูกยังไม่มาจริงๆ
ครั้งที่ #2
หลังจากนั้น เฟิร์นกับแฟนต้องไปดูงานและไปเที่ยวที่ไต้หวัน ก็ซื้อที่ตรวจตั้งครรภ์มาอีก 1 อัน ตรวจตอนไหนจ้ะ... บนเครื่องเลยจ้า!! 5555 (อารมณ์มโนเหมือนอยู่ในหนังรักโรแมนติก ซีนเซอร์ไพรส์แฟนบนเครื่อง กอดกันกลมพร้อมแท่งฉี่ 5555) แต่ดั๊นไม่มีจังหวะ! เพราะเครื่องออกประมาณเที่ยงคืน (ง่วงซิคะ) เฟิร์นเลยได้ไปเข้าห้องน้ำก่อนเครื่อง landing ในตอนเช้า นาทีนั้นคงรีบชิ้งฉ่องมากไปหน่อย เข้าใจอารมณ์ไหมคะ ว่าเครื่องบินก็สั่น แถมกัปตันก็ประกาศให้นั่งประจำที เอาไงดีๆ กลายเป็นว่ารีบชิ้งฉ่องไปหน่อยจนเครื่องวัดค่าไม่ได้ 555... สรุปขึ้นแค่ 1 ขีด ไม่ท้องค่า หนังรักโรแมนติกก็จบลงเท่านี้
ครั้งที่ #3
วันที่ 2 ของทริปไต้หวัน พอได้จังหวะ เฟิร์นเลยขอแวะเข้าร้านยาซะหน่อย จะแอบแฟนนางก็เดินตามมาตลอด ก็เลยบอกนิ่งๆ ว่าซื้อเผื่อไว้ แล้วพอเช้าวันที่ 3 ก็รีบตื่นไปชิ้งฉ่อง (ขอบอกว่ารอบแรกตอนเช้าฮอร์โมนแม่มาเต็มสุดนะจ๊ะ)
สรุป... 2 ขีด OMG !!!!
โมเม้นท์นั้นคือดีใจมาก เดินไปนอนกอดแฟน ปลุกให้ตื่น แล้วบอกว่า ตั้มจะเป็นพ่อคนแล้วนะ (อ่อ ลืมบอก สามีชื่อตั้มค่า) ดีใจนอนกอดกันกลมเลยทีเดียว หลังจากรู้ว่าท้อง ก็เที่ยวไต้หวันแบบชิลมากก กินปลาดิบ กินกาแฟ เดินขึ้นเขา คิดว่าชีวิตไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เป็นคุณแม่สายชิล จนกลับกทม. ไปนัดคุณหมอตรวจการตั้งครรภ์อีกรอบ ความชิลจึงหมดไป ความเป็นมนุษย์แม่จึงเข้าครอบงำในที่สุด
ตรวจครรภ์
จะบอกว่าการตรวจครรภ์สมัยนี้ไม่ใช่ ตรวจฉี่แล้วนะคะ แต่เป็นการเจาะเลือดที่ได้ผลที่แม่นยำกว่า ก็เจาะเลือดไปแล้วรออีกประมาณ 2 อาทิตย์มาพบหมออีกที (นี่ต้องรออีก...เง้อ)
ยินดีด้วยค่ะ คุณกำลังตั้งท้อง
ประโยคนี้ ไม่มีหมอคนไหนพูดนะคะ 555 ลบภาพละครหลังข่าวไปเลยค่ะ จะมีแต่บอกว่าดูจากผลการตรวจแล้วนะคะ แล้วหมอก็พูดอะไรที่เราไม่เข้าใจ (ประมาณการอ่านค่าต่างๆ) แล้วสรุปว่า ตั้งครรภ์ค่ะ โอเคค่ะคุณแม่ขึ้นเตียงเลยนะคะ (ห๊ะ!!!) ค่ะ คุณแม่ขึ้นเตียงเลยค่ะ เดี๋ยวหมอจะซาวน์ให้ดูน้องค่ะ (ห๊ะ!!! แบบออกเสียง) จุดๆ นี้ คุณแม่ทุกคนต้องเตรียมตัว เตรียมใจนะคะ เพราะมันคือการส่องกล้องไปตรวจภายในค่า
แล้วหมอก็ให้ดูภาพลูกในท้อง ซึ่ง....คือเม็ดถั่ว (5555) ดูไม่ออกเลยจ้า แค่ 5 มิลเท่านั้น แต่พอหมอให้ฟังเสียงหัวใจเท่านั้นหล่ะ โหย... ซีนดราม่าก็มา น้ำตาไหลพรากเลยค่า สามีเห็นภาพนั้นยังตกใจ 55 ว่ามีเมีย sensitive เรื่องลูกด้วย อ้าว.. นี่เกลียดเด็กไม่ใช่หรอ ทำไมมีโมเม้นท์น้ำตาคลอ
คือพอได้ยินเสียงหัวใจลูก เต้นตุ้บๆ ตุ้บๆ ตุ้บๆ แล้วเรารับรู้ได้ถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตจิ๋วๆ นี้ (เว่อร์ไหม) คือแบบเออ ในพุงของชั้นนี่มีเด็กอยู่นะ เค้ามีชีวิต มีเสียงหัวใจเต้น อยู่ดีๆ ก็ตื้นตัน มีความสุขแบบบอกไม่ถูก คนที่ได้ฟังเสียงหัวใจลูกครั้งแรกน่าจะรู้สึกเหมือนกันนะคะ มันพิเศษมากๆ พังทลายทุกอย่างกำแพงความเกลียดเด็ก ในใจคิดแม่จะยอม งดกาแฟ ปลาดิบ ทุกอย่างเพื่อหนูจริงๆ นะลู๊กกกก เจ้าเม็ดถั่วของแม่
นี่เป็นรูปที่ไปงานแต่งเพื่อนมาค่ะ ชุดที่ต้องแต่งไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวมันเน้นพุงสุดๆ จะบอกเลยว่าท้องลูกผู้ชายจะใหญ่กว่าท้องลูกสาวจริงๆ เพราะมีเพื่อนเจ้าสาวอีกคนท้องเหมือนกัน 7 เดือน แต่ท้องเล็กกว่าเฟิร์นอีก
แล้วลูกจะเริ่มดิ้น และลูกเตะเยอะมากแบบอยากร้องขอชีวิต คือมาเป็นคลื่นเลยค่ะ แล้วหมอจะให้นับว่าแต่ละวันลูกเตะครบ 10 ครั้งไหม นี่คือครบตั้งแต่เช้า ไม่ถึง 5 นาที จบครบ เรียบร้อย 555 ความรู้สึกว่าเป็นแม่คนจะเริ่มมา (นิดนึง) เพราะซาวน์เห็นลูกมาทุกเดือน แถมรู้สึกถึงลูกดิ้นด้วย ในใจลึกๆ ยังไม่แน่ใจว่านี่ชั้นเป็นแม่คนแล้วหรอ แต่คนที่ทำให้เรารู้สึกดี คือสามี เพราะจะมาคุยกับลูกทุกวัน ลูบท้องเล่นบ้าง
แต่ตลกคือก็อยากให้สามีรักเราเหมือนเดิมด้วย คือรักลูกมาก ก็ต้องรักแม่มากๆ เหมือนกันนะ 555 เพราะรูปร่างเราเปลี่ยนไปมาก ความไม่มั่นใจจะเริ่มมี ชุดจากไซส์ S เปลี่ยนมาเป็น M หรือ L เป็นช่วงที่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่เยอะมากๆ เลยค่ะ แนะนำว่าให้ใส่เดรสสะดวกดี
มาร่วมเคาดาวน์ไปด้วยกันค่ะ
12.30 มูกเลือดออก
13.00 ถึงรพ. ไปแผนกสูตินารี
13.30 คุณหมอมาตรวจ (ขึ้นขาหยั่ง) ปากมดลูกเปิด 1 ซม.
14.00 เข้าห้องเตรียมคลอด ห้องจะเป็นเหมือนห้องพักค่ะ มีเตียงคนไข้ เก้าอี้รับแขก ห้องน้ำ แยกเป็นห้องประมาณ 6 ห้องที่เป็นส่วนตัว โดยที่พยาบาลสามารถเดินมาเช็กอาการเราได้เรื่อยๆ
14.30 พยาบาลเข้ามาทำความสะอาดหน้าท้อง
15.00 ฉีดยาเร่งคลอด
16.30 ปากมดลูกเปิด 1 ซม. เท่าเดิม แต่เริ่มเจ็บท้องแล้ว จะเจ็บแบบบีบเป็นจังหวะ คล้ายปวดท้องเมนส์มากๆ แต่ปวดกว่า ทรมานกว่าค่ะ หลังจากนี้ก็เจ็บเพิ่มขึ้นๆ ทุกชั่วโมง ความทรมานเริ่มชัดเจณขึ้นเป็นระยะ
19.00 ปากมดลูกเปิด 2 ซม. หมอบอกว่าอาจจะคลอดเองไม่ได้ แต่หมอเจาะน้ำคร่ำช่วย กับช่วยขนาดมดลูกให้ พยาบาลลดยาเร่งคลอดให้คลายความเจ็บ
20.00 หมอบอกคลอดเองได้ ช่วยขนาดช่องคลอดเพิ่ม ปากมดลูกเปิด 5 ซม.
20.30 พยาบาลให้ยาแก้ปวด แล้วเข้าห้องคลอด ตอนนั้นคือทุกอย่างเลือนราง มันเจ็บและเหนื่อยจนแทบจะหมดแรง เอาเลยค่ะ ใครให้ทำอะไรก็ทำ จะมีพยาบาลมาสอนก่อนเบ่งและการหายใจเป็นจังหวะ พร้อมเป็นกองเชียร์คอยบีบมือเรา โดยการคลอดตามธรรมชาติของเฟิร์นจะแบ่งเป็น 3 เซต ใน 1 เซต ให้เบ่ง 3 ครั้ง ส่วนคุณหมอจะมีหน้าที่สังเกตอาการและทำคลอดค่ะ
**ที่รพ. ธนบุรี จะไม่ให้สามีเข้าห้องคลอดนะคะ จะเข้าได้ตอนคลอดแล้วเท่านั้น
ภาพที่เห็นลูกครั้งแรก ....แบบมีสติคือตื้นตันมาก ความเป็นแม่เริ่มมาก นี่เป็นสิ่งมีชีวิตจิ๋วๆ ที่เกิดจากเรานะ ภูมิใจ ดีใจมากๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวเล่านาที เที่ยวทริปล่องเเพเมืองกาญฯ ลั่น ขอให้มันเป็นครั้งสุดท้าย!
- เปาวลี เล่าทั้งน้ำตา เส้นทางรัก เอิร์ธ 8 ปี เหมือนฝัน เพราะเราเป็นแค่สาวบ้านนอก(คลิป)
- หนุ่มเล่าเรื่องเศร้า เมื่อลูกชายวัย 5ขวบ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวันเกิดตัวเอง
- "หนิง ปณิตา" เปิดใจเล่าสาเหตุวูบหมดสติคาบ้าน น้ำตาไหลขยับตัวไม่ได้
- สาวสวยเล่าอุทาหรณ์ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตันในสมอง จนรูปร่างหน้าตาเปลี่ยน
ขอบคุณ พรีรีญ่า