ศาลฎีกาพิพากษากลับยกฟ้องคดีฆาตกรรม "น้องเพลง" วัย 11 ปี หลังผตห.เคยตัองโทษสูงสุดประหารชีวิต

จากกรณีได้รับการร้องทุกข์จากนายสุวัฒน์ รำนา อายุ 36 ปี หลังจากที่ลูกสาวชื่อ ด.ญ.เกตุมาตุ รำนา หรือน้องเพลง อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนดรุโณทัย อ.เมือง จ.ตรัง ที่ถูกคนร้ายฆ่าอย่างอำมหิตและนำศพไปซุกซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำห่างจากบ้านพัก ประมาณ1กม. เหตุเกิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2557

จากกรณีได้รับการร้องทุกข์จากนายสุวัฒน์ รำนา อายุ 36 ปี หลังจากที่ลูกสาวชื่อ ด.ญ.เกตุมาตุ รำนา หรือน้องเพลง อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนดรุโณทัย อ.เมือง จ.ตรัง ที่ถูกคนร้ายฆ่าอย่างอำมหิตและนำศพไปซุกซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำห่างจากบ้านพัก ประมาณ1กม. เหตุเกิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2557

 

น้องเพลง เหยื่อ ฆ่ายัดท่อ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปล่อยให้เป็นเรื่องเวรกรรม..! เปิดใจ แม่ "น้องเพลง" เหยื่อถูกฆ่ายัดท่อ ลั่นเห็นด้วยกับโทษประหาร เชื่อคนทำผิด...ไม่มีทางที่จะกลับตัว!? (คลิป)

ล่าสุด นายสุวัฒน์ และนางพนมวรรณ รำนา พ่อและแม่ รวมถึงพี่ชายและพี่สาว ของ ด.ญ.เกตุมาตุ รำนา (น้องเพลง) อายุ 11 ปี ที่ถูกคนร้ายฆ่าอย่างอำมหิตและนำศพไปซุกซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำเป็นโจทย์ร่วม พร้อมด้วยนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าน้องเพลงได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดตรัง เพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีนายประถมพงษ์ หรือแต๋ม หมื่นบาล จำเลยในคดีฆ่าเด็กหญิงวัย11ปีดังกล่าว ในฐานความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาและฐานซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ 

 

โดยมีพนักงานอัยการจังหวัดตรัง เป็นโจทก์ และนางพนมวรรณ รำนา แม่ของเด็กหญิงเป็นโจทย์ร่วม ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา ผลปรากฏว่า ศาลฏีกาได้พิพากษายกฟ้องจำเลยใน 2 ฐานความผิดดังกล่าวและยกคำขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 840,000บาท ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาล หลังรับฟังคำพิพากษาแล้วนายสุวัฒน์ และนางพนมวรรณ (พ่อและแม่ของเด็กหญิง) ได้เดินทางกลับทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว บอกแต่เพียงว่า "ยอมรับคำตัดสินของศาล ถือได้ว่า5ปีที่ผ่านมาพอใจแล้ว"

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คดี ฆ่ายัดท่อ น้องเพลง


ทั้งนี้ นายวิมล วงศ์สว่างศิริ อายุ 70 ปี ทนายความฝ่ายนายประถมพงษ์หรือ แต๋ม กล่าวว่า คดีนี้ตนทำมาตั้งแต่ต้น โดยมีทนายร่วมประกอบด้วย นายวิฑูยร์ องอาจ นายปัญญา อ่วมอ่อน ต่อสู้ไปตามข้อเท็จจริง เพราะว่าตามที่เราสืบทราบดูแล้วเขาไม่ได้กระทำผิด และข้อเท็จจริงพยานหลักฐานหรือคดีก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นมาในคดีนี้ เมื่อพิจารณาดูรายละเอียดตามที่ศาลได้พิจารณาแล้วปรากฏว่า 1.ฝ่ายโจทย์ไม่มีพยานรู้เห็นในที่เกิดเหตุ 2.พยานเชิงนิติเวชก็ปรากฏว่าไม่มีดีเอ็นเอของฝ่ายจำเลยเข้าไปเกี่ยวข้อง และศาลได้ให้เหตุผลสองอย่างนี้เลยยกฟ้อง 
 

ขณะเดียวกันนายสายัณห์ พี่ชายนายประถมพงษ์ ได้กล่าวว่า "อยากให้ตำรวจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้เราต้องเสียหาย เสียชื่อเสียงพ่อแม่พี่น้องสังคมประณามเรามามาก ทำให้เราไปไหนไม่ได้เลย ลูกเมียต้องลำบากต้องเดือดร้อน ลูกสองคนก็ต้องออกจากโรงเรียน จรรยาบรรณของแต่ละหน่วยงานอยู่ตรงไหนคือต้องการคดีให้จบแต่ว่าเราไม่รู้เรื่องอะไร มันไม่ใช่ เมื่อเขาเข้าไปตรวจค้นตนเองก็ให้ตรวจค้นอย่างดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้เขารู้ว่าเราไม่ได้ทำ"


"และตนก็ทำงานเลี้ยงลูก ส่งลูกเรียนหนังสือ แต่ตอนที่ตนเองติดคุกทำให้ลูกต้องออกจากโรงเรียน และตนเองเคยแสดงความบริสุทธิ์ใจตั้งแต่ตอนแรกว่าตนเองไม่ได้ทำไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไร เขาต้องการปิดคดีให้ได้ ถึงคดีเหมือนใช้อำนาจตนคิดสำหรับตัวผมว่าความยุติธรรมไม่มีตั้งแต่ตอนแรก แต่ยังดีที่ศาลยังเห็นความยุติธรรม เมื่อประสบกับตัวเองเราถึงจะรู้"


สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 เด็กหญิงวัย 11 ขวบได้หายออกไปจากบ้าน โดยที่ครอบครัว และญาติๆได้ช่วยกันตามหา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2557 มีคนไปพบศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมซุกซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำ บนถนนสายวัดพระงาม-บ้านควน พื้นที่ ม.7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายศาลจับกุม นายประถมพงษ์ หมื่นบาน หรือแต๋ม อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านของน้องเพลงโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อการปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตายโดยในชั้นจับกุมนายประถมพงษ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


ต่อมาเมื่อวันที่ 16ธ.ค.58 ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้ โดยได้พิจารณาเชื่อมโยงหลักฐานต่างๆ แล้วเชื่อว่า นายประถมพงษ์ เป็นผู้กระทำผิดจริงจึงพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจำคุกตลอดชีวิต ในข้อหาปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ พร้อมให้จำเลยชดเชยค่าเสียหายแก่โจทย์ร่วม จำนวน 840,000บาท. และต่อมาเมื่อวันที่ 28ก.ย.59 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาลดโทษเหลือตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 840,000บาท ซึ่งหลังจากทราบผลการตัดสิน ฝ่ายจำเลยได้มีการยื่นคำร้องของสู้คดีในชั้นฎีกา ขณะที่ฝ่ายโจทย์ร่วม โดยมารดาของน้องเพลง ได้มอบหมายให้ทนายยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อขอให้ตัดสินลงโทษผู้ต้องหารายนี้ตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิต และศาลฏีกาได้นัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ ผลปรากฎว่าศาลฏีกาได้สั่งยกฟ้อง


ศาลฎีกาพิพากษากลับยกฟ้องคดีฆาตกรรม "น้องเพลง" วัย 11 ปี หลังผตห.เคยตัองโทษสูงสุดประหารชีวิต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ศาลกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตัดสินประหารชีวิตผู้กองเหน่งฆ่า ผอ.อ้อย

เมียใจอำมหิต จ้างลูกเขยฆ่าผัววัย 63 ปี ก่อนเปิดปากพูดเพราะ "ปมความแค้น" มันสุมในอก

สามีเฒ่าชาวอิตาลี เครียดจัด ตัดสินใจฆ่าภรรยาไทย ก่อนใช้มีดแทงตัวเองดับตาม