หนุ่มตกงานสู้ชีวิต ฝ่าฟันทุกอุปสรรค  จนได้เป็นวิศกร รับเงินเดือนครึ่งแสน

เมื่อมีหนุ่มรายหนึ่ง บอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ที่ต้องตกงาน และมีเงินติดตัวอยู่ไม่กี่พันบาท ก่อนจะมุ่งมั่นหาเงินใหม่ จนได้ทำงานด้านวิศวะ มีรายได้หลายหมื่นบาทเลยทีเดียว

กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ที่กำลังท้อแท้เรื่องงาน กำลังหางาน หรืออาจจะกำลังตกงานอยู่นั้น เมื่อมีหนุ่มรายหนึ่ง บอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ที่ต้องตกงาน และมีเงินติดตัวอยู่ไม่กี่พันบาท ก่อนจะมุ่งมั่นหาเงินใหม่ จนได้ทำงานด้านวิศวะ มีรายได้หลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
 

โดยหนุ่มรายนี้ ได้เล่าว่า "เห็นหลายๆกระทู้ เล่าถึงความลำบากในการตกงาน วันนี้อยากจะลองแชร์ประสบการณ์ เผื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่ตกงานอยู่ครับ

 

1. ชีวิตช่วงที่ 1 เด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์ 
    
ชีวิตช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ใช่ความสำเร็จ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ ตอนนั้นผมจบ พระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิศวไฟฟ้า และได้ทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง โรม อินทริเกรตซิสเตมส์  นวนคร ปทุม เงินเดือน 17,000 baht สวัสดิการถือว่าระดับดีพอตัว โบนัส2-3 เดือน  มีห้องให้อยู่ฟรีกับรูมเมท บวกสวัสดิการและโอทีผมได้อยู่ประมาณ 23,000 baht และไม่มีภาระอะไรเลย
    

ทำงานในส่วนของ Test engineer ทำหน้าที่ Dbug ตัวIC และเก็บข้อมูลทำ CPK และมีประชุมกับ Plant ที่ Philipines ในส่วนของงานผมถือว่าโชคดีมีรุ่น พี่ที่จบจากสถาบันเดียวกัน ใน 3 พระจอม ลาดกระบัง บางมด และพระนครเหนือ ที่ช่วยซัพพอร์ตในเรื่องงานและให้คำปรึกษาที่ดี  แต่เป็นตัวผมเอง ที่ทำตัวเองให้มีชีวิตที่ต่ำลง เนื่องจากตัวเองที่ไม่มีภาระอะไร ได้เงินมาก็ไม่ได้ให้พ่อให้แม่ ตกเย็นหลังเลิกงานผมไปเที่ยว ผับย่านๆรังสิต นวนคร อยู่เป็นประจำ 

 


สมัยนั้นถ้าใครอยู่ปทุม ก็จะรู้จัก แสงจันทร์ เวียงจันทร์ ไม้หอม ชายคา เวอร์จิ้น บังกะโล คลองเพลง  คือไปมาหมดและ หมดกับการเที่ยวเตร่และผู้หญิงเดือนละเกือบหมื่น หวย 2 งวดอีก 4-5 พัน เหลือเงินแค่พอกินพอใช้ในโรงงาน จนมีบัตรเครดิตที่โทรมาจากธนาคาร เสนอมาให้ทำ ไอ้เราตอนนั้นคิดว่าเขาเอาเงินมาให้เราใช้ ก็เลยสมัครเล่นๆ ไป 4-5 ที่ Kbank , KTC , CIMB  , BAY จนทุกที่โทรมาว่าผมผ่านหมด ใช้เงินจนมือเติบ ต้องเอาโบนัสมาจ่ายหนี้ พอผมเริ่มไม่ไหวจึงมองหางานที่เงินเดือนสูงกว่าเดิม จนเปลี่ยนงานมาหลายๆ ที่ ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ HANA , SVI ,CANON  , STARS MICRO ในระยะเวลา 4-5 ปีผมเปลี่ยนงานที่ละปี บางที่ ทำอยู่ 4-5 เดือน เพราะความเหลวกแหลกของตัวเองล้วนๆ ที่เป็นชีวิตส่วนตัว ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานเลย

 


2. ชีวิตช่วงที่ 2 จากหายนะสู่นรก ตอนนั้นออกจากงานที่สตาร์ไมโคร  ผมตกงานอยู่ 3เดือน นรกของจริงเพราะผมมีเงินเหลืออยู่ 5000 บาท เดือนแรกผมกลับมาอยู่บ้าน พ่อก็ด่า แม่ก็ด่า ผมก็ไม่มีรถไปสัมภาษณ์งาน ผมไประยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นั่งรถตู้จากฟิวเจอร์รังสิต ไปทีก็หมดไปประมาณ 500-1000 บาท สัมภาษณ์กับบริษัทชื่อดัง แต่ก็ไม่ได้สักที่ อาจเป็นเพราะประสบการณ์ผมไม่มีทักษะกับนายจ้างที่เขาต้องการ เช่น PLC , solidwork , auto cad  ผมใช้ไม่เป็นสักอย่าง เงินเก็บผมหมด ผมเคว้งคว้าง ขอเงินแม่ไปร้านอินเตอร์เนตวันละ 100 บาทเพื่อส่ง Resume ในหลายๆเว็บ ทั้ง jobthai , jobtopgun , jobsdb มีเรียกไปสัมภาษณ์ 20 ที่ในะระยะเวลา 3 เดือน แต่ไม่ได้สักที่ ผมท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่กล้าสู้หน้าพ่อกับแม่ จนผมได้อ่านกระทู้นึงในพันทิพ ที่เป็นจุดเปลี่ยน คือเวลาไปสัมภาษณ์ ให้ตอบความจริง รู้ตอบรู้ ไม่รู้ตอบไม่รู้ จนผมได้รับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่เข้าได้งานกับบริษัท ด้านยานยนตร์ ย่านวังน้อย และหัวหน้าผมก็จบพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ที่เดียวกัน หัวหน้าผมคนนี้เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของผม 

 

หนุ่มสู้ชีวิต  จนได้เป็นวิศกร รับเงินเดือนครึ่งแสน

 

3. จากนรกสู่ดินแดนสวรรค์ ผมได้ทำงานในส่วน Improvement engineer แต่ ทักษะผมตอนนั้นต่ำเตี้ยรากดินมาก แต่หัวหน้าผมนั้นคือ Mr.perfect คือแกคอยเป็นพี่เลี้ยงผม เทรนผมด้านโปรแกรม PLC เบื้องต้น ให้ผมเรียนรู้ทักษะการ Assembly machine , ให้ผมวาดเขียนแบบวงจรไฟฟ้า หัวหน้าผม แกออกแบบ Machine part ด้วย Solidwork เขียนโปรแกรม PLC ได้เอง แต่ยี่ห้อเดียวคือออมรอน ผมยอมรับว่าอยากเป็นเหมือนแกมาก คืออยากเก่งแบบหัวหน้าผม ผมได้ประสบการณ์ตรงนั้นๆ เต็มๆ อยู่ 2 ปี และคิดว่าถึงเวลาที่ผมควรจะมองหางานที่เหมาะสมกับทักษะเรา 
     

 

ผมเดินไปบอกหัวหน้าว่า "พี่ครับ ใบลาออกครับ" ตอนแรกผมนึกว่าหัวหน้าจะรั้งผมไว้ด้วยคำพูดบางอย่างเหมือนหลายๆ ที่ ที่ผมเคยอยู่  แต่หัวหน้ากลับ  เอ่ยขึ้นมาว่า " ทุกคนก็อยากมีเงินเดือนสูงๆ แต่พี่ไม่ได้อยากให้แกออกไปเพราะเงินเดือนนะ พี่อยากให้แกออกไปแล้วเก่งกว่าพี่ ทำได้ดีกว่าพี่ ฝึกฝีมือให้เยอะนะ ไว้สักวันเองเก่งกว่าพี่แน่นอน " ยอมรับตามตรงตอนนั้นว่าผมกลั้นน้ำใจแทบไม่อยู่ น้ำตาของหัวหน้ากับลูกน้องที่อายุห่างกันไม่กี่ปี น้ำตาของพี่กับน้องที่เคยเรียนสถาบันเดียวกัน 

 

หนุ่มตกงานสู้ชีวิต ฝ่าฟันทุกอุปสรรค  จนได้เป็นวิศกร รับเงินเดือนครึ่งแสน

 

4. จากสวรรค์ สู่ การเดินทางไปในอวกาศ หลังจากที่ได้ออกจากบริษัทนั้น ผมก็เปลี่ยนงานมาอีก 2-3 ที่ ยอมรับตรงๆเพราะเงินทั้งสิ้น และระหว่างนั้นผมก็ใช้พื้นที่โซเชียล ในการค้นหาข้อมูลเพื่อเพิ่มทักษะให้กับตัวเอง (หลายคนมักใช้ในความบันเทิง facebook , IG ,line youtube )


แต่ผมมองกลับมุมที่ว่ามันเป็นสังคมแห่งองค์ความรู้ทั้งนั้น ในเฟซบุ๊กมีกลุ่มทั้ง Thai plc , automation traning , CAD-CAM,วิศวกรไฟฟ้า หลายคนใช้วันหยุดพักผ่อน ไปกับการเที่ยวตจว ดูหนังออนไลน์ ช้อปปิ้ง ซึ่งก็ไม่ผิดในการหาความสุขให้ตัวเอง แต่ผมจะแบ่งเวลาในแต่ละเดือน เพื่อมองว่าทักษะไหนจำเป็นกับงานที่เกี่ยวข้องในอนาคต แะเทรนด์อุตสาหกรรมไปในทิศทางไหน จนได้พบกับคำตอบ E Factory , AI automaton ,Robot 


ผมได้เดินทางไปหาประสบการณ์ กับ พี่ๆที่มากความสามารถ ในหลายๆบริษัท ซึ่งบางคนใจดีมาก สอนผม เทรนผมแบบไม่กั๊กวิชาความรู้ ตอนนั้นผมไม่มีรถ ผมนั่งรถตู้จากรังสิต ไปพระราม 2 ซอยบางกระดี่10 เพื่อไปหาพี่คนนึงที่เทรน PLC ให้ฟรี จาก Basic ถึง Advance ผมไปหาพี่ที่เป็นAplication engineer ของบริษัท Siemens เพื่อให้เขาลงโปรแกรม และเทรนจอ HMI proface , ผมได้ไปเรียน Solidwork ฟรีกับพี่ที่ยอมสละเวลามาสอนผม ผมเคยถามพี่เหล่านั้นว่าทำไมถึงสอนผม หลายๆคนตอบกลับมาว่า พี่เห็นในความพยายาม ความมุ่งมานะของเอง ตอนแรกพี่จะเก็บตังนะ แต่เองมาก็มีค่าใช้จ่ายงั้นพี่เลี้ยงเบียร์แกเอง กลับกลายเป็นว่าควรเป็นผมที่จะต้องเลี้ยงข้าวแก กลับกลายเป็นพี่ที่สอนผมเลี้ยงข้าวผม ทุกวันนี้ผมกลับไปก็ซื้อเบียร์ไปให้แกเสมอ ผมได้อะไรเยอะมากช่วง2-3 ปีนี้ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเหนื่อย แต่มีความสุขทุกครั้งที่เจอคนที่เก่งๆ คนที่สอนเราแบบไม่หวงคามรู้

 

ปัจจุบัน เงินเดือนผมเพิ่มจาก 30,000 กระโดดมาที่ 43,000 แต่รายรับรวมผมได้อยู่ที่ 52,000  กับบริษัทยางรถยนตร์ชื่อดังที่ยอดขายเยอะที่สุดในโลก  ผมเชื่อว่ามีคนที่เงินเดือนมากกว่าผมเยอะ แต่เขาเหล่านั้นไม่ได้ได้มาแบบฟลุคๆ หรอกครับ ความสามารถทั้งนั้น

 


หลายคนคิดว่าเป็นเพราะต้นทุนเราน้อย จบแค่ปวช ปวส. มหาลัยไม่ดัง เลยมองคุณค่าของตัวเองน้อยเกินไป  แต่อยากให้ทุกคนสร้างคุณค่าของตัวเองขึ้นมาจากประสบการณ์ชีวิต  เราต้องสร้างทักษะด้วยตัวเราเองและหาตัวเองให้เจอไวๆ อย่าเสียเวลา ไปกับสิ่งอบายมุขมากนัก บางทีมันอาจเป็นช่วงของเวลาวัยรุ่น วัยคึกคะนอง แต่อยากให้กลับตัวให้ไว เที่ยวได้ เมาได้ ปี้ได้ แต่ก็แบ่งเวลาให้เหมาะสมกับชีวิตเรา พยายามมอง Internet , google ,youtube , facebook คือแหล่งความรู้ชั้นยอด 

 


และเมื่อเราได้โอกาสไปสัมภาษณ์งานเราก็จะมีโอกาสจากการสร้างคุณค่าในตัวเรา ในส่วนของการสมัครงานควรทำตัวเองให้โดเด่นใน Resume เช่น ผลงานที่เคยทำมา ทักษะที่มีและสามารถต่อยอดได้อนาคต ภาษาอังกฤษมีส่วนสำคัญอย่างมากครับสมัยนี้พยายามเพิ่มทักษะตรงนี้ให้มากๆครับ หวังว่าบทความนี้ช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจในการหางานต่อไปนะครับ"

 

หนุ่มตกงานสู้ชีวิต จนได้เป็นวิศกร รับเงินเดือนครึ่งแสน

 

หนุ่มตกงานสู้ชีวิต ฝ่าฟันทุกอุปสรรค  จนได้เป็นวิศกร รับเงินเดือนครึ่งแสน

โพสต์ต้นฉบับ : แชร์ประสบการณ์จากคนตกงาน สู่ วิศกรเงินเดือนครึ่งแสน


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ตกงาน เลิกจ้าง ลาออก สามารถรับสิทธิเงินชดเชยประกันสังคมได้

-ระวังคนจริงจะตกงาน! สำนักข่าวซินหัวเปิดตัวผู้ประกาศข่าว AI "คนแรกของโลก" สมจริงสุดๆ!

-อาชีพเสี่ยงตกงาน ปี 2562 ทีวี - สำนักพิมพ์ อันตราย ร้านขายของแบบดั้งเดิม ติดโผ!

-กระทรวงแรงงานเผย 3 สาขาปริญญาตรี จบแล้ว "ตกงาน" สูงสุดในประเทศ

 

ขอบคุณ : pantip.com